ไฟดับอย่าเพิ่งลน! กูรูแนะวิธีเซฟของใน "ตู้เย็น" ให้อยู่ได้นานที่สุด ทำตามนี้รอดแน่
ไฟดับควรทำอย่างไรกับอาหารในตู้เย็น? ผู้เชี่ยวชาญด้านการแช่แข็งแนะวิธีถนอมความเย็นให้นานที่สุด
ปัญหาไฟดับเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมันกินเวลานานจนทำให้เราเริ่มกังวลกับอาหารสดที่แช่ไว้ใน ตู้เย็น ว่าจะเน่าเสียหรือไม่ ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านการแช่แข็งจากญี่ปุ่น บริษัท Chuo Reito Sangyo ได้ออกมาแนะนำวิธีรับมือและเคล็ดลับที่จะช่วยยืดอายุความเย็นให้ยาวนานที่สุด
กฎเหล็กช่วงไฟดับ: ความเย็นอยู่ได้นานแค่ไหน?
โดยปกติแล้ว หากเกิดไฟดับ ความเย็นภายในตู้เย็นจะสามารถคงสภาพอยู่ได้นานประมาณ 2-3 ชั่วโมง แต่มีข้อแม้สำคัญคือ "ห้ามเปิดประตูตู้เย็นเด็ดขาด" หากมีการเปิด-ปิดบ่อยๆ ความเย็นจะรั่วไหลออกไป ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้อาหารสดอย่างเนื้อสัตว์หรือปลาดิบเน่าเสียได้ง่าย ดังนั้น กฎข้อแรกเมื่อไฟดับคือ พยายามเปิดตู้เย็นให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
iStockphoto
3 ตัวช่วยยืดเวลา เมื่อไฟดับยาวนาน
หากสถานการณ์ดูท่าจะยืดเยื้อเกิน 3 ชั่วโมง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้วิธีเหล่านี้เพื่อรักษาอุณหภูมิ:
- เจลเก็บความเย็น (Ice Pack): หากใช้เจลขนาดใหญ่ (Blow type) วางไว้ จะช่วยรักษาความเย็นได้นาน 4-5 ชั่วโมง โดยแนะนำให้วางไว้ "ชั้นบนสุด" ของตู้เย็น เพราะธรรมชาติของความเย็นจะตกลงสู่ด้านล่าง
- อาหารแช่แข็ง: อาหารแข็งในช่องฟรีซสามารถช่วยยืดเวลาได้อีก 1-2 ชั่วโมง แต่ถ้าเริ่มละลายควรรีบนำมาปรุงอาหารทันที
- น้ำแข็งแห้ง (Dry Ice): นี่คือตัวช่วยขั้นเทพ! ด้วยอุณหภูมิติดลบถึง 78.5 องศาเซลเซียส มันมีพลังความเย็นเหนือกว่าน้ำแข็งธรรมดามาก จากการทดลองพบว่า หากใส่น้ำแข็งแห้งไว้ในช่องแช่แข็งแล้วปิดไฟ ผ่านไป 24 ชั่วโมง อาหารข้างในยังคงสภาพแข็งโป๊กไม่ละลาย
ข้อควรระวังในการใช้ "น้ำแข็งแห้ง"
แม้ น้ำแข็งแห้ง จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง ห้ามใช้มือเปล่าสัมผัสเด็ดขาด ควรใช้ถุงมือหนาหรือคีมคีบ และควรระวังอาหารที่วางใต้น้ำแข็งแห้งอาจจะแข็งจนเกินไป
สรุปง่ายๆ คือ เมื่อไฟดับ "ตั้งสติและอย่าเปิดตู้เย็น" แต่ถ้าดับนาน ให้หาเจลเย็นหรือน้ำแข็งแห้งมาช่วย เพียงเท่านี้คุณก็สามารถรักษาเสบียงอาหารให้รอดพ้นจากวิกฤตไฟดับได้อย่างสบายใจ