ศาลอาญาสั่งจำคุกประสิทธิ์ เจียวก๊ก 1,210 ปี คดีฉ้อโกงประชาชน-พ.ร.ก.กู้ยืมเงินฯ แต่กฎหมายจำคุกจริงสูงสุด 20 ปี พร้อมสั่งชดใช้ผู้เสียหาย 267 ราย
วันนี้ (26 ธันวาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อ.1472/2566 ซึ่งพนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท เหนือโลก จำกัด (จำเลยที่ 1), บริษัท เว็บ สวัสดี จำกัด (มหาชน) (จำเลยที่ 2), ประสิทธิ์ เจียวก๊ก อดีตประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน (จำเลยที่ 3), กิตติศักดิ์ เย็นนานนท์ (จำเลยที่ 4), วิมกริช วงศ์วิเศษศิริ (จำเลยที่ 5) และ ณัฐวรรณ อุตตะมะปรากรม (จำเลยที่ 6)
ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากการที่จำเลยร่วมกันหลอกลวงประชาชนจำนวนมากให้มาร่วมลงทุน ซึ่งเข้าข่ายการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและถูกคุมขังในเรือนจำระหว่างการพิจารณา
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1-3 (บริษัท เหนือโลก, บริษัท เว็บ สวัสดี และประสิทธิ์) มีความผิดจริงตามฟ้อง เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษบทหนักที่สุดคือความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
ศาลมีคำสั่งลงโทษจำเลย ดังนี้:
- จำเลยที่ 1-3: กระทำผิดรวม 242 กระทง ให้ลงโทษจำคุก ประสิทธิ์ เจียวก๊ก (จำเลยที่ 3) กระทงละ 5 ปี รวมโทษจำคุก 1,210 ปี และปรับบริษัทจำเลยที่ 1 และ 2 รายละ 500,000 บาท รวมปรับรายละ 121 ล้านบาท
- จำเลยที่ 5: มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนฯ รวม 37 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวมจำคุก 111 ปี 148 เดือน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทางนำสืบของจำเลยที่ 1-3 และที่ 5 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่บ้าง ศาลจึงลดโทษให้กระทงละ 1 ใน 3 คงเหลือโทษสุทธิดังนี้:
- ประสิทธิ์ เจียวก๊ก (จำเลยที่ 3): คงเหลือโทษจำคุก 806 ปี 8 เดือน
- วิมกริช วงศ์วิเศษศิริ (จำเลยที่ 5): คงเหลือโทษจำคุก 74 ปี 8 เดือน 29 วัน
- บริษัทจำเลยที่ 1 และ 2: คงเหลือโทษปรับรายละ 80 ล้านบาทเศษ
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้คำพิพากษาจะมีโทษจำคุกรวมหลายร้อยปี แต่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (2) กำหนดเพดานโทษจำคุกสูงสุดไว้ไม่เกิน 20 ปี สำหรับความผิดลักษณะนี้ ศาลจึงพิพากษาให้จำคุก ประสิทธิ์ (จำเลยที่ 3) และ วิมกริช (จำเลยที่ 5) จริงคนละ 20 ปี
นอกจากโทษจำคุกและปรับแล้ว ศาลยังมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1-3 ร่วมกันคืนเงินต้นให้แก่ผู้เสียหายรวม 267 ราย สำหรับ จำเลยที่ 4 และที่ 6 ศาลพิพากษายกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 ศาลอาญาเคยมีคำพิพากษาในคดีฉ้อโกงสำนวนแรกมาแล้ว โดยสั่งจำคุกประสิทธิ์ รวม 1,155 ปี ในความผิดฐานกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งตามกฎหมายให้จำคุกจริงสูงสุด 20 ปีเช่นกัน พร้อมสั่งให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท