โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ฉายา "เนื้อไร้กระดูก" แคลเซียมสูงกว่าเนื้อวัว 6 เท่า จ่ายแค่หลักสิบ พอกินทั้งครอบครัว!

sanook.com

เผยแพร่ 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Sanook
เจอแล้ว!

ชี้เป้า "เนื้อไร้กระดูก" แคลเซียมสูงกว่าเนื้อวัว 6 เท่า! ราคาหลักสิบ ช่วยกระดูกแข็งแรง คนวัยเก๋าต้องกิน

หมอแนะเอง! กิน "เต้าหู้" วันเว้นวัน แคลเซียมพุ่ง 6 เท่า ดีต่อเข่า-กระดูก ยิ่งแก่ยิ่งต้องกิน

เมื่อพูดถึงการเสริมแคลเซียม หลายคนมักนึกถึงนม ปลาตัวเล็ก หรือซุปกระดูกหมู แต่รู้หรือไม่ว่ามีวัตถุดิบบ้านๆ ราคาเพียงไม่กี่บาท ที่ซ่อนขุมทรัพย์ทางโภชนาการเอาไว้มหาศาล จนได้รับฉายาว่าเป็น "เนื้อสัตว์ไร้กระดูก" ที่คนรักสุขภาพไม่ควรมองข้าม

เรื่องเล่าจากแผงเต้าหู้: เคล็ดลับเข่าดีของคุณลุง

เช้าวันหยุดที่ตลาดสด บรรยากาศหน้าแผงขายเต้าหู้คึกคักเป็นพิเศษ คุณป้าหลิว อดีตครูเกษียณ ทักทายคุณลุงลีเพื่อนบ้านอย่างประหลาดใจว่า "ช่วงนี้ดูคุณพี่เดินเหินคล่องแคล่วขึ้นเยอะเลยนะ คราวก่อนเห็นเดินขึ้นบันไดยังดูตึงๆ ขาอยู่เลย"

คุณลุงลียิ้มกว้างพร้อมตบเบาๆ ที่หัวเข่า "ต้องขอบคุณหมอที่แนะนำวิธีบ้านๆ ให้ผมครับ แกบอกให้กินเจ้าก้อนขาวๆ นี่แหละ วันเว้นวัน ติดต่อกัน 3 เดือน ตอนนี้ขาดีขึ้นเยอะ" บทสนทนานี้ทำเอาหลายคนสงสัยว่า แค่ "เต้าหู้" ธรรมดาๆ จะช่วยเรื่องกระดูกได้จริงหรือ?

ความจริงที่ถูกมองข้าม: แคลเซียมสูงปรี๊ด

ข้อมูลทางโภชนาการเผยความจริงที่น่าตกใจ เมื่อเปรียบเทียบในปริมาณ 100 กรัมเท่ากัน เต้าหู้แข็งแบบดั้งเดิม มีแคลเซียมสูงถึง 138 มิลลิกรัม ในขณะที่เนื้อวัวมีเพียง 23 มิลลิกรัมเท่านั้น เท่ากับว่าเต้าหู้มีแคลเซียมสูงกว่าเนื้อวัวถึง 6 เท่า!

นอกจากนี้ เต้าหู้ยังอุดมไปด้วยโปรตีนจากพืชที่ย่อยง่าย มีไอโซฟลาโวน (Isoflavone) จากถั่วเหลืองที่ช่วยลดการสลายตัวของกระดูก และมีแมกนีเซียมที่ช่วยนำพาแคลเซียมเข้าสู่กระดูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเหมาะมากสำหรับผู้สูงอายุที่มักเจอปัญหาดูดซึมแคลเซียมได้น้อยลง

จับคู่กินอย่างไร ให้ได้ประโยชน์สูงสุด?

แม้เต้าหู้จะมีประโยชน์มาก แต่การกินเดี่ยวๆ ร่างกายอาจดูดซึมได้เพียง 60% ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำ "สูตรจับคู่" เพื่อบูสต์ประสิทธิภาพ ดังนี้:

  • เต้าหู้ + เห็ด: เพิ่มวิตามินดี ช่วยดูดซึมแคลเซียม
  • เต้าหู้ + ผักใบเขียว: เพิ่มวิตามินเค ช่วยล็อกแคลเซียมไว้ในกระดูก
  • เต้าหู้ + สาหร่าย: มีเส้นใยละลายน้ำ ช่วยลดการสูญเสียแคลเซียม

ข้อควรระวัง: สิ่งที่ไม่ควรทานคู่กัน

มีอาหารบางอย่างที่ไม่ควรทานพร้อมเต้าหู้ เช่น ผักโขม (ปวยเล้ง) เพราะมีกรดออกซาลิกสูง อาจขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม (ควรลวกผักก่อนเพื่อลดกรด) และ ชาเข้มข้น เพราะสารแทนนินจะยับยั้งการดูดซึม ควรเว้นระยะห่างการดื่มชาหลังมื้ออาหารอย่างน้อย 2 ชั่วโมง

ผลลัพธ์เมื่อทานต่อเนื่อง 3 เดือน

สำหรับผู้ที่มีปัญหาปวดเมื่อยหรือเป็นตะคริวบ่อย หากปรับพฤติกรรมทานเต้าหู้เป็นประจำ (วันเว้นวัน) ควบคู่กับการตากแดดอ่อนๆ และออกกำลังกายเบาๆ อาจเห็นการเปลี่ยนแปลงดังนี้:

  • เดือนที่ 1: การนอนหลับดีขึ้น อาการตะคริวตอนกลางคืนลดลง
  • เดือนที่ 2: อาการตึงหลังและขาตอนเช้าเริ่มดีขึ้น เดินขึ้นบันไดสะดวกขึ้น
  • เดือนที่ 3: รู้สึกกระฉับกระเฉง อาการมือเท้าเย็นลดน้อยลง

อย่างไรก็ตาม แม้เต้าหู้จะดีแค่ไหน แต่ก็มีฤทธิ์เย็น หากทานมากเกินไปอาจทำให้ท้องอืดได้ การทานในปริมาณที่พอเหมาะ "วันเว้นวัน" จึงเป็นทางสายกลางที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...