โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘นาย ก.’ เข้าพบตำรวจพร้อมทนาย ปฏิเสธตอบสื่อทุกคำถาม

The Bangkok Insight

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว • The Bangkok Insight

"นาย ก." เข้าพบตำรวจพร้อมทนาย ปฏิเสธตอบสื่อทุกคำถาม โยน "ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ"

จากกรณีการเสียชีวิตของนายณัฐวุฒิ ปงลังกา ผู้สื่อข่าวและผู้ประกาศข่าวช่อง 8 ที่เสียชีวิต ที่บ้านพักย่านบางกรวย จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2568 ที่ผ่านมา ด้านรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เตรียมเข้าตรวจค้นบ้านพร้อมญาติ ชี้หากหลักฐานถูกนำออกจากที่เกิดเหตุ อาจเข้าข่ายกระทำความผิด

ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (8 ธ.ค.) ที่ สภ.บางกรวย พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ พงศ์ธนารักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางกรวย ให้ข้อมูลว่า พนักงานสอบสวนได้นัดหมายกับ นาย ก. บุคคลที่พบว่ามีการพูดคุยติดต่อพูดคุยเกี่ยวกับการส่งมอบสารไซยาไนด์ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ของนายณัฐวุฒิ มาสอบปากคำ โดนนัดหมายในช่วงเวลา 15.00 น ของวันนี้ เพื่อหาความเชื่อมโยงเกี่ยวกับสารไซยาไนด์

ถึงแม้ผลการสอบปากคำของเพื่อนสนิท 5 คนเมื่อวานที่ผ่านมา ทุกคนให้การไปในทิศทางเดียวกัน แต่พนักงานสอบสวนไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ว่าเป็นการทำร้ายตัวเองหรือเป็นการฆาตกรรม ถึงขนาดนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องที่ รวมถึงต้องเข้าตรวจสอบพยานหลักฐานในบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งทางญาติของผู้เสียชีวิตประสงค์ที่จะขอเข้าร่วมตรวจค้นภายในบ้าน โดนกำหนดไว้ในวันที่ 11 ธ.ค.

โดยมีรายงานว่านอกจากการสอบปากคำเมื่อวานนี้ ตำรวจยังได้เก็บดีเอนเอ พยานทั้งหมด ที่อยู่ร่วมกันในวันเกิดเหตุ พร้อมกับเก็บข้อมูลทางโทรศัพท์มือถือ ของพยานทั้งหมดเอาไว้ตรวจสอบด้วย

สำหรับพยานหลักฐานที่มีประเด็นข้อสงสัยว่าถูกนำออกจากที่เกิดเหตุ ทั้งหลักฐานกล้องวงจรปิด หลักฐานจากโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิตและสารไซยาไนด์ โดยไม่ส่งมอบให้ตำรวจนั้น พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคที่ 1 ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นตำรวจยังคงต้องขอเข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้งพร้อมกับญาติ ซึ่งอยู่ระหว่างประสานกับญาติ เพื่อขอเข้าตรวจสอบก่อนกำหนด จะกำหนดเดิม วันที่ 11 ธ.ค. เพื่อเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน หากกล้องวงจรปิดภายในบ้านพักมีผู้นำออกไปแล้วพยายามทำลายหลักฐาน ก็อาจจะเข้าข่ายกระทำความผิด และต้องเรียกมาสอบปากคำ แต่จะผิดหรือไม่ต้องดูที่เจตนา

ทั้งนี้ ในส่วนของสารไซยาไนด์ เบื้องต้นคาดว่าอยู่ภายในบ้าน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เข้าตรวจสอบวันที่เกิดเหตุและได้ถ่ายรูปพยานหลักฐานเอาไว้ทั้งหมดแล้ว หากไม่พบหลักฐาน หรือมีผู้นำหลักฐานออกจากบ้านที่เกิดเหตุ ก็อาจจะเข้าข่ายความผิดด้วยเช่นกัน

ต่อมาเมื่อเวลา 11.50 น. นาย ก. เดินทางเข้ามาที่สถานีตำรวจภูธรบางกรวย จากการสังเกตพบว่า นาย ก.สวมเสื้อฮู้ดสีดำ กางเกงยีนส์ พร้อมสวมหมวกแก๊ป มาส์กสีดำ แว่นตาดำ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบางกรวย พร้อมทนายความ บริเวณชั้น 2

ขณะที่เข้าพบสื่อมวลชนได้สังเกตุเห็นว่า กลุ่มของ นาย ก. นั่งรถเก๋ง มาจอดบริเวณด้านหลังสถานีตำรวจก่อนจะให้ทนายความเดินขึ้นมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อนัดแนะในการเข้าให้ปากคำ ต่อมาภรรยาของทนาย นาย ก. ได้เดินมาสังเกตการณ์สื่อมวลชน ที่นั่งอยู่บริเวณด้านหน้าสถานีตำรวจ จึงกลับไปบอก นาย ก. ที่รออยู่ในรถ ก่อนนาย ก. จะเดินทางขึ้นมาพบพนักงานสอบสวนเพียงลำพังโดยมีตำรวจประกบข้างขึ้นมาบริเวณชั้น 2 ซึ่งระหว่างทางสื่อมวลชนได้สอบถามถึงประเด็นความสัมพันธ์กับนัทปงมานานแล้วหรือยัง รวมถึงเรื่องของสารไซยาไนด์ว่าเป็นการนำมาส่งให้หรือนัทปงไปรับ รวมทั้งประเด็นว่าเป็นลูกเจ้าของร้านทองหรือเป็นลูกจ้าง แต่นาย ก.ได้ปฏิเสธการตอบคำถามสื่อมวลชนทุกคำถาม ก่อนจะเข้าไปพบพนักงานสอบสวน

ต่อมาเวลา 12:15 น. นาย ก. ได้ขอเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าห้องน้ำ ซึ่งขณะเดินออกมาจากห้องสอบปากคำผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม แต่เจ้าตัวปฏิเสธตอบคำถามอีกครั้ง แต่บอกกับสื่อมวลชนสั้นๆว่า “ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ” เมื่อถามว่ารู้สึกผิดหรือไม่ที่เป็นคนนำสารสยานายมาให้นัทปง จนอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตในครั้งนี้ นาย ก. ปฏิเสธตอบคำถามอีกครั้งพร้อมกับหันหน้ามามองผู้สื่อข่าว ก่อนเดินเข้าไปในห้องสอบสวนอีกครั้ง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...