ยอดเสียชีวิตน้ำท่วมอินโดนีเซียทะลุ 1,000 ราย ทางการเร่งให้ความช่วยเหลือ

น้ำท่วมและดินถล่มครั้งร้ายแรงได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 1,006 รายในอินโดนีเซีย ขณะที่ประเทศกำลังรับมือกับความพยายามในการบรรเทาทุกข์ครั้งใหญ่

ชายคนหนึ่งถ่ายรูปขณะยืนอยู่บนกองต้นไม้ที่ถูกกระแสน้ำท่วมฉับพลันพัดพาไป ที่โรงเรียนประจำอิสลามดารุลมุคลิซิน ในอาเจะห์ตาเมียง ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม (Photo by Yasuyoshi CHIBA / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม 2568 กล่าวว่า ภัยพิบัติน้ำท่วมและดินถล่มครั้งร้ายแรงได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 1,006 รายในอินโดนีเซีย ขณะที่ทางการกำลังเผชิญกับความยากลำบากในการบรรเทาทุกข์ครั้งใหญ่

หายนะครั้งนี้เกิดขึ้นทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะสุมาตราในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 5,400 คน ตามรายงานของสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติ

ฝนตกหนักอย่างรุนแรงครั้งล่าสุดเป็นหนึ่งในภัยพิบัติร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในสุมาตราในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากที่เคยเกิดสึนามิถล่มปลายเหนือสุดของเกาะในปี 2004

คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก โดยอับดุล มูฮารี โฆษกของสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติกล่าวว่า ยังมีผู้สูญหายอีก 217 คน และทางการกำลังเร่งให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด

เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกทำลายด้วยฝน, โคลน และต้นไม้ล้ม ทำให้ประชาชน 1.2 ล้านคนต้องไปอาศัยอยู่ในที่พักพิงชั่วคราว

ทั้งนี้ ความไม่พอใจเพิ่มขึ้นในหมู่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งบ่นเกี่ยวกับความล่าช้าของความช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ชี้แจงเมื่อวันเสาร์ว่าสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว โดยหลายพื้นที่ที่เคยถูกตัดขาดสามารถเข้าถึงได้แล้ว

"บางแห่งอาจมีความล่าช้าเล็กน้อยเนื่องจากสภาพธรรมชาติและสภาพทางกายภาพ แต่ผมได้ตรวจสอบสถานที่อพยพทั้งหมดแล้ว สภาพของพวกเขาดี, บริการต่างๆ เพียงพอ และเสบียงอาหารก็เพียงพอ" ประธานาธิบดีกล่าวหลังจากลงสำรวจพื้นที่ในจังหวัดสุมาตราเหนือ

ชาวบ้านจำนวนมากในเมืองใกล้เคียงต่างพากันไปตั้งแคมป์ในที่พักชั่วคราว เนื่องจากบ้านเรือนของพวกเขาเต็มไปด้วยโคลน

โฆษกของหน่วยงานจัดการภัยพิบัติกล่าวว่า มีการส่งความช่วยเหลือมากกว่า 11.7 ตันไปยังเกาะสุมาตรา ทั้งทางทะเล, ทางบก และทางอากาศในวันเสาร์ และทางการกำลังเริ่มก่อสร้างที่พักชั่วคราวสำหรับผู้ประสบภัย

ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูหลังภัยพิบัติอาจสูงถึง 51.82 ล้านล้านรูเปียห์ และรัฐบาลอินโดนีเซียยังคงปฏิเสธข้อเสนอแนะที่ให้ขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ

หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาของอินโดนีเซียเตือนว่า สภาพอากาศเลวร้ายคาดว่าจะยังคงดำเนินต่อไป โดยเฉพาะฝนตกหนักในเกาะสุมาตรา.