33 ปี ชีวิตสีกากี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ (156)
บทความพิเศษ | พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์
33 ปี ชีวิตสีกากี
พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ (156)
ขวัญกำลังใจหลังคลี่คลาย ‘คดี’
สําหรับการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันฆ่า ด.ต.ดุสิต รัตนมณี อีก 2 คนไม่สำเร็จ คือ นายสุรินทร์ หรือรินทร์ สันทจิตร กับนายชัชชัย หรือเผือก จิตพิทักษ์ หลบหนีไปได้
แต่ผู้ต้องหารายของ นายยูโส๊บ หรือโส๊บอ้วน เมืองเล่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.จะนะ จ.สงขลา ได้ร่วมกันจับกุมตัวและดำเนินคดีในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำจังหวัดสงขลา อยู่ในระหว่างฝากขัง
ผมจึงรีบวิทยุไปถึง ผกก.สภ.อ.เมืองสงขลา ซึ่งเป็นที่ตั้งของเรือนจำ เพื่อขอความร่วมมือแจ้งการอายัดตัวไปยังเรือนจำจังหวัดสงขลา หากมีเหตุให้ปล่อยตัวนายยูโส๊บ หรือโส๊บอ้วน เมืองเล่ง ด้วยประการใดๆ แจ้ง สภ.อ.สิงหนคร ทราบด้วย เพื่อจะได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวผู้ต้องหา นำไปดำเนินคดีต่อไป
วันที่ 29 กรกฎาคม 2540 พล.ต.ต.มาโนช ไกรวงศ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา พร้อมด้วยนายบัญญัติ จันทน์เสนะ ผวจ.สงขลา และนายสุนทร ฤทธิภักดี นายอำเภอสิงหนคร ได้เดินทางมายัง สภ.อ.สิงหนคร และได้ทำการซักถามผู้ต้องหาทั้ง 3 คน คือ นายสังคม หรือคม สายสลำ นายดลเล๊าะรือ ย่ามีน หมัดหมีด และนายมโนชญ์ หรือยีกาด หมัดหมีน
ทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพเช่นเดิมต่อหน้าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดสงขลา
ในเวลาต่อมา ผมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.สิงหนคร นอกจากสอบสวนผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้แล้ว ยังต้องนำพยานที่เห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ ที่บริเวณอาคารพาณิชย์ที่กำลังก่อสร้างและเห็นมือปืนยิง ด.ต.ดุสิต มาชี้ตัวผู้ต้องหาอีกด้วย
มีขั้นตอนดำเนินการมากมาย ทั้งจัดบุคคลให้ยืนเรียงปะปนกันโดยแต่งกายใกล้เคียงกัน แล้วให้พยานชี้ตัว ถ่ายรูปและจัดทำบันทึกการชี้ตัวไว้เป็นหลักฐานประกอบคดี และนำพยานที่เกาะยอ คือนายจำลอง หรือหลำ สงพะโยม กับน้องสาว ที่เห็นกลุ่มผู้ต้องหาไปที่บ้าน หลังจากยิง ด.ต.ดุสิต มาชี้ผู้ต้องหาทุกคน
ซึ่งสามารถชี้ตัวได้อย่างถูกต้อง เนื่องจากรู้จักกันมาก่อน และพยานยังจำรถยนต์กระบะ โตโยต้า สีเขียว หมายเลขทะเบียน สงขลา 1 ท-9129 คันที่นายดลเล๊าะรือ ย่ามีน ขับมารับมือปืนทั้งสองคนได้อีกด้วย
ส่วนการติดตามจับกุม นางพรณี หรือแก้ว วรรณวงศ์ ได้มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของตำรวจกองปราบ กับชุดเฉพาะกิจ ภ.จว.สงขลา จนกระทั่งวันนี้ (29 กรกฎาคม 2540) เวลาประมาณ 14.00 น. พ.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ สว.ผ.5 กก.5 ป. ร่วมกับ ร.ต.อ.ถวิล จันจุฬา หน.สภ.ต.คูเต่า และ หน.ฉก.ภ.จว.สงขลา จ.ส.ต.ประศาสน์ พวงสอน ส.ต.ท.นิพนธ์ กิ้มแก้ว ส.ต.ท.สกล สุนันด๊ะ ส.ต.ต.เฉลิม ไตรเวทย์ และ ส.ต.ต.อนันต์ ว่องไว ได้จับกุมตัว
นางพรณี หรือแก้ว วรรณวงศ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159 หมู่ที่ 5 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา โดยจับกุมได้ที่บริเวณถนนเทศาพัฒนา ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมทั้งแสดงหมายจับและแจ้งข้อหาให้ทราบว่ามีความผิดฐาน เป็นผู้ใช้จ้างวานให้ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน นางพรณี หรือแก้ว ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ตั้งแต่ชั้นจับกุม และในชั้นสอบสวน ในเวลาต่อมา ตำรวจชุดดังกล่าว ยังนำนางพรณี หรือแก้ว ไปตรวจยึดอาวุธปืนสั้น รีวอลเวอร์ รูเกอร์ ขนาด .38 หมายเลขทะเบียน กท.3301287 จำนวน 1 กระบอก ได้ที่บ้านของนางพรณี หรือแก้ว ซึ่งอยู่ที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา
โดยหลักฐานตามทะเบียนปืน นางพรณี หรือแก้ว เป็นเจ้าของ เพื่อทำการตรวจสอบต่อไป
เมื่อนำตัวนางพรณี หรือแก้ว วรรณวงศ์ ผู้ต้องหาคนสำคัญซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในวงการของจังหวัดสงขลาในสมัยนั้น มาควบคุมตัวไว้ที่ สภ.อ.สิงหนคร จึงได้ให้นายสังคม หรือคม สายสลำ มือปืนที่ยิง ด.ต.ดุสิต รัตนมณี นายดลเล๊าะรือ ย่ามีน หมัดหมีด ที่เป็นคนจัดหารถยนต์กระบะใช้ในการทำผิด นายมโนชญ์ หรือยีกาด หมัดหมีน ผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่ขับรถยนต์กระบะในวันเกิดเหตุ ดูนางพรณี หรือแก้ว วรรณวงศ์ ทั้ง 3 คน ต่างชี้ตัวนางพรณี หรือแก้ว วรรณวงศ์ ว่า เป็นผู้ที่จ้างพวกตนทั้งหมด เป็นเงิน 300,000 บาท ให้ยิง ด.ต.ดุสิต รัตนมณี จริง จึงได้มีการจัดทำบันทึกการชี้ตัวและถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานประกอบคดี
จากนั้น จึงได้ส่งตัวนายดลเล๊าะรือ ย่ามีน หมัดหมีด กับนายมโนชญ์ หรือยีกาด หมัดหมีน ไปควบคุม ไว้ที่ สภ.ต.ม่วงงาม
วันที่ 30 กรกฎาคม 2540 ช่วงสายๆ ผมได้เป็นตัวแทนของชุดปฏิบัติการในการจับกุมคนร้ายที่ยิง ด.ต.ดุสิต รัตนมณี จนถึงแก่ความตาย เข้ารับเงินรางวัลจาก นายบัญญัติ จันทน์เสนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นครั้งที่ 2 เมื่อมาทำหน้าที่ที่ สภ.อ.สิงหนคร พร้อมทั้งมีบันทึกของจังหวัดสงขลา ที่มอบให้พร้อมกับเงินรางวัล จำนวน 10,000 บาท
ดังนี้
“คดีจับกุมคนร้ายยิง ด.ต.ดุสิต รัตนมณี
ด้วยเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2540 เวลาประมาณ 07.50 น. กลุ่มคนร้ายได้ก่อคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ โดยยิง ด.ต.ดุสิต รัตนมณี เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำกองกำกับการวิทยาการภาค 4 ถึงแก่ความตาย ในที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนสายเกาะยอ หมู่ที่ 7 ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา
ต่อมา เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2540 (เมื่อวานนี้) ชุดปฏิบัติการภายใต้การอำนวยการและการสั่งการของ พล.ต.ต.มาโนช ไกรวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา สามารถจับกุมคนร้ายได้ 4 คน ได้ทั้งผู้ยิง, ผู้จ้างวาน และผู้เกี่ยวข้อง นับเป็นการปฏิบัติงานเพื่อชาติบ้านเมือง ที่สมควรได้รับการยกย่องชมเชย
เพื่อเป็นการตอบแทนคุณงามความดี และเพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาขอมอบเงินรางวัลให้กับชุดปฏิบัติการดังกล่าว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจสืบไป”
เหตุการณ์นี้ทำให้ผมและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ร่วมกันทำงานทุกคน รู้สึกปลาบปลื้มใจ มีกำลังใจขึ้นมาอีกมากมาย
ผมจึงได้กลับมาสอบสวนในคดีนี้ต่อจนดึกดื่นอีกคืน
วันที่ 31 กรกฎาคม 2540 ผมได้วางแผนนำตัวผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้ทั้ง 3 คนคือ นายสังคม หรือคม สายสลำ นายดลเล๊าะรือ ย่ามีน หมัดหมีด และนายมโนชญ์ หรือยีกาด หมัดหมีน ซึ่งให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พาไปทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพ และ พล.ต.ต.มาโนช ไกรวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ได้มาร่วมทำแผนในวันนี้ด้วย และอยู่ดูนายสังคม หรือคม ผู้ต้องหาที่เป็นมือปืน นำชี้และแสดงท่าทางการใช้อาวุธปืน ขณะยิง ด.ต.ดุสิต รัตนมณี จนเสียชีวิต ในบริเวณที่กำลังก่อสร้างอาคารพาณิชย์
นอกจากนั้นกลุ่มผู้ต้องหายังนำชี้จุดที่รถยนต์กระบะจอดรอคอยบริเวณเยื้องๆ กับหน้าปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ดาวเขาแดง ซึ่งเป็นปั๊มน้ำมันและบ้านพักของ ด.ต.ดุสิต รัตนมณี เพื่อรอให้ ด.ต.ดุสิตขับรถยนต์กระบะออกมา และมีเด็กปั๊มน้ำมัน เป็นพยานจำรถยนต์กระบะของคนร้ายได้
วันที่ 1 สิงหาคม 2540 เป็นวันที่ 2 ที่ต้องนำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อเพราะเมื่อวานไม่สามารถทำให้เสร็จสิ้นภายในวันเดียวกันได้ เนื่องจากมีรายละเอียดขั้นตอนมากมาย จึงได้นำตัวนายสังคม หรือคม นำชี้บ้านของนางพรณี หรือแก้ว วรรณวงศ์ ซึ่งบริเวณบ้านใหญ่โตกว้างขวางมากและยังมีปั๊มน้ำมัน ปตท.ของนางพรณี หรือแก้วอยู่ในบริเวณนั้นด้วย ตั้งอยู่ที่ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายสังคม หรือคมชี้ยืนยันว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านของนางพรณี หรือแก้ว ที่นายสังคม หรือคม เดินทางมาเพื่อทวงเงินที่ค้างค่าจ้างยิง ด.ต.ดุสิต จากนางพรณี หรือแก้วและยังได้พบนายยูโส๊บ หรือโส๊บอ้วน เมืองเล่ง ผู้ต้องหาอีกคนที่เป็นคนจัดหาอาวุธปืน และรถยนต์กระบะที่ใช้เป็นยานพาหนะนำไปยิง ก็อยู่ในบ้านของนางพรณี หรือแก้ว
ยังได้พบ ด.ต.วิชัย หรือจ่าหมัด วรรณวงศ์ สามีของนางพรณี หรือแก้ว วรรณวงศ์ และเป็นคนไปบอกนางพรณี หรือแก้ว ให้นำเงินสดจำนวน 10,000 บาท มามอบให้นายสังคม หรือคมอีกด้วย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : 33 ปี ชีวิตสีกากี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ (156)
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th/weekly