โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

NEO ครึ่งแรกปีทำรายได้ 4.9 พันลบ.กำไร 537 ลบ. พร้อมมูฟเข้าตลาดสูงวัย

การเงินธนาคาร

อัพเดต 16 ส.ค. 2567 เวลา 17.21 น. • เผยแพร่ 16 ส.ค. 2567 เวลา 10.18 น.

NEO ปักธง 5 ปีขยายตลาดต่างประเทศใช้แบรนด์ “ดีนี่” เปิดตลาดใหม่เอเชียใต้-ตะวันออกกลาง เจาะsegment สูงวัย-pet friendly- พรีเมียม เพิ่มรายได้ต่างประเทศ 15%

[caption id="attachment_124367" align="aligncenter" width="1024"]

NEO

นางปัทมา ถกลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการพาณิชย์ บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน)[/caption]

นางปัทมา ถกลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการพาณิชย์ บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ หรือ NEO) ผู้ทำการตลาด ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจากรายงานของ“ยูโรมอนิเตอร์” พบว่าในปีนี้มีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมาแต่คาดว่าในปี 2568 จะกระเตื้องขึ้น ขณะที่การใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายบุคคลเติบโตเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม “นีโอ คอร์ปอเรท” มีการเติบโตมากกว่าตลาดมาตลอด และจะยังสามารถเมนเทนการเติบโตต่อเนื่องไปอีก 3 ปีข้างหน้า เนื่องจากมีสินค้าหลายขนาดทำให้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น

ซึ่งในไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทสามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดได้มากขึ้นทั้ง ผลิตภัณฑ์ซักผ้า เติบโต 31.0% ขณะที่ตลาดเติบโต 19.5% ผลิตภัณฑ์โรลออน เติบโต 35.7% ส่วนตลาดเติบโต 12.9% และผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็ก เติบโต 10.4% ตลาดเติบโต 7.6% โดยมีสัดส่วนรายได้แบ่ง 3 กลุ่มเฮาส์โฮลด์ 40% เพอซัวนัลแคร์ 26% เบบี้แอนด์คิดส์ 34%

ส่งผลให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 สร้างประวัติศาสตร์รายได้จากการขาย ทะลุ 2,494 ล้านบาท เติบโต 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัท 269 ล้านบาท เติบโต 72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย. 2567) มีรายได้จากการขายรวม 4,966 ล้านบาท เติบโต 9% และกำไรสุทธิส่วนของบริษัท 537 ล้านบาท เติบโต 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเซกเมนต์ที่เติบมากที่สุดเพอร์ซัลนัลแคร์18.2% จากปีที่แล้วในทุกแบรนด์ และเบบี้แอนด์คิดส์ 13.1%

เพื่อการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศในช่วง 5 ปีข้างหน้า บริษัทฯ วางแผนยกระดับกระบวนการผลิตและขยายกำลังการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยทั้งใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ (กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล และกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้สำหรับเด็ก) ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 400,000 ตันต่อปี จากปัจจุบันประมาณ 230,000 ตันต่อปี

ควบคู่ไปกับพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกไลฟ์สไตล์และทุกช่วงวัย จากพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันใส่ใจดูแลตัวเองและให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า จึงมีแนวโน้มเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะทางที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสร้างความพึงพอใจได้อย่างตรงจุด ยินดีจ่ายแพงขึ้นสำหรับสินค้าที่คุ้มค่ากว่า

NEO

NEO จึงวางกลยุทธ์ Innovation-led Premiumization ที่มีนวัตกรรมเป็นตัวนำ ทั้งนวัตกรรมการช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นยาวนานพิเศษ นวัตกรรมการกำจัดกลิ่นเฉพาะตัวของผู้สูงวัย (Silver Age) และการนำเสนอผลิตภัณฑ์แบบ Pet Friendly สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงในที่อยู่อาศัย เป็นต้น โดยวางเป้าหมายภายใน 3 ปี (2567-2569) สัดส่วนรายได้ของผลิตภัณฑ์พรีเมียมแมส (Premium Mass) ของบริษัทฯ เพิ่มเป็น 10% ของพอร์ตฟอลิโอ

“จากแผนการตลาดในช่วงครึ่งปีหลังประกอบกับการที่ล๊อนซ์สินค้าใหม่ออกไปในช่วงไตรมาส 1 กว่า 23 sku ไตรมาส 2 กว่า62sku ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพรีเมียมแมส ซึ่งคาดว่ายอดขายจะเข้ามาในช่วงไตรมาส 3และ 4 ซึ่งจะเข้ามาช่วยท็อปอัพยอดขายจากการเติบโตปกติและทำให้เติบโตdouble digitsได้”

อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์ว่าระหว่างปี 2566-2568 ตลาดผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือนจะเติบโตเฉลี่ย 9%รวมไปถึงมองโอกาสการเติบโตกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน และกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล ในตลาดเอเชียใต้ ที่คาดการณ์เติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 8.0% ส่วนตะวันออกกลาง และแอฟริกา เติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 15.1% ในช่วงปี 2566 – 2568

ทั้งนี้นีโอตั้งเป้าจะขยายฐานประเทศใหม่เพิ่มจาก 16 ประเทศในปี 2566 เป็นมากกว่า 28 ประเทศในปี 2571 และคาดการณ์สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศประมาณเพิ่มจาก 10% เป็นมากกว่า 15% ปี 2571 ซึ่งแผนธุรกิจ 5 ปี (2567-2571) ในส่วนของตลาดต่างประเทศจะใช้สินค้าอุปโภคทั้งหมด 8 แบรนด์ จาก 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ เป็นสินค้านำร่องภายใต้กลยุทธ์ dual tracks ได้แก่ 1.ขยายการเติบโตในประเทศเป้าหมายเดิม ด้วยการนำเสนอสินค้าประเภทใหม่ จากทั้งแบรนด์เดิม รวมทั้งแบรนด์ที่ยังไม่ได้ทำการตลาด และ 2.มุ่งขยายไปยังประเทศที่มีศักยภาพเพิ่มเติม

รวมถึงการขยายไปยัง segment ใหม่ที่มีศักยภาพและมีโอกาสเติบโตสูง เช่น segment ผู้สูงวัยที่บริษัทฯ เป็นเจ้าแรกในตลาด พร้อมกับส่งมอบนวัตกรรมที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคพร้อมชูกลยุทธ์ Innovation-led Premiumization ที่มีนวัตกรรมเป็นตัวนำในการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ รวมถึงการบุกขยายพื้นที่การขายให้ครอบคลุมมากที่สุด

“อย่างไรก็ตามยอดขายแบรนด์สมาร์ทมียอดขายลดลงเล็กน้อยเพราะตลาดใหญ่อย่างเมียนมาร์กำลังมีปัญหาภายในทำให้ส่งออกค่อนข้างลำบาก ขณะที่ดิสซิบิวชั่นทางเวียดนามที่มีปัญหาเล็กน้อยเราได้ปรับแผนใหม่โฟกัสโมเดิร์นเทรดและเทรดดิชั่นนอลเทรดซึ่งน่าจะทำให้ยอดขายต่างประเทศกลับมาโตดีขึ้น

สำหรับตลาดใหม่ที่นีโอตั้งเป้าจะขยายไปคือเอเชียใต้และตะวันออกกลาง ซึ่งตอนนี้เราเริ่มเจาะตลาดเข้าไปได้บ้างแล้วคือกาตาร์ บาห์เรน ปากีสถานและอัฟกานิสถาน โดยในเอเชียใต้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องบางประเทศอาจมีเหตุการณ์ไม่สงบทำให้ฉุดตัวเลขของเอเชียใต้ลง ขณะที่ตะวันออกกลางก็เติบโต double digits เช่นกันนอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดตลาดเพิ่มอีก 2 ประเทศในตะวันออกกลาง”

อ่านข่าว แวดวงธุรกิจ ที่น่าสนใจ ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...