24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 30 กรกฎาคม 2567
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 30 กรกฎาคม 2567
>> ผู้ต้องหาแขวนคอดับคาห้องขัง โรงพัก สภ.สารภี
07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สารภี รับแจ้งว่า มีผู้ต้องหา ที่อยู่ในความควบคุมดูแลของ สภ.สารภี ได้ใช้เชือกแขวนคอจบชีวิตในห้องควบคุม จึงเข้าตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.สารภี ร่วมชันสูตรพลิกศพ
ผู้ตายทราบชื่อ นายอิน อายุ 53 ปี ชาว ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เป็นผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในเคหสถาน,บุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ ใช้เชือกผูกรองเท้าแขวนคอติดกับซี่ลูกกรง
จากการตรวจสอบบริเวณไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย ญาติไม่ติดใจ ถึงสาเหตุการตาย จึงได้นำศพส่งไปชันสูตรที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ตามขั้นตอนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับห้องควบคุมผู้ต้องหา หรือ “หัองขัง ”ของสภ.สารภี แห่งนี้เคยมีผู้ถูกควบคุมตัวผูกคอฆ่าตัวตายมาแล้วหลายราย เช่นเมื่อหลายปีก่อน มีหนุ่มวัยรุ่น จำนวน 2 คน ชาวกู่แดง ต.หนองแฝก อ.สารภี ถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น และถูกควบคุมขังแค่คืนเดียวได้แขวนคอเสียชีวิตทั้งคู่มาแล้ว
>> รถกระบะขนแรงงานชาวเมียนมา เสียหลักตกข้างทาง บาดเจ็บสิบกว่าราย
07.44 น. รับแจ้งจาก รับแจ้งจาก มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ มีอุบัติเหตุรถกระบะพลิกคว่ำลงข้างทาง และมีผู้บาดเจ็บหลายราย ถนนเส้นทางบ้านไทรงาม ม.14 ต.รางสาลี่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีเทา ลักษณะเสียหลักตกข้างทาง ใกล้กันพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 12 ราย โดยเป็นชาย 5 รายและหญิง 7 ราย เป็นบุคคลชาวเมียนมา ทางอาสาสมัครให้การช่วยเหลือและนำส่ง โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๑๙ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วง
>> "นอท ลอตเตอรี่พลัส" แจ้งความเอาผิดเพจปลอม หลอกขายกล่องสุ่มเว็บพนัน พบมีมากเกือบ 2 พันเพจ
10.00 น. นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ "นอท ลอตเตอรี่พลัส" พร้อมกับ ฮาย อาภาพร มนต์สิทธิ์ คำสร้อย และ ทนายความ นำหลักฐานเดินทางมาแจ้งความที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กองปราบปราม หลังถูกมิจฉาชีพนำภาพถ่ายของพรีเซนเตอร์ที่โปรโมท นำไปหลอกจำหน่ายกล่องสุ่ม และหลอกขายหวยใต้ดิน
โดย นอท บอกว่า ที่ผ่านมา ตนเองได้ตรวจสอบในโซเชียลพบ เพจปลอม กว่า 1,700 เพจ และมีคนใช้รูปโปรไฟล์ปลอมตัวเอง และ พรีเซนเตอร์ ทั้งฮาย อาภาพร มนต์สิทธ์ คำสร้อย , สุนารี ราชสีมา , เจนนี่ รัชนก กว่า 4,500 โปรไฟล์ รวมถึงการใช้เครื่องหมายของลอตเตอรี่พลัส ในการหลอกลวงประชาชน โดยมิจฉาชีพจะนำรูปภาพ ไปตัอต่อเพื่อโฆษณาในเว็บพนัน หลอกขายกล่องสุ่ม หลอกขายหวยใต้ดิน สร้างความเสียหายให้กับประชาชนที่หลงเชื่อ ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตนเองและทีมพรีเซนเตอร์ จะเป็นเรื่องทำให้สังคมเข้าใจผิด แต่กับประชาชนที่หลงเชื่อเสียหายเงินที่ถูกหลอกไปตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักล้าน บางคนเข้ามา คอมเม้นท์ในเพจว่าถูกหลอกต่างๆ นาๆ
โดยนอท ยืนยันว่า บริษัทของตนเอง ไม่ทีการทำกล่องสุ่มแน่นอน อย่าหลงเชื่อ และที่ผ่านมาตนเองได้ให้ทีมทนายความและทีมกฎหมายไปแจ้งความบัญชีม้า ไปกว่า 2,000 คดี รวมถึงยังได้กดรายงานเพจปลอมทางเฟซบุ๊กไปจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า
>> “ศรีสุวรรณ” ฟ้องเอาผิดอธิบดีกรมประมง-รมว.เกษตรฯ ปมละเลยหน้าที่ ทำปลาหมอคางดำระบาด
10.15 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ในฐานะตัวแทนชาวประมงที่เดือดร้อน ได้เดินทางมายื่นฟ้องอธิบดีกรมประมง คณะกรรมการด้านความหลากหลายและความปลอดภัยทางชีวภาพของกรมประมง และรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในข้อหาใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบและละเลยต่อหน้าที่ปล่อยให้นายทุนใหญ่นำปลาหมอคางดำซึ่งเป็นเอเลี่ยนสปีชีส์เข้ามาในประเทศจนเกิดการแพร่ระบาดไปทั่วสร้างความเสียหายโดยรวมให้กับชาวประมงนับหมื่นล้านบาท ถือได้ว่าเป็นอาชญากรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่ร้านแรงที่สุดของชาติในขณะนี้ ทั้งกรมประมง คณะกรรมการด้านความหลากหลายและความปลอดภัยทางชีวภาพของกรมประมง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่ยอมเอาผิดผู้นำเข้าต้นตอของปัญหา ให้เป็นผู้รับผิดชอบ แต่กลับนำเงินภาษีของประชาชนไปใช้แก้ปัญหา
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า ชาวประมงที่เดือดร้อนและเสียหายจึงมาร้องขอให้องค์การรักชาติ รักแผ่นดินช่วยเป็นธุระอย่าปล่อยให้กรมประมงและนายทุนใหญ่ลอยนวลไปได้องค์กรฯจึงจะนำความไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อให้ศาลออกคำบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดให้เอาผิดบิ๊กเอกชนต้นเหตุของปัญหาและให้รับผิดชอบต่อความเสียหายของชาวประมงทั้งหมด และสั่งให้นายทุนใหญ่ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำที่สูญหายไปให้กลับมาดังเดิมต่อไป
>> นายกฯ เตรียมประชุมหน่วยงานความมั่นคง แก้ไขปัญหาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อนหารือนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
11.40 น. ณ บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการลงพื้นที่ภาคใต้ วันที่ 3 สิงหาคม ว่า นอกจากจะพูดคุยเรื่องบุคคลสองสัญชาติแล้ว ยังจะมีการพูดคุยเรื่องความมั่นคงซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ และในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมเพื่อลงรายละเอียดก่อนเดินทางลงพื้นที่ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมถึงผู้บัญชาการทหารบก เดินทางลงไปด้วย
>> สถานการณ์น้ำแม่น้ำจันทบุรี ทรงตัวและเริ่มลดลง ปภ. เร่งสูบน้ำระบายลงทะเล
13.26 น. ปภ.รายงานสถานการณ์น้ำไนแม่น้ำจันทบุรีเริ่มทรงตัวและลดลงเล็กน้อย คาดมวลน้ำจากอำเภอมะขาม และอำเภอเขาคิชฌกูฏชุดแรกได้ผ่านตัวเมืองไปแล้ว แต่ก็ยังมีมาเพิ่มเติมอีกเรื่อย ๆ แต่การระบายน้ำเป็นไปอย่างคล่องตัวน้ำไหลแรง และไหลเชี่ยวซึ่ง อบจ.จันทบุรี ปภ.เขต 17 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และท้องถิ่นได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายลงทะเลเตรียมพร้อมรองรับมวลน้ำรอบต่อไปที่จะมาในช่วงฤดูฝน
ข้อมูลเบื้องต้นจากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดจันทบุรี สรุปความเสียหายจากผลกระทบฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง น้ำเอ่อล้นตลิ่ง ช่วง 27 ถึง 30 กรกฎาคม 2567 ที่มีฝนตกวัดประมาณได้มากกว่า 300 มิลลิเมตรมีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 8 อำเภอ 32 ตำบล 170 หมู่บ้าน 7 ชุมชน ผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า 3,400 ครัวเรือนและมากกว่า 9,000 กว่าราย พื้นที่การเกษตรเสียหายมากกว่า 4,000 ไร่ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้มีการสำรวจและช่วยเหลือเยียวยาต่อไปในอนาคต ทั้งนี้สถานการณ์รอบนอกได้เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติในหลายพื้นที่ และยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจเมืองจันทบุรี ริมแม่น้ำจันทบุรีที่รับน้ำจากอำเภอเขาคิชฌกูฏ และอำเภอมะขามจึงยังแสดงธงสัญลักษณ์สีแดง เพื่อการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำจันทบุรีให้ฝเระวังต่อไป ป้องกัน และลดความสูญเสีย ผลกระทบเมื่อเกิดสถานการณ์สามารถให้ความช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูให้กลับคืนสู่สภาพปกติได้อย่างรวดเร็ว ต่อไป
>> รวบมือปืนโหด จ่อยิงอริดับ อ้างแค้นเคยถูกตบหน้า
14.00 น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.คลองหลวง ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายปอ (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุยิง บังแอร์ อายุ 40 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์จำนวน 1 กระบอก โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ชุมชนหลังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ม.18 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และคุมตัวมาสอบสวนอย่างละเอียดที่ สภ.คลองหลวง
จากที่เหตุการณ์ยิงกันตายเมื่อคืนวันที่ 29 ก.ค. 67 หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวคนร้ายว่าเป็นใครทางด้านฝ่ายสืบสวนก็ได้กดดันกันมาตลอด จนสามารถจับกุมตัวได้ในวันนี้ ส่วนสาเหตุนั้นทางด้านผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นคนยิงและมีเรื่องกับผู้ตายมานานแล้วเป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนเรื่องการหลบหนีนั้นคนก่อเหตุก็ต้องไปหาญาติอยู่แล้ว ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้นต้องรอสอบสวนอีกครั้ง
หลังจากสอบสวน เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายปอ ไปทำแผนประกอบรับสารภาพ ในที่เกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณหน้าร้านเย็นตาโฟ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดก่อเหตุยิง บังแอร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที จึงรีบนำตัวขึ้นรถ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุชุลมุน เพราะฝ่ายญาติของผู้เสียชีวิต ได้เข้ามาดูการทำแผนครั้งนี้จำนวนมาก จากนั้น จึงได้นำตัว นายปอ กลับมาที่ สภ.คลองหลวง และเตรียมนำส่งฟ้องศาลจังหวัดธัญบุรีต่อไป
>> ครม.มีมติแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ วาง 7 มาตรการ ใช้งบ 450 ล้านบาท มั่นใจจบปัญหาในปี 2570
15.45 น. รายงานจากผู้สื่อข่าว ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯ สั่งการในที่ประชุม ครม. ว่า แม้ปัญหาความหมอคางดำจะเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว และเป็นปัญหาที่คาราคาซังต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน เป็นความเดือดร้อนของประชาชน จึงเป็นภารกิจที่รัฐบาลปฏิเสธไม่ได้ต้องเอาใจใส่และมีความจริงจังในการแก้ปัญหา จึงมอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานว่าที่ผ่านมาได้จัดการไปอย่างไรและจากนี้จะมีมาตรการอย่างไร นายชัย กล่าวอีกว่า นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ ระบุว่า ที่ผ่านมา กรมประมงพยายามแก้ไขแต่เอาไม่อยู่ เพราะที่ผ่านมาขาดการบูรณาการกับภาคประชาสังคมและภาคเอกชน ดังนั้น ในรอบนี้จึงเชิญนายกสมาคมประมง นายกสมาคมผู้เพาะพันธุ์ เลี้ยงสัตว์น้ำต่างๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นและวางแผนแก้ไขปัญหา
โดยตกผลึกเป็นมาตรการ 7 ข้อ ใช้งบประมาณ 450 ล้านบาท ซึ่งปัญหาปลาหมอคางดำจะจบสิ้นและหมดไปจริงๆ ในปี 2570 โดยจากนี้จะค่อยๆ ลดไปตามลำดับ โดยรมช.เกษตรฯ ยืนยันว่าได้ผลแน่นอน เพราะเป็นการตกผลึกระหว่างภาครัฐกับเอกชน
>> อุบัติเหตุรถบรรทุก ชนกับรถกระบะ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
15.55 น. มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี รับแจ้งอุบัติเหตุรถกระบะ ชนกับรถบรรทุก และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนหมายเลข 4142 ในพื้นที่บ้านเขาหลวง ม.13 ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี
ที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุก 6 ล้อ ฮีโน่ สีขาว ป้ายทะเบียน สุราษฎร์ธานี ลักษณะชนกับรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีดำ ป้ายทะเบียน ยโสธร จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 3 ราย ซึ่งติดค้างภายในยานพาหนะ 2 ราย ทางอาสาสมัครใช้เครื่องมืองัดซากรถเพือช่วยเหลือนำออกจากตัวรถ พบว่ามีอาการสาหัสทั้งคู่ จึงดำเนินการนำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่ง รพ.ดอนสัก และได้รับแจ้งว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา เป็นชายไทย อายุ 52 ปี และหญิงไทย อายุ 43 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บ 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 23 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนสัก
>> รองผู้ว่าฯ นครปฐม ติดตามการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน เตรียมป้องกันน้ำท่วม-น้ำล้นตลิ่ง
16.30 น. นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม มอบหมายให้นายธีรยุทธ์ จันทร์ดิษฐวงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครปฐม และ แขวงทางหลวงสมุทรสาคร ลงตรวจติดตามการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน บริเวณแพชวัล เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย(น้ำล้นตลิ่ง) ที่เอ่อท่วมถนนบรมราชชนนี โดยได้รับทราบปัญหาและวิธีการแก้ไข
โดย ปัจจุบัน การก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ก่อสร้างแล้วประมาณ 70 % ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณสิงหาคมปี 2568, ขณะนี้การก่อสร้างพนังกันน้ำทางด้านซ้ายและด้านขวาของสะพาน ได้ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว คงเหลือเพียงช่วงใต้สะพานที่ยังไม่ได้ก่อสร้าง เพื่อป้องกันน้ำท่วมเอ่อล้นเข้าถนนบรมราชชนนี แขวงทางหลวงสมุทรสาคร ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเรียบร้อยแล้ว โดยติดตั้งบริเวณใต้สะพาน และจะนำดินมาทำเป็นคันกั้นน้ำ
และหากน้ำยกระดับขึ้นสูง แขวงทางหลวงสมุทรสาครจะดำเนินการกั้นกระสอบทรายกันน้ำเข้าช่องทางด่วน เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรได้ตามปกติ
>> ‘บิ๊กโจ๊ก’ แจงหมดเปลือก พร้อมรับคำวินิจฉัย ก.พ.ค.ตร.
17.39 น. พลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังได้นำเอกสารและเข้าชี้แจงด้วยวาจาต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร) กรณีอุทธรณ์คำร้องคำสั่งให้ออกจากราชการโดยมิชอบ โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงว่า ในวันนี้ได้ชี้แจงรายละเอียดต่างๆต่อคณะกรรมการเรียบร้อยแล้วทั้งหมดครบถ้วนทุกประเด็น ถือว่าเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และพระราชบัญญัติตำรวจฉบับใหม่ พ.ศ.2565 ที่กำหนดหลังจากนี้รอทางคณะกรรมการได้มีคำวินิจฉัย และจะไม่ติดใจหากผลออกมาเป็นทิศทางใด
พร้อมกับยืนยันว่าหลังจากนี้หากผลการวินิจฉัยของคณะกรรมการเป็นไปในทิศทางลบหรือบวกก็พร้อมน้อมรับ แต่หากผลเป็นลบหลังจากนี้ก็จะใช้ สิทธิ์ยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้ ศาลมีคำสั่งคุ้มครองสถานะการเป็นตำรวจ และพิจารณาเพิกถอนคำสั่งให้ออกจากข้าราชการไว้ก่อน โดยจะฟ้องร้องในทุกประเด็นตามที่กฎหมายให้สิทธิ์ แต่ยังไม่สามารถยื่นต่อศาลปกครองได้จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมา ย้ำว่าหากผลออกมาในทิศทางบวกตนเองก็จะสามารถกลับไปรับราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ และจะไม่ฟ้องร้องดำเนินคดีกับใครทั้งสิ้นตามที่ได้เคยกล่าววาจาไว้ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบกรอบระยะเวลาการวินิจฉัยของคณะกรรมการ แต่ทางคณะกรรมการจะส่งผลการวินิจฉัยไปยังภูมิลำเนา และจะเป็นผู้รับด้วยตนเอง ส่วนผลการพิจารณาจะแล้วเสร็จก่อนการพิจารณาเสนอชื่อเพื่อคัดเลือกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ในเดือนกันยายนนี้หรือไม่นั้นไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับ ก.พ.ค.ตร.
>> รถกระบะขับฝ่าสายฝน เสียหลักแหกโค้งชนต้นไม้ใหญ่ บาดเจ็บสาหัส 3 และเสียชีวิต 1 ราย
18.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เถิน จ.ลำปาง รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถกระบะเสียหลักชนต้นไม้ และมีผู้บาดเจ็บหลายราย ริมถนนพหลโยธิน ช่วงหลัก กม.632-633 ก่อนถึงปากทางแม่ถอด อ.เถิน จ.ลำปาง
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะมาสด้า สีขาว ป้ายทะเบียน จ.สุรินทร์ สภาพพลิกตะแคงฟาดต้นไม้ใหญ่ริมถนนสภาพรถพังยับเยิน ภายในรถพบผู้บาดเจ็บ 4 รายทั้งผู้ชายและหญิงติดอยู่ ทางอาสาสมัครต้องใช้เครื่องมืองัดรถ เพื่อช่วยนำผู้บาดเจ็บออกมาปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่ง รพ. จำนวน 3 ราย ส่วนอีก 1 รายนั้นติดอยู่บริเวณเบาะหลัง และมีอาการสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเป็นหญิงไทย อายุประมาณ 50 ปี ภูมิลำเนาชาว อ.ภูเพียง จ.น่าน
เบื้องต้นทราบว่า ทั้งหมดเดินทางมาจาก จ.เชียงใหม่ กำลังมุ่งหน้ากลับ จ.นครปฐม เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงทางโค้ง ประกอบกับขณะนั้นมีฝนตกถนนลื่น อาจทำให้รถเสียหลักพลิกตะแคงชนเข้ากับต้นไม้อย่างแรง จากนั้นเจ้าหน้าที่นำศพส่งรพ. พร้อมสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> ไฟไหม้รถยนต์ เสียหายที่ห้องเครื่อง ประชาชนใช้น้ำทำการดับเพลิง
23.59 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ ซอยรัชดาภิเษก 42 แยก 4 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นเพลิงลุกไหม้รถยนต์นั่งส่วนบุคคล สีขาว หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันเบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายเฉพาะห้องเครื่องยนต์ ประชาชนใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยลาดพร้าวใช้น้ำทำการระบายความร้อน
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรที่ห้องเครื่องยนต์ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยลาดพร้าว