โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

พระเณรวัดเส้าหลิน พระจีนที่ช่วยบ้านเมือง-ประชาชนยามเกิดจลาจล

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 29 ก.ค. เวลา 00.35 น. • เผยแพร่ 29 ก.ค. เวลา 00.07 น.
ภาพประกอบเนื้อหา - ภาพถ่ายพระสงฆ์ในประเทศจีน โดย John Thomson ราวศตวรรษที่ 19

พระเณรวัดเส้าหลิน พระจีนที่ช่วยบ้านเมือง-ประชาชนยามเกิดจลาจล

วัดเส้าหลิน (บ้างเรียก วัดเสียวลิ้มยี่) หรือที่ในยุทธภพเรียกว่า สำนักเส้าหลิน มีส่วนร่วมกับสังคมเสมอๆ ในยามบ้านเมืองเกิดจลาจล หรือขับไล่ชนต่างเผ่าที่เข้ามาปกครองจีนไม่ว่าจะเป็นมองโกล, แมนจู

วัดเส้าหลินเป็นวัดในศาสนาพุทธ มีอยู่ 3 แห่งด้วยกัน คือ

1. ที่มณฑลเหอหนัน เป็นวัดต้นกำเนิดนิกายเซนแบบจีน และสำนักวิทยายุทธ์ที่โด่งดัง สร้างเมื่อ พ.ศ. 1038

2. ที่ภูเขาผานซาน ไม่ไกลจากกรุงปักกิ่ง สร้างในสมัยราชวงศ์หยวน (พ.ศ. 1789-1911) ไม่มีชื่อเสียงเรื่องวิทยายุทธ์

3. ที่ภูเขาจิ่วเหลียนซาน มณฑลฮกเกี้ยน สร้างในสมัยราชวงศ์หมิง (พ.ศ. 1911-2187) เรียกว่า “เส้าหลินใต้” วัดนี้ไม่มีชื่อเสียงทางศาสนา แต่โดดเด่นเรื่องวิทยายุทธ์ และการต่อต้านแมนจู สมัยราชวงศ์ชิงถูกเผาเสียหายถึง 2 ครั้งติดกัน ปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่ที่เมืองฉวนโจว มณฑลฮกเกี้ยน

เบื้องต้นการฝึกวิทยายุทธ์ของพระ “วัดเส้าหลิน” เนื่องจากวัดตั้งอยู่ในป่ามีสัตว์ร้ายมาก ต่อมาการฝึกวิทยายุทธ์ สำนักเส้าหลิน ก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ พระเณรจากวัดเส้าหลินก็มีส่วนคลี่คลายสถานการณ์ของบ้านเมือง พอสรุปได้ดังนี้

ปลายราชวงศ์สุย (พ.ศ. 1124-1161) พระเณรของวัดฝึกฝนพัฒนาวิชาพลังลมปราณและวิทยายุทธ์จนกล้าแข็งมากขึ้น เมื่อเกิดจลาจลจึงสามารถจัดกองกำลังคุ้มกันที่ดินและทรัพย์สินมากมายได้เองโดยไม่ต้องพึ่งทางการ

สมัยราชวงศ์ถัง (พ.ศ. 1161-1450) ราชสำนักสนับสนุนฝึกวิทยายุทธ์ของวัดเส้าหลิน ด้วยพระวัดเส้าหลิน 13 รูป นำโดย หลวงจีนกั๊กเอี๋ยง (เจี๋ยหยวน) เคยช่วยชีวิตจักรพรรดิถังไท่จง เมื่อครั้งยังเป็นจิ๋นอ๋อง จึงได้รับสิทธิพิเศษให้มี “กองทัพพระ” ยามเกิดศึกสงครามพระก็ลาสิกขาไปป้องกันประเทศ พอเสร็จศึกก็กลับมาบวชใหม่ มีกองทัพพระเณรกว่า 2,000 รูป เป็นยุคที่วัดรุ่งเรืองมาก

สมัยราชวงศ์ซ่ง (พ.ศ. 1503-1822) เตี๋ยวคังเอี้ยน (เจ้าควงยิน) ปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์เป็นจอมยุทธ์ผู้มีฝีมือคนหนึ่ง เขียนตํารามวยไท้โจ๊วมาไว้ที่วัดเส้าหลิน ซึ่งสืบทอดมาจนปัจจุบัน วีรบุรุษเช่น งักฮุย (เย่เฟย) ก็รับการถ่ายทอดวิชานี้ไปจากเส้าหลิน

สมัยต้นราชวงศ์หมิง (พ.ศ. 1911-2187 ) หลวงจีนเซียวซัว (เสี่ยวซาน)จากเส้าหลิน เป็นแม่ทัพออกศึกชายแดนถึง 3 ครั้ง จึงได้รับพระราชทานแท่นปักธงและสิงโตหิน ซึ่งยังตั้งอยู่หน้าวัดจนทุกวันนี้ ในสมัยราชวงศ์หมิงนี้เองที่มีการก่อสร้าง “วัดเส้าหลินใต้” ที่มณฑลฮกเกี้ยน เมื่อเกิดเหตุโจรสลัดญี่ปุ่นปล้นชายฝั่งทะเล พระจากวัดเส้าหลินได้ช่วยชาวบ้านออกต่อสู้โจรสลัดจนถึงแก่มรณภาพหลายสิบรูปเป็นที่ประทับใจของประชาชน

เมื่อชาวแมนจูยึดครองราชสำนัก สถาปนาราชวงศ์ชิง (พ.ศ. 2383-2454) วัดเส้าหลินใต้ก็มีส่วนสำคัญต่อต้านชาวแมนจู หลวงจีนตั๊กจง (ต๋าจง) ฝึกพระเณรเข้าร่วมสมาคมฟื้นฟูราชวงศ์หมิง การปราบวัดเส้าหลินจึงเป็นภารกิจสำคัญลำดับต้นๆ ของราชสำนักแมนจู เฉพาะอย่างยิ่งวัดสาขาอย่าง “เส้าหลินใต้” สมัยจักรพรรดิยงเจิ้งเคยส่งกองทัพมากวาดล้างและเผาวัดเส้าหลินใต้

ต่อมาจักรพรรดิเฉียนหลงเสด็จมาดินแดนกังหนำ (พื้นที่บริเวณตอนใต้ของแม่น้ำแยงซี) เพื่อปราบวัดเส้าหลินใต้เช่นกัน ทรงใช้กลยุทธ์ “จีนปราบจีน” โดยเชิญยอดฝีมือจากสำนักบู๊ตึงและง้อไบ๊ซึ่งมีเรื่องผิดใจกับเส้าหลินมาอยู่ มาประกบตัวฆ่ายอดฝีมือศิษย์เสียวลิ้มจนหมดสิ้น และเผาวัดเส้าหลินใต้เป็นครั้งที่ 2

พระ เณร ฆราวาส ศิษย์เส้าหลินที่มีชื่อเสียงที่ผ่านมามีมากมาย แต่ศิษย์เส้าหลินที่โด่งดังที่สุด คือ หลวงจีนกั๊กเอี๋ยง (เจี๋ยหยวน) ซึ่งมีอยู่ 2 รูป รูปแรกเป็นคนสมัยราชวงศ์ถังเป็นผู้นำพระอีก 12 องค์ไปช่วยชีวิตพระเจ้าถังไท่จง และช่วยปราบศัตรูกลุ่มนี้จนราบคาบ ประวัติศาสตร์ฉากนี้ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์จีนเรื่อง “เสียวลิ้มยี่”

รูปที่สองเป็นคนสมัยปลายราชวงศ์ซ่งต้นราชวงศ์หยวน มีชื่อเสียงกว่าองค์แรก และเป็นผู้พัฒนาวิทยายุทธ์ของเส้าหลินให้ก้าวหน้าอย่างมาก หลวงจีนกั๊กเอี๋ยงองค์นี้กิมย้งกล่าวไว้ใน มังกรหยกภาค 2 และ 3 ว่าเป็นอาจารย์ของเตียซำฮง (จางซันเฟิง) แห่งสำนักบู๊ตึ้ง

ส่วนวัดเส้าหลินใต้ศิษย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังปรากฏในภาพยนตร์กำลังภายในมากที่สุด คือ ศิษย์ทั้ง 3 ของหลวงจีนจี๊เสียง (จื้อส้าน) ได้แก่ ปึงสี่เง็ก (ฟางสื้ออี้), อั้งฮีกัว (หงสี่กวน) และ โอ้วฮุยเคียง (หูฮุ่ยเฉียง)

ในนิยายกำลังภายในหนังสือเรื่อง “เฉียนหลงประพาสกังหนำ” กล่าวถึงการต่อสู้ของศิษย์เส้าหลินกับจอมยุทธ์จากบู๊ตึงและง้อไบ๊ว่า นักพรตคิ้วขาวจากง้อไบ๊สู้กับหลวงจีนจี๊เสียง, แม่ชีโหงวบ๊วย (อู่เหมย) จากง้อไบ๊กับปึงสี่เง็ก, ปั๊งเต้าเต็กแห่งบู๊ตึงประกบอั้งฮีกัว แม้แต่ละคู่มีฝีมือสูสีกันมาก หากในที่สุดฝ่ายเส้าหลินตายหมด สำนักถูกทำลาย

แม้พจนานุกรมวิทยายุทธ์จีนหลายเล่มไม่ปรากฏชื่อ อั้งฮีกัว, ปึงสี่เง็ก และยอดฝีมืออีกหลายคนว่าไม่มีตัวตนจริง แต่อั้งฮีกัวและปึงสี่เง็ก คงเป็นการสร้างขึ้นเป็นตัวแทนจอมยุทธ์ในอุดมคติ ที่มีปณิธานต่อประเทศชาติในการ “ล้มชิง กู้หมิง”

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

อ้างอิง :

ถาวร สิกขโกศล. สกัดจุดยุทธจักรมังกรหยก, สำนักพิมพ์สร้างสรรค์ พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2543

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2563

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : พระเณรวัดเส้าหลิน พระจีนที่ช่วยบ้านเมือง-ประชาชนยามเกิดจลาจล

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...