โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

คสธก. สั่งตั้งคณะอนุฯ 2 ชุด ลุยปราบสินค้านำเข้าด้อยคุณภาพ

Thai PBS

อัพเดต 44 นาทีที่แล้ว • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Thai PBS
“เอกนิติ” เรียกประชุมคสธก. ลุยตรวจเข้มสินค้านำเข้า คุมแพลตฟอร์มออนไลน์ และไล่ตรวจนอมินีเต็มรูปแบบ พร้อมปิดช่องโหว่การค้า รักษาความเป็นธรรมให้ผู้ประกอบการไทยและความปลอดภัยของผู้บริโภค พร้อมสั่งตั้ง 2 คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ

วันนี้ (10 ธ.ค.2568) นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย (คสธก.) นัดประชุมหน่วยงานภายใต้ คสธก. ครั้งที่ 1/2568 โดยมีนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายธนพล ภู่พันธ์ศรี ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งหัวหน้าส่วนราชการจาก 21 ส่วนราชการ เข้าร่วมหารือแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมายซึ่ง เป็นภารกิจเร่งด่วนที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกหน่วยงานทั้งด้านข้อมูลการบังคับใช้กฎหมาย และการปรับปรุงกฎระเบียบให้ทันต่อสถานการณ์

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย (คสธก.)

การประชุมครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการร่วมกันวางแนวทางแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมทั้งด้านการค้า ความปลอดภัยผู้บริโภค และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อดำเนินการเชิงรุกในการติดตามและเร่งรัดมาตรการในการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย สร้างความเป็นธรรมทางการค้า แก้ไขปัญหาและปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภคและผู้ประกอบการไทย

รองนายกฯกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ได้ดำเนินมาตรการเข้มงวดตรวจสอบสินค้านำเข้าทะลัก โดยเพิ่มอัตราเปิดตู้สินค้า FCL จาก 20% เป็น 30%, ตรวจ X-ray แบบ 100% บริเวณด่านเสี่ยงสูง เช่น จ.นครพนม และจ.มุกดาหาร และดำเนินคดีผู้กระทำผิดกว่า 86,087 คดี นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

ในขณะที่กรมศุลกากรจะจัดเก็บอากรนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับสินค้าที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป เพื่อสร้างความเป็นธรรมทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทยและ SMEs ที่ต้องแข่งขันกับสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศและป้องกันการนำเข้าสินค้าราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐานจากต่างประเทศ

การปราบปรามนอมินี ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด 873 ราย และเตรียมให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินตรวจเส้นทางการเงินธุรกิจกลุ่มเสี่ยงนอมินี พร้อมให้ตำรวจและดีเอสไอร่วมดำเนินคดีอย่างเป็นระบบ

ส่วน ด้านการกำกับแพลตฟอร์มออนไลน์ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ออกประกาศให้แพลตฟอร์ม e-Commerce ต้องเปิดเผยข้อมูลผู้ขาย ข้อมูลสินค้า และจัดทำระบบ notice & takedown โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 2568 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยสินค้าออนไลน์และสร้างการแข่งขันที่เป็นธรรมในตลาดออนไลน์ไทย

นอกจากนี้ ยังได้มีการเร่งบูรณาการตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้าเพื่อป้องกันการสวมสิทธิ สร้างความเชื่อมั่นทำให้ประเทศคู่ค้า ตลอดจนรักษามาตรฐาน ภาพลักษณ์ และชื่อเสียงของสินค้าไทยในตลาดโลก

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ

ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบแนวทางการดำเนินการภายใต้ คสธก. โดย จัดทำ (ร่าง) ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการบริหารจัดการปัญหาสินค้าจากต่างประเทศและธุรกิจต่างประเทศ พ.ศ. …. เพื่อให้การกำหนดนโยบายและมาตรการในการบริหารจัดการปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสินค้าจากต่างประเทศและธุรกิจต่างประเทศเป็นไปด้วยความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 2 ชุด ได้แก่ คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาสินค้านำเข้าจากต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยมีอธิบดีกรมศุลกากร และอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นประธานคณะอนุกรรมการร่วม และคณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว โดยมีอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นประธานคณะอนุกรรมการร่วม เพื่อยกระดับการบังคับใช้กฎหมายและบูรณาการการทำงานแบบเชิงรุก

และ สนับสนุนการตรวจสอบเส้นทางการเงินธุรกิจกลุ่มเสี่ยงนอมินี โดยได้บูรณาการข้อมูลร่วมระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินตลอดจนพัฒนากลไกตรวจสอบผู้ถือหุ้น–เงินทุน–พฤติกรรมเสี่ยง เพื่อป้องกันต่างชาติใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง

รองนายกฯ ย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการยกระดับความปลอดภัยสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ การคุ้มครองผู้บริโภค และการสร้างการแข่งขันที่เป็นธรรมให้ผู้ประกอบการไทย โดยใช้ทั้งกฎหมาย เทคโนโลยี และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเป็นเครื่องมือหลัก ทั้งนี้ การคุมเข้มนี้ไม่ใช่แค่บังคับใช้กฎหมาย แต่คือการฟื้นความเชื่อมั่นของประเทศ ปกป้องคนไทยและผู้ประกอบการไทยไม่ให้เสียเปรียบ ปิดช่องโหว่ที่ต่างชาติเข้ามาใช้ประโยชน์ในระบบเศรษฐกิจไทยโดยไม่เป็นธรรม

อ่านข่าว:

เข้มสกัดสินค้าละเมิด พณ. เผย 10 เดือน ยึดของกลางกว่า 5.5 แสนชิ้น

"นายกฯ" สั่งทบทวน หลักเกณฑ์ "บัตรสวัสดิการฯ" ใหม่

พณ.เปิดบูธช่วยผปก.ชายแดน ขนสินค้าขายช่วงซีเกมส์-อาเซียนพาราเกมส์

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thai PBS

ทปอ.เลื่อนสอบ TGAT/TPAT2-5 อีก 7 จังหวัดชายแดน เป็น 17-19 ม.ค.

48 นาทีที่แล้ว

เตือนอีกครั้ง ระวัง "มิจฉาชีพ" แอบอ้างแจ้งคืนภาษีผ่านอีเมล

49 นาทีที่แล้ว

ศธ.อัปเดตปิดสถานศึกษา 1,168 แห่งใน 7 จังหวัดชายแดนติดกัมพูชา

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทบ.โต้ "ฮุนเซน" ลั่นไทยไม่ใช่ผู้รุกราน ชี้กัมพูชาเริ่มก่อน เป็นฝ่ายฉีกสัญญาหยุดยิง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าว ธุรกิจ-เศรษฐกิจ อื่น ๆ

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...