‘ภูมิใจไทย’ ลุ้น สส.มากสุด เร่งสปีดชิงพรรคอันดับหนึ่ง
นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล ตอบคำถามนักข่าว อาจจะยุบสภาก่อน 31 ม.ค. 2569 ทำเอาแวดวงการเมืองตื่นเต้น เพราะกลัวเตรียมการไม่ทัน
จะเลือกตั้ง ต้องมีผู้สมัคร ต้องมีระบบบริหารพรรค ถ้าเป็นพรรคใหญ่ ต้องมีแคนดิเดตนายกฯ จะ 1 ชื่อตามมีตามเกิด หรือ 3 ชื่อเต็มคาราเบล แล้วแต่ความพร้อม
ที่สำคัญมาก ๆ ต้องมี “ทุน” ต้องเป็นทุนที่มีที่มาที่ไป พร้อมรับการตรวจสอบ
ไม่มีทุนก็เหมือนเดินตัวเปล่าเข้าสนามรบ โอกาสรอดชีวิตน่าจะไม่กี่เปอร์เซ็นต์
อาจารย์สุขุม นวลสกุล คอมเมนเตเตอร์การเมืองชื่อดัง อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง แสดงความเห็นต่อกระแสข่าวการยุบสภาก่อนกำหนด ว่ามีโอกาสน้อยมาก
เนื่องจากพรรคการเมืองส่วนใหญ่ยังไม่พร้อม แน่นอนว่าทางพรรคภูมิใจไทยมอนิเตอร์พรรคอื่นอยู่ตลอดเวลา
แต่อาจารย์สุขุมก็เตือนว่า หากมีความจริงจังในการยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยน่าจะเดินเกมก่อน
อาจารย์สุขุมยังชี้ว่า ในช่วงนี้พรรคภูมิใจไทยถือเป็นพรรคที่เดินเกมทางการเมืองได้อย่างมีจังหวะ เก็บคะแนนเสียงจากนโยบายที่เป็นรูปธรรมต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ที่เพียงเปิดลงทะเบียนไม่กี่ชั่วโมงแรกก็สร้างภาพลักษณ์เชิงบวกให้กับรัฐบาลและพรรคภูมิใจไทยอย่างมาก
ถึงแม้ไม่ใช่ผู้ริเริ่มแนวคิด แต่การลงมือทำ และผลลัพธ์ที่ประชาชนเห็นจริงในรัฐบาลนี้ กลับกลายเป็นแต้มทางการเมืองที่ชัดเจน
ภาพประชาชนยืนต่อคิวลงทะเบียนหน้าธนาคาร หรือกดสิทธิที่ตู้เอทีเอ็ม มันคือคะแนนทั้งนั้น
นโยบายอื่น ๆ อย่างการลดราคาพลังงานก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ พูดแล้วทำของพรรคภูมิใจไทย แม้จะมีประเด็นวิพากษ์ในเรื่องปัญหาชายแดน หรือปัญหาแก๊งสแกมเมอร์ แต่คะแนนบวกในสายตาประชาชนยังมีมากกว่า
ช่วงเวลานี้พรรคภูมิใจไทยมีโอกาสขยายฐานคะแนนต่อเนื่องจากนโยบายเล็ก ๆ ที่จะทยอยออกมาอีกในอนาคต ไม่มีความจำเป็นต้องรีบยุบสภา เพราะทุกนโยบายที่เดินอยู่ขณะนี้ล้วนเป็นแต้มต่อทางการเมืองที่สะสมได้จริง ยกเว้นแต่ว่าฝ่ายค้านจะจับมือกันเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งมองมุมไหนก็ยังไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้
ก่อนจะทุบโต๊ะพยากรณ์ว่า ตอนนี้ภูมิใจไทยไม่ใช่พรรคตัวเลือก แต่เป็นพรรคแกนนำที่มีลุ้นติด 1 ใน 2 พรรคที่ได้คะแนน สส.มากที่สุด
ตรงนี้น่าสนใจมาก คงจะต้องฟังผลสำรวจคะแนนนิยมจากโพลต่าง ๆ กันต่อไป
อาจารย์สุขุมบอกว่า พรรคภูมิใจไทยมีลุ้นเป็น 1 ใน 2 พรรคที่จะได้ สส.มากที่สุด
แล้วภูมิใจไทยจะไปลุ้นแข่งกับใคร
ดูจากการเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 พรรคประชาชนได้ 151 เสียง จากเขต 112 ปาร์ตี้ลิสต์ 39
ส่วนเพื่อไทยได้ 141 จากเขต 112 ปาร์ตี้ลิสต์ 29
มาถึงรอบนี้ พรรคประชาชนหากไม่เจอมรสุมนิติสงคราม หรือไม่ร้ายแรงมาก ก็ไม่น่าจะวูบวาบไปจากเดิมมากนัก
พรรคที่มีโอกาสวูบมากกว่าคือเพื่อไทย
พูดกันในเวลานี้ คู่ต่อสู้ของภูมิใจไทยมีโอกาสเป็นพรรคประชาชนมากกว่าพรรคอื่น
หากเกิดพรรคใหญ่ ทุนหนา ผู้สมัครโหงวเฮ้งดี โผล่พรวดขึ้นมา ค่อยว่ากันอีกที
ถ้าภูมิใจไทยเข้าป้ายด้วยจำนวน สส.ระดับที่ 1 หรือ 2 หนทางเข้าทำเนียบรัฐบาลจะแจ่มใสทันที
เพราะสไตล์การเมืองแบบภูมิใจไทย จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดพรรคต่าง ๆ ให้เข้ามาจับมือ
ที่แน่ ๆ อยู่แล้ว คือพรรคที่ร่วมกันเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยในขณะนี้
ยังมีอีกหลายพรรคที่พร้อมจะก้าวเข้ามาร่วมมือกับพรรคภูมิใจไทย
ถ้าการเมืองจากระยะนี้ไม่เกิดอะไรที่ส่งผลกระทบด้านลบรุนแรง ระดับ “ตกท่อ” สถานการณ์หลังเลือกตั้งครั้งหน้าก็คงจะเป็นแนวนี้
อย่างไรก็ตาม พรรคการเมืองต่าง ๆ นอกจากต้องการชนะเลือกตั้ง ได้ สส.มาก ๆ เพื่อตั้งรัฐบาล หรือเข้าร่วมรัฐบาล
ควรคิดถึงการพัฒนาการเมืองของประเทศ ให้มีมาตรฐานที่เป็นสากลด้วย
ทุกพรรคพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รัฐธรรมนูญ 2560 มีปัญหา แม้แต่ สว.ก็พูดทำนองเดียวกัน
เมื่อเห็นว่าเป็นปัญหา ควรหาทางปรับปรุงแก้ไข
ขณะนี้รัฐสภากำลังพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ในชั้นกรรมาธิการ
โดยหวังว่าจะบรรลุภารกิจโดยเห็นชอบในวาระ 3 ก่อนปีใหม่ 2569 เพื่อจะได้นำมาทำประชามติในวันเลือกตั้ง
หากผ่านประชามติจะได้มีการเตรียมร่างรัฐธรรมนูญใหม่ในรัฐบาลหน้า
ดังนั้น พรรคการเมืองต้องหอบภารกิจแก้ไขรัฐธรรมนูญติดตัวไปด้วย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ชัยชนะในการเลือกตั้งจะไม่สมบูรณ์ หากร่างแก้ไขตกหล่นกลางทาง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ‘ภูมิใจไทย’ ลุ้น สส.มากสุด เร่งสปีดชิงพรรคอันดับหนึ่ง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net