โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ หลังทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดครั้งที่ 10

สยามนิวส์

เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • ทีมข่าวสยามนิวส์
วันที่ 27 ธ.ค. 2568 กระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์เรื่องการประท้วงต่อเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ครั้งที่ 10

วันที่ 27 ธ.ค. 2568 กระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์เรื่องการประท้วงต่อเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ครั้งที่ 10 โดยเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2568 กำลังพลสังกัดกองพันทหารราบที่ 12 ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาวางไว้ในพื้นที่สัตตะโสม จ.ศรีสะเกษ ส่งผลให้มีทหารไทยได้รับบาดเจ็บทุพพลภาพถาวร 1 นาย

ไทยขอแสดงความเสียใจต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และขอประณามการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และพันธกรณีตามอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา) ที่กัมพูชาเป็นรัฐภาคีอย่างโจ่งแจ้งอีกครั้ง

เหตุการณ์นี้ยิ่งตอกย้ำความสำคัญและความจำเป็นอย่างเร่งด่วนของการยึดมั่นในการปฏิบัติตามแถลงการณ์ร่วม (Joint Statement) เกี่ยวกับการหยุดยิงที่ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามร่วมกันในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย - กัมพูชา (GBC) สมัยพิเศษ ครั้งที่ 3/2568 ในวันเดียวกัน ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อความปลอดภัยของทหารและพลเรือนในพื้นที่ชายแดนโดยเร็ว

ไทยจะมีหนังสือประท้วงถึงกัมพูชา และจะดำเนินการตามกลไกของอนุสัญญาออตตาวาอย่างถึงที่สุดต่อไป ในการนี้ ประเทศไทยขอเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดการกระทำที่ละเมิดอนุสัญญาฯ โดยทันที และให้ความร่วมมืออย่างจริงใจในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน เพื่อรักษาไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของแถลงการณ์ร่วมของการประชุม GBC ที่ทั้งสองฝ่ายต้องเคารพและปฏิบัติตามโดยทันที

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...