โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

อันซีนสำเพ็ง “มัสยิดหลวงโกชาอิศหาก” มัสยิดหนึ่งเดียวในชุมชนจีน

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว
มัสยิดหลวงโกชาอิศหาก (ภาพโดย วรวิทย์ พานิชนันท์)

“มัสยิดหลวงโกชาอิศหาก” มัสยิดหนึ่งเดียวในชุมชนจีน

เรามักเข้าใจว่า สำเพ็ง เป็นแหล่งที่อยู่ของชาวจีนเท่านั้น แต่ที่จริงแล้ว สำเพ็งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม หนึ่งในนั้นคือการเป็นที่ตั้ง มัสยิดหลวงโกชาอิศหาก มัสยิดหนึ่งเดียวของชาวมุสลิม ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางบ้านเรือนและแหล่งค้าขายของชาวจีน

มัสยิดดังกล่าวตั้งอยู่เลขที่ 979 ถนนทรงวาด เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ ได้ชื่อตามผู้ก่อตั้งมัสยิดคือ หลวงโกชาอิศหาก (เกิด บินอับดุลลาห์) โดยก่อตั้งมาแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และยืนหยัดผ่านยุคสมัยมาถึงปัจจุบัน

หลวงโกชาอิศหาก (พ.ศ. 2350-2440) ชื่อเดิม เกิด บินอับดุลลาห์ เป็นบุตรของหวันมูซา กับนางจุ้ย ชาวเมืองไทรบุรี (ขณะนั้นเป็นจังหวัดหนึ่งของสยาม)

หลวงโกชาอิศหากเข้ารับราชการตำแหน่งล่ามมลายู กรมท่าขวา ทำหน้าที่ติดต่อกับชาวต่างประเทศที่เข้ามาทำการค้าขายกับกรุงสยาม หรือบรรดาประเทศราชแหลมมลายูที่มาถวายเครื่องราชบรรณาการเป็นประจำทุกปี

จอห์น ครอว์เฟิร์ด ทูตจากอังกฤษ ที่เข้ามาสยามในรัชกาลที่ 2 เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีและเจรจาการค้า กล่าวถึงหลวงโกชาอิศหากไว้ในบันทึกของเขาตอนหนึ่งว่า สยามได้จัดส่งเจ้าพนักงานซึ่งมีหน้าที่ดูแลและคอยเป็นล่ามให้ราชทูต บุคคลผู้นี้มีตำแหน่งเป็นหลวงโกชาอิศหาก มีชื่อว่า นักโกด่าอาลี ซึ่งเป็นขุนนางมุสลิมเชื้อสายมลายู ตำแหน่งล่ามแขกฝรั่งในกรมท่าขวา เดิมเป็นนายเรือและพ่อค้าชื่อเกิด

หลวงโกชาอิศหากรู้จักและคุ้นเคยกับบรรดาชาวต่างชาติทั้งหลายเป็นอย่างดี โดยเฉพาะชาวต่างประเทศที่นับถือศาสนาอิสลาม ที่มาติดต่อค้าขายทางเรือกับประเทศไทย ขณะนั้นท่าจอดเรือในกรุงเทพฯ จะอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา เริ่มตั้งแต่บางรักไปถึงท่าราชวงศ์ ชาวต่างประเทศที่นับถืออิสลามจึงขอร้องให้ท่านจัดหาที่สำหรับละหมาด จะได้ไม่ต้องเดินทางไปละหมาดที่มัสยิดไกลๆ เนื่องจากการคมนาคมลำบากมาก

กลายเป็นจุดเริ่มต้นในการก่อสร้าง “มัสยิดหลวงโกชาอิศหาก”

หลวงโกชาอิศหากซื้อที่ดินได้แปลงหนึ่งเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ อยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา และใกล้ท่าเรือที่ชาวต่างชาติจอดเรือขนถ่ายสินค้า และสร้างเรือนไม้เล็กๆ เรียกว่า “บ้านแล” พอเป็นที่ละหมาดเท่านั้น โดยยังไม่มีความสะดวกสบาย ต้องเดินบนสะพานเล็กๆ ข้ามร่องสวนเจ้าไป (เวลานั้นยังไม่มีถนนทรงวาด) ต่อมาบ้านแลเริ่มทรุดโทรมลงเรื่อยๆ

ถึงสมัยรัชกาลที่ 5 หลวงโกชาอิศหากตั้งใจจะสร้างมัสยิดให้มั่นคงถาวรสืบไป จึงทำการเรี่ยไรทรัพย์สินเงินทองจากลูกหลานที่มีฐานะมั่นคง รวมกับเงินทองส่วนตัวของท่านที่ได้สะสมไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ พื้นที่ด้านหน้าสร้างเป็นอาคารทรงยุโรปตามสมัยนิยมขณะนั้นสำหรับประกอบศาสนพิธี ส่วนพื้นที่ด้านหลังจัดเป็นกุโบร์สำหรับฝังศพประมาณ 1 ไร่

หลวงโกชาอิศหากถึงแก่กรรมในปี 2440 พระโกชาอิศหาก (หมัด บินอับดุลลาห์) บุตรคนโตของท่านเป็นผู้ดูแลคนต่อมา ปัจจุบันการบริหารงานของมัสยิดดำเนินการโดยบุคคลในสกุล “มันตรัฐ” ซึ่งเป็นเชื้อสายของหลวงโกชาอิศหาก โดยมีวันละหมาดใหญ่คือทุกวันศุกร์ เวลาประมาณเที่ยง ชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในบริเวณสำเพ็ง และเยาวราชจะเข้ามาร่วมกันทำละหมาด

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

ข้อมูลจาก :

วิษณุ ทรัพย์สมบัติ. สำเพ็งประวัติศาสตร์ชุมชนในกรุงเทพฯ, สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2559

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 2 ธันวาคม 2563

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : อันซีนสำเพ็ง “มัสยิดหลวงโกชาอิศหาก” มัสยิดหนึ่งเดียวในชุมชนจีน

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...