ทนายวิญญัติ เผย ‘ทักษิณ’ พร้อมรอพักโทษตามเกณฑ์ราชทัณฑ์ จ่อฟ้องกลับ อสส. ปมสั่งอุทธรณ์ 112 ฝืนมติคณะทำงาน
วันนี้ (29 ธันวาคม) ที่ เรือนจำกลางคลองเปรม วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางมาติดตามสถานะทางคดีและความเป็นอยู่ของทักษิณ โดยเปิดเผยความคืบหน้าสำคัญ 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ เกณฑ์การพักโทษ, การต่อสู้คดีมาตรา 112 และการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ
วิญญัติ เปิดเผยว่า ปัจจุบันทักษิณยังมีสถานะเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดชั้นกลาง โดยยังไม่ได้รับการเลื่อนชั้นเป็นชั้นดี ซึ่งตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ การพิจารณาปรับเลื่อนชั้นจากชั้นกลางเป็นชั้นดี อาจเกิดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน 2569 ซึ่งส่งผลให้กำหนดการพิจารณาพักการลงโทษกรณีทั่วไป ที่เดิมคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อครบกำหนดโทษ 6 เดือนในเดือนมีนาคม 2569 อาจต้องขยับออกไป
“คุณทักษิณเข้าใจในกระบวนการนี้ดี และยืนยันว่าจะปฏิบัติตามระเบียบของราชทัณฑ์อย่างเคร่งครัด ไม่มีการใช้อำนาจกดดันเจ้าหน้าที่ แม้จะต้องรอการพิจารณาพักโทษออกไปอีก 6 เดือน หรือ 8 เดือน เพื่อรอการปรับชั้นนักโทษให้เรียบร้อย ท่านก็ยินดีและพร้อมรอ” วิญญัติ กล่าว
ในประเด็นการอุทธรณ์คดีมาตรา 112 วิญญัติระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอหมายอุทธรณ์ แต่ได้ดำเนินการยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด (อสส.) ไปแล้วเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมา เพื่อโต้แย้งกรณีที่ อสส. มีคำสั่งให้อุทธรณ์คดี ซึ่งเป็นการฝืนมติของคณะทำงานอัยการที่ตนเองตั้งขึ้น โดยมติดังกล่าวเสียงส่วนใหญ่ (8 ต่อ 2 เสียง) เห็นควรไม่อุทธรณ์
วิญญัติ ตั้งข้อสังเกตทางกฎหมายว่า การที่ อสส. อ้างอำนาจตาม ป.วิอาญา มาตรา 20 (คดีนอกราชอาณาจักร) เพื่อหักล้างมติคณะทำงานนั้น เป็นการใช้อำนาจที่น่าเคลือบแคลงสงสัย หากจะใช้อำนาจเด็ดขาดแต่แรก เหตุใดจึงมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณา
วิญญัติ ได้กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่า บุตรสาวของอัยการสูงสุดได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. ในนามพรรคภูมิใจไทย ว่าประเด็นดังกล่าวทำให้สังคมและทีมทนายความเกิดข้อกังขาและนำมาต่อจิ๊กซอว์ เชื่อมโยงกับการกลับคำสั่งคดีของทักษิณ
“การที่ท่านฝ่าฝืนมติคณะทำงาน แล้วต่อมาลูกสาวของท่านไปลงสมัครพรรคภูมิใจไทย มันทำให้คนสงสัยว่าพวกท่านกำลังมีดีลอะไร หรือทำตามคำขอของใครหรือไม่ แม้ในทางการเมืองจะเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ในทางกฎหมายและการใช้อำนาจรัฐ หากพบว่าไม่สมเหตุสมผล เราในฐานะผู้ได้รับผลกระทบก็อาจพิจารณาดำเนินคดีกลับได้” วิญญัติ ระบุ
สำหรับการยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย (ครั้งที่ 2) นั้น ทนายความระบุว่า ขณะนี้เรื่องยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ ซึ่งถือเป็นพระราชอำนาจ ไม่สามารถก้าวล่วงได้