โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

GULF มอบ 23 ล้านบาท ดูแลครอบครัวทหารพลีชีพชายแดนไทย-กัมพูชา

SpringNews

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF นำโดย นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์ในการดูแลสังคมและรั้วของชาติ มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 23 ล้านบาท ให้แก่ครอบครัวทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดเหตุปะทะในช่วงระหว่างวันที่ 8-23 ธันวาคม 2568 โดยมี พลเอกชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก และพลเอกบุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก และผู้บังคับบัญชาระดับสูง ให้เกียรติเป็นสักขีพยาน ณ กองบัญชาการกองทัพบก เงินช่วยเหลือดังกล่าวมาจาก ‘กองทุน 100 ล้านบาท’ ที่ GULF จัดตั้งขึ้นเพื่อเยียวยาและเชิดชูเกียรติทหารที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยการส่งมอบในครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสียรวม 23 ครอบครัว

นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในฐานะบริษัทของคนไทย เรามีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะมีส่วนร่วมในการสนับสนุนภารกิจของกองทัพบก ทั้งในทางตรงและทางอ้อม โดยที่ผ่านมาได้มีการหารือร่วมกับผู้บัญชาการทหารบกอย่างต่อเนื่อง เพื่อหาแนวทางที่ GULF จะสามารถช่วยเหลือกองทัพได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยีหรือระบบดาวเทียมที่เรามีความเชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม อีกสิ่งหนึ่งที่เราให้ความสำคัญอย่างมากคือการสนับสนุนทางอ้อม โดยเฉพาะการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพล ในฐานะที่ผมเองก็เติบโตมาในครอบครัวทหาร จึงมีความเข้าใจและตระหนักถึงความเสียสละของทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวหน้า รวมถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของทหารผู้กล้าทุกท่าน

ที่ผ่านมา เราได้มีการจัดตั้งกองทุน 100 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของทหารที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งในครั้งนี้ เมื่อทราบถึงเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทางบริษัทฯ จึงได้ประสานงานเพื่อขอมอบเงินสนับสนุนเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและเยียวยาครอบครัวที่ต้องสูญเสียเสาหลักไป ในฐานะบริษัทไทย เราขอยืนยันว่าจะไม่ทอดทิ้งกัน และจะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีสิ่งใดที่กองทัพต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม เรามีความยินดีและพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง เพราะถือเป็นหน้าที่ของคนไทยคนหนึ่ง ที่จะต้องรักชาติบ้านเมืองและเสียสละช่วยเหลือ ทั้งตรงทางอ้อมและจะทําให้ดีที่สุด”

พลเอก ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก กล่าวว่า “ในในนามของกองทัพบก รวมถึงผู้บังคับหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งเป็นหน่วยต้นสังกัดของกำลังพลผู้เสียสละ ขอขอบพระคุณทาง GULF ที่ได้สละเวลามามอบเงินสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือครอบครัวและญาติของกำลังพลผู้สูญเสียในครั้งนี้ ทุกความสูญเสียที่เกิดขึ้นย่อมนำมาซึ่งความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เพราะกำลังพลทุกนายคือบุคคลสำคัญ เป็นทั้งพ่อ เป็นลูก และเป็นเสาหลักของครอบครัว ไม่มีใครอยากที่จะไปสูญเสียในลักษณะอย่างนั้น และทำหน้าที่ได้อย่างเต็มกำลังความสามารถแล้ว กองทัพรู้สึกเสียใจ และกำลังพลเหล่านั้นจะจารึกอยู่บนพื้นแผ่นดินแห่งนี้ ทั้งชื่อและนามสกุล จะเป็นเกียรติประวัติให้กับกองทัพและประเทศ ให้ลูกหลานได้รับทราบสืบต่อกันไปในอนาคตว่าพ่อหรือลูกของพวกเขา ได้เสียสละให้กับผืนแผ่นดินแห่งนี้ กองทัพบกขอขอบคุณที่เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยดูแลคนที่อยู่ข้างหลังของเขาเหล่านั้น”

สำหรับภาพรวมการดำเนินงานของกองทุนฯ ในปัจจุบัน ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวทหารกล้าที่สละชีพไปแล้วรวม 40ครอบครัว เป็นเงิน 40 ล้านบาท พร้อมทั้งเยียวยาทหารที่ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 10.5 ล้านบาท นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการสนับสนุนด้านสาธารณสุข โดยมอบเครื่องมือแพทย์มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ให้แก่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี รวมยอดการส่งมอบความช่วยเหลือจากกองทุนจนถึงปัจจุบันเป็นมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการตอบแทนความเสียสละของเหล่าทหารไทยอย่างต่อเนื่อง

นอกจากภารกิจกองทุน 100 ล้านบาท GULF ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากภารกิจความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการมอบถุงยังชีพ ‘GULF Care’ จำนวนกว่า 2,000 ชุด แก่ทหารและประชาชนที่ได้รับผลกระทบในศูนย์พักพิงตามจังหวัดต่าง ๆ การสนับสนุนงบประมาณให้ศูนย์พักพิง รวมถึงการผนึกกำลังกับบริษัทในเครือ เพื่อนำเทคโนโลยีด้านการสื่อสารและดาวเทียมมาช่วยอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น GULF มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ โดยเชื่อว่าความมั่นคงของชาติจะเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...