โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ไชยวัฒน์ หาญสมวงศ์ ไขปริศนา SMEs 2.8 ล้านราย วืดเงินทุน

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 13 ต.ค. 2562 เวลา 04.21 น. • เผยแพร่ 13 ต.ค. 2562 เวลา 04.21 น.

สัมภาษณ์

เป็นที่ทราบกันดี ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ “เอสเอ็มอี” ถือเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ โดยกำหนดมาตรการส่งเสริมรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงตั้งกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี แต่ไม่ว่าอัดเม็ดเงินลงไปเท่าไร หรืออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทยจะขยายตัวขึ้นอย่างไร แต่ก็มักจะมีเสียงสะท้อนว่าเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนและความช่วยเหลือของภาครัฐอยู่เสมอ คำถามนี้

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ “นายไชยวัฒน์ หาญสมวงศ์” ประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย ซึ่งเกิดจากการรวมกลุ่ม 168 ภาคีสมาชิก ทั้งสมาคม มูลนิธิ และชมรม ได้เล่าถึงสถานการณ์ภาพรวมเอสเอ็มอีว่า

Q : ที่ผ่านมาจีดีพีไทยเติบโต เหตุใดเอสเอ็มอีไม่โตตาม

ทางสภาได้เข้าพบหัวหน้าพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล รวมถึงพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อเสนอแนวทางในการพัฒนาและยกระดับ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสู่สากล โดยเราได้รายงานสถานการณ์ธุรกิจเอสเอ็มอี เราพยายามอธิบายว่า ปัจจุบันเอสเอ็มอีไทยอยู่ตรงไหน ทำไมตัวเลขจีดีพีที่เติบโตขึ้นจึงไม่ส่งผลดีต่อเอสเอ็มอีไทยเลย แต่กลับยิ่งเดือดร้อน

เศรษฐกิจรากหญ้าทำไมเดือดร้อนเป็นไปในทิศทางเดียวกับเอสเอ็มอี ซึ่งก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า แม่ค้าหาบเร่เป็นเศรษฐกิจรากหญ้า แต่เอสเอ็มอีเป็นผู้ที่มีทะเบียนการค้า และเป็นนิติบุคคล ซึ่งเรานำเสนอข้อมูลนี้ ร่วมถึงร่าง พ.ร.บ.วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภาคเอกชน พ.ศ. …. ที่พยายามยกร่างขึ้นมา 5 ปี เคยยื่นให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็ถูกตีตก ทางองค์กรภาคเอกชนขนาดใหญ่ หลายองค์กรต่างก็ไม่เห็นด้วย แต่เรามองว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องมีเวทีของตัวเอง ก่อนหน้านี้ เรามี พ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของภาครัฐ เมื่อปี 2543 ผ่านมาถึงปัจจุบัน เรายังไม่มี พ.ร.บ.วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภาคเอกชนเลยแม้แต่ฉบับเดียว ในช่วง 10 กว่าปี

ที่ผ่านมา แล้วเม็ดเงินที่บอกว่าส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมนั้นนำไปส่งเสริมให้ใคร ในเมื่อไม่มี พ.ร.บ.ของภาคเอกชน หมายถึงว่า ไม่มีภาคเอกชนที่เป็นตัวแทนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในเมืองไทยเลย แล้วเงินงบประมาณเป็นแสนล้านบาทที่บอกว่ากระตุ้นไปทั้งหมด ตั้งคำถามว่าทำไมเอสเอ็มอีไม่ขึ้นสักที เพราะปัจจุบันมีแค่ 9 องค์กรในไทยเท่านั้น ที่สามารถไปรับงบฯส่งเสริมจากรัฐได้ 9 องค์กรนี้ คือ มูลนิธิ สมาคม แต่แท้จริงเรามีสมาคมที่จดภายใต้กระทรวงพาณิชย์อยู่ 90,000 สมาคมทั่วประเทศ และไม่รวมของมหาดไทย เรามีมูลนิธิ/ชมรมอีกไม่รู้กี่หมื่นรายทั่วประเทศ แต่เขาให้แค่ 9 องค์กรเท่านั้นเองที่รับงบฯส่งเสริมได้

Q : ภาพรวมเอสเอ็มอีไทยในปัจจุบัน

ผมแบ่งกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยเป็น 3 ระดับ คือ 1) ระดับที่พร้อมจะเดินหน้าแล้ว (ready to go) 2) ระดับทำไปเพื่อความอยู่รอด และ 3) ระดับดิ้นรน ทั้ง 3 ส่วนนี้มีสัดส่วนเหมือนกับเจดีย์ ภาครัฐออกข่าวว่าขณะนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเราพร้อมเข้าสู่การเป็น 4.0 เข้าสู่โลกดิจิทัล คือแค่ปลายเจดีย์ ซึ่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่พร้อมจะเดินหน้าแล้วทั้งประเทศ ไม่น่าจะเกิน 40,000 ราย จริง ๆ อาจจะต่ำกว่านั้น จากข้อมูลจำนวนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ปี 2558 ที่มีประมาณ 2.8 ล้านราย แบ่งเป็นภาคการผลิต 3 แสนราย ที่เหลือ 2.4 ล้านราย เป็นภาค

การค้าและภาคบริการ สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ คือ ภาครัฐมองเห็นตรงนี้ยอดเจดีย์ ซึ่งหากจะให้ดีที่สุด สัดส่วนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีควรเป็นรูปโอ่งน้ำ เป็นสัดส่วนที่ดีสุดของผู้ประกอบการทั่วโลก เพราะตรงส่วนที่อยู่รอดมีความเข้มแข็งที่สุด

Q : การเข้าถึงกองทุนเอสเอ็มอี

ไม่มี พ.ร.บ.วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ก็ไม่มีสภาเป็นตัวแทน ไม่มีเวทีของตัวเองอยู่ ณ ปัจจุบัน จึงมีแค่ 9 องค์กรที่สามารถรับงบฯส่งเสริมได้ ขณะที่ 9 องค์กรนี้ไม่ได้แทนตัว ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วประเทศ เมื่อรัฐพยายามทำโครงการส่งเสริม แต่ยังไงก็ไม่สามารถทำได้

Q : การดำเนินนโยบายของสภา

นโยบายเราคือไม่ตี แต่จะมาให้ข้อมูลว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเดือดร้อนอย่างไร เราเสนอพรรคฝ่ายค้านเพื่อขอยื่นญัตติเข้าสภา เปิดสมัยหน้าเรียบร้อยแล้ว โดยผมได้พบกับท่านสุชาติ ตันเจริญแล้ว ท่านบอกว่าเห็นด้วยที่เราจะมีเวทีของตัวเอง ไปเกือบครบทุกพรรคยกเว้นบางพรรคแต่เราไปหาท่านรัฐมนตรีสุริยะแล้ว

หากมีการพิจารณาในสภาก็พร้อมจะนำรายงานเผยแพร่ออกสู่สังคม ประมาณ 70 หน้า ไม่รวม พ.ร.บ.วิสาหกิจฯ เพราะเป็นข้อมูลที่ทำให้เข้าใจว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอยู่ตรงไหน เดือดร้อนอะไรบ้าง และทำไมปัจจุบันยังเดือดร้อนอยู่ ต้องยอมรับว่าปัญหาของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเป็นโรคเรื้อรังมาเป็น 10 ปี ไม่ใช่จะแก้ไขได้ในรัฐบาลเดียว หากรัฐบาลไม่เข้าใจโครงสร้างของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี

Q : ข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาเอสเอ็มอีควรเป็นอย่างไร

สภามีโมเดล SMEs Smart Province ซึ่งเราเชื่อว่าจะเป็นโมเดลในการบูรณาการผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในประเทศไทยทั้งระบบได้ รัฐมีโครงการมหาศาล เพียงแต่ละหน่วยงานต่างคน ต่างทำ มีกระทรวงที่เกี่ยวข้อง 10 กระทรวง 20 กรม แต่ไม่ได้ร่วมบูรณาการกัน

Q : SMEs Smart Province ทำอย่างไร

สิ่งที่เอสเอ็มอีทั่วโลกเหมือนกัน คือ ต้องการ 3 ส่วนหลัก คือ ตลาดขายสินค้า การเข้าถึงเงินทุน และองค์ความรู้ นวัตกรรม ฉะนั้น ต้องบูรณาการ 3 ส่วน โดยโมเดลนี้เริ่มจากทางจังหวัดแต่ละจังหวัด คัดเลือกสินค้าของทุกจังหวัดที่มีวิวัฒนาการและสะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ต้องหาตลาดให้ว่าทำสินค้ามาแล้วจะไปขายใคร ซึ่งอาจจะถึงสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย เข้ามามีส่วนร่วมด้วย

โมเดลนี้ไม่ได้ใช้งบประมาณ แต่เป็นการบูรณาการงบประมาณที่มีแต่ละหน่วยงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างปัจจุบันโอท็อปกำลังจะดิ่งลงเหว เรามองว่าโอท็อปเป็นแบรนด์หรือใบรับรองมาตรฐาน สินค้าที่ผลิตออกใครจะกล้าซื้อ โมเดลนี้จะช่วยยกระดับการพัฒนาเอสเอ็มอีได้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...