มงคล ประกิตชัยวัฒนา ยังถือหุ้น KTC อันดับ 2 รองจาก KTB จับตาบิ๊กล็อต 14.46 %
มงคล ประกิตชัยวัฒนา ยังถือหุ้น KTC อันดับ 2 รองจาก KTB หลังขายไปแล้ว 195 ล้านหุ้น สัดส่วน 7.6% เหลือถือ 5.1% ฟาก KTC แจงรายการบิ๊กล็อต 14.46 %ไม่กระทบโครงสร้างบอร์ด
ข้อมูลจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สรุปแบบ 246-2 ประจำวันที่ 30 มิ.ย. 2568 มีรายงานการจำหน่าย หุ้นของ บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) โดยนายมงคล ประกิตชัยวัฒนา ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ทั้งนี้นายมงคลได้ขายหุ้น KTC เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2568 จำนวน 195 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 7.563% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ
ภายหลังการขายหุ้นครั้งนี้ทำให้นายมงคลถือหุ้น 132.47 ล้านหุ้น หรือ 5.14% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด แต่ยังคงติดเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 รองจากบมจ.ธนาคารกรุงไทย (KTB) ที่ถือหุ้นในสัดส่วน 49.29%
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2568 หลังปิดตลาดช่วงเย็น KTC แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอความร่วมมือบริษัทให้ชี้แจงรายการซื้อขาย Big Lot ของหุ้น KTC ในวันที่ 25 มิ.ย. 2568 จำนวน 129.20 ล้านหุ้น (5.01% ของทุนจดทะเบียน)
และวันที่ 30 มิ.ย. 2568 จำนวน 243.62 ล้านหุ้น (9.45% ของทุนจดทะเบียน) นั้น (รวม 2 รายการ คิดเป็นสัดส่วน 14.46 %)
การซื้อขาย Big Lot ข้างต้น อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนหรือลำดับการถือหุ้น อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันยังไม่พบการรายงานแบบ 246-2 (แบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์) จึงยังไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นที่อาจจะเกิดขึ้น
“บริษัทขอเรียนให้ทราบว่า บมจ.ธนาคารกรุงไทย ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นลำดับที่ 1 และโครงสร้างคณะกรรมการ โครงสร้างผู้บริหาร รวมถึงนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัท ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด”
KTC ระบุว่าบริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานด้วยความโปร่งใส หากมีข้อมูลที่มีสาระสำคัญซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อไป