โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

จับตา ‘คลัง’ ชงกกต. เก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ 3% ซื้อขายทองบนแพลตฟอร์ม

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ สำหรับธุรกรรมการซื้อขายเก็งกำไรทองคำผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อแก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่า ว่า กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาข้อกฎหมายว่าการจัดเก็บภาษีดังกล่าวสามารถทำได้หรือไม่ในช่วงที่ยังเป็นรัฐบาลรักษาการเพราะเรื่องนี้ต้องเสนอขอมติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อน

“แม้ตามหลักการช่วงที่เป็นรัฐบาลรักษาการจะไม่ควรนำเสนอนโยบายหรือมาตรการเศรษฐกิจอะไรที่มีผลผูกพันไปถึงรัฐบาลชุดหน้า แต่ค่าเงินเป็นเรื่องสำคัญ และต้องเร่งทำเพราะมีผลกระทบต่อทั้งการส่งออกและเศรษฐกิจประเทศสูงที่สำคัญการซื้อขายทองตอนนี้ยังอิสระเกินไป การเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะจะช่วยชะลอความร้อนแรงและผลกระทบต่อค่าเงินได้ จึงต้องเสนอขอความเห็นจากกฤษฎีกา และ กกต.ให้ชัดเจนก่อน”

สำหรับที่ผ่านมาปริมาณการซื้อขายทองคำผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มีมูลค่าสูงขึ้นมาก เฉลี่ยวันละ 65,000 ล้านบาท สูงกว่าปริมาณซื้อขายตลาดหุ้นที่เฉลี่ยวันละ 40,000 ล้านบาทไปแล้ว และบางช่วงเคยทำสถิติซื้อขายสูงสุดถึงวันละ 2.6 แสนล้านบาท

โดยการซื้อขายเก็งกำไรทองขายดอลลาร์สหรัฐมาซื้อเงินบาท แม้จะเป็นเพียงเหตุผลหนึ่ง แต่ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ เบื้องต้น มาตรการนี้จะมุ่งเน้นจัดเก็บภาษีจากการขายทองคำผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีรอบการซื้อขายรวดเร็วหรือเก็งกำไรระยะสั้นเก็บตามจำนวนครั้งที่ซื้อขายโดยเชื่อว่าการเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะจะช่วยเพิ่มต้นทุนในการเก็งกำไรทำให้ปริมาณการทำธุรกรรมลดลง และช่วยให้ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ยืนยันว่าการเก็บภาษีนี้จะไม่เกี่ยวกับนักเก็งกำไรรายย่อย หรือซื้อทองคำตามร้านขายทอง หรือธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ เพราะจะเน้นรายใหญ่ที่มีการเก็งกำไรซื้อขายระดับร้อยล้านหรือพันล้านบาท พร้อมกับมีการกำหนดช่วงเวลาหากซื้อขายเร็วก็จะเสียภาษี เป็นต้น

สำหรับอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะที่จะเก็บจากธุรกรรมซื้อขายทองออนไลน์ ยังไม่ได้สรุปชัด แต่ปัจจุบันไทยมีการเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะเพดานสูงสุดไม่เกิน 3% อาทิ ธุรกรรมดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมธนาคาร และการขายอสังหาริมทรัพย์ก่อนครบ 5 ปีแรก จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะที่ 3% ส่วนประกันชีวิต และโรงรับจำนวนจะเสีย 2.5% โดยเมื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ จะต้องบวกภาษีท้องถิ่นเพิ่มอีก 10% ของค่าภาษีทุกครั้งอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากสถานการณ์ค่าเงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นนั้น รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออก 3 มาตรการเพื่อดูแลสถานการณ์ ได้แก่

1. การรายงานข้อมูลต่อกรมสรรพากร

โดยกรมสรรพากรจะออกประกาศกำหนดแนวทางให้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายทองคำออนไลน์ ต้องรายงานข้อมูลธุรกรรมให้กรมสรรพากรรับทราบ เพื่อให้ภาครัฐเห็นความเคลื่อนไหวของเม็ดเงินและปริมาณการซื้อขายที่แท้จริง

2. เก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ

กรมสรรพากรอยู่ระหว่างพิจารณาความเหมาะสมในการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ สำหรับการซื้อขายทองคำผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเน้นกลุ่มที่เก็งกำไรโดยไม่มีการส่งมอบทองคำจริง (Non-physical delivery)

3. การกำกับปริมาณธุรกรรม

ธปท. จะออกมาตรการกำกับดูแลปริมาณการทำธุรกรรมที่เหมาะสม เช่น การกำหนดเพดานวงเงินการซื้อขาย (Ceiling) เพื่อป้องปามกลุ่ม "Hot Money" ที่เทรดหมุนเวียนวันละหลายร้อยล้านบาท ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อค่าเงิน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...