โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ทหารหน่วยนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ขอตรวจมะเร็งเจ้าหน้าที่หลังพบผู้ป่วยหลายคนในหน่วยเดียวกัน

JS100

อัพเดต 28 ม.ค. 2566 เวลา 13.37 น. • เผยแพร่ 28 ม.ค. 2566 เวลา 04.30 น. • JS100:จส.100
ทหารหน่วยนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ขอตรวจมะเร็งเจ้าหน้าที่หลังพบผู้ป่วยหลายคนในหน่วยเดียวกัน

นายทหารระดับสูงของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่รับผิดชอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่ยิงได้ทั้งทางอากาศและภาคพื้นดินของประเทศ ร้องขอให้มีการสอบสวนอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับกรณีที่มีสื่อในสหรัฐฯ รายงานว่า มีเจ้าหน้าที่ทหาร 9 นาย มีผลการวินิจฉัยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอนฮอดจ์กิน (non-Hodgkin lymphoma) และคนหนึ่งเสียชีวิตแล้ว ซึ่งพบว่าทั้งหมดประจำการที่ฐานทัพอากาศมาล์มสตรอม (Malmstrom Air Force Base) ในรัฐมอนทานา โดยประจำการในหลุมหลบภัยใต้ดินในจุดที่ใกล้กับขีปนาวุธข้ามทวีปมินิทแมน III (Minuteman III)

พล.อ.โทมัส เอ บัสเซียร์ ผู้บัญชาการ กองบัญชาการจู่โจมทั่วโลกของกองทัพอากาศ (Air Force Global Strike Command) ซึ่งรับผิดชอบหัวรบนิวเคลียร์ที่ใช้ฐานไซโลและเครื่องบินยิงทั้งหมด เปิดเผยว่า เขาได้ร้องขอให้โรงเรียนเวชศาสตร์การบินและอวกาศของกองทัพอากาศสหรัฐฯ (US Air Force School of Aerospace Medicine) ทำการประเมินอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับรายงานฉบับนี้ และความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับบุคลากร แต่ยังไม่ชัดเจนว่าการประเมินนั้นจะจำกัดเฉพาะมาล์มสตรอม หรือจะรวมศูนย์ขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่คล้ายกัน คือที่ฐานทัพอากาศไมนอต์ ในรัฐนอร์ทดาโคตาและฐานทัพอากาศวอร์เรน ในรัฐไวโอมิง โดยในระหว่างนี้ บุคลากรและครอบครัว ตลอดจนอดีตบุคลากร ที่อาจมีความกังวลหรือมีคำถาม สามารถนัดพบแพทย์เพื่อพูดคุยได้

สมาคมโรคมะเร็งอเมริกัน เพิ่มเติมว่า มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอนฮอดจ์กิน ส่งผลกระทบต่อประชากรประมาณ 19 คนต่อทุกๆ 100,000 คนในสหรัฐฯ เป็นมะเร็งเม็ดเลือดที่ใช้ระบบน้ำเหลืองที่ต่อสู้กับการติดเชื้อของร่างกายในการแพร่กระจาย

#มะเร็งต่อมน้ำเหลือง

#หน่วยนิวเคลียร์

#กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...