โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

อองตวน เปิดเส้นทางชีวิต นักมวยเงินล้าน เคลียร์ชัดความสัมพันธ์กับ ดีเจต้นหอม

The Bangkok Insight

อัพเดต 26 มี.ค. 2564 เวลา 12.53 น. • เผยแพร่ 26 มี.ค. 2564 เวลา 12.51 น. • The Bangkok Insight

เผยเส้นทางชีวิตของนักมวยฝรั่งหน้าหล่อ “อองตวน ปินโต” 

จากนักมวยตัวสำรองที่โดนดูถูก สู่การเป็นนักมวยเงินล้านได้สำเร็จ!

            แขวนนวมโบกมืออำลาวงการวงการมวยไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับอองตวน ปินโต ที่มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 พร้อมกับเล่าย้อนอดีตว่าจริง ๆ แล้วการที่เขาเข้ามาในวงการมวยก็เพราะมวยคือสิ่งที่ดึงตัวเองให้หลุดจากปมที่คิดว่าตัวเองเป็นตัวประหลาด พร้อมยอมรับแบบตรงไปตรงมาว่ามีเจ้าชู้บ้าง เพราะว่าช่วงนี้ยังโสดเลยเปิดโอกาสให้กับตัวเอง และเคลียร์เสียงดังฟังชัดความสัมพันธ์กับ สาวต้นหอม ว่าไม่มีอะไรในก่อไผ่จริง ๆ

ถาม เป็นแฟนกับ ต้นหอม อยู่ ณ ตอนนี้ จริงหรือเปล่า

อองตวน ไม่ใช่ครับ เป็นพี่น้องในวงการที่รู้จักกัน แม่อ้วน ก็พูดไปเดี๋ยวคนเข้าใจผิดกันหมด สนิทกันเท่านั้นครับ

ถาม คือ หลายคนก็ยังสงสัยว่าเราเป็นฝรั่งโดยแท้ขนาดนี้ ต่อยมวยตั้งแต่อายุเท่าไหร่ มวยไทย ด้วยนะ

อองตวน คือ ครอบครัวของผมย้ายมาอยู่ไทยตอนอายุ 12 แล้วเริ่มต่อยมวยอายุ 13 ครับ คุณพ่อคุณแม่เป็นฝรั่งเศสแท้ๆเลยครับ ทำไมถึงมาชอบมวยไทย เพราะว่าเอาจริงๆตอนเด็กๆคือไม่รู้จักแต่ด้วยความที่เราเด็กมากแล้วเราอยากมีเพื่อนแล้วตอนที่เราย้ายมาเราก็อยู่กับแค่น้องชายสองคนเราก็ไม่รู้จักใครแล้วอีกอย่างคือภาษาไทยเราก็ยังพูดไม่ได้ พอดีใกล้ๆบ้านเราจะมีค่ายมวยแล้วก็มีเด็กๆมาซ้อมวิ่งมาซ้อม เราก็เลยตามเขาเข้าไปในค่ายมวย คือ เราอยากมีเพื่อน

ถาม แล้วเข้าไปชกนานไหมถึงรักคำว่า มวยไทย 

อองตวน ผมว่ามันค่อยๆพัฒนานะครับ เพราะเราทำทุกวันแล้วมันเป็นความสุขที่เราได้อยู่ในค่ายมวย มันไม่ใช่แค่ที่ออกกำลังกาย แต่ค่ายมวย คือ ครอบครัว เพราะเราอยู่ที่นั่นจะมีครูคอยแนะนำ มีคนคอยสอนมีเพื่อนพี่รุ่นพี่ มีเด็กๆเรารู้สึกว่าเราได้อีกครอบครัวหนึ่งเลย

ถาม ณ ตอนนั้นเรามีความรู้สึกนี้ไหม ฝรั่ง มาอยู่เมืองไทยเราได้รับความรู้สึกแบบแบ่งแยกไหม

อองตวน มีอยู่แล้วครับ จริงๆแค่เด็กๆเวลาที่เด็กเขาพูดกันไม่ได้แรงแต่มันตรงไปตรงมา เวลาจะแกล้งกันจะพูดจะแซวกันก็จะพูดออกมาเลยบางทีก็อาจจะกระทบความรู้สึก เพราะด้วยความที่เราเป็นต่างชาติ เพราะเราอยู่ต่างจังหวัดด้วยไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯ แล้วเราก็เป็นฝรั่งคนเดียวในโรงเรียนถูกชี้หน้าตลอดเวลาเราก็เหมือนเป็นตัวประหลาด เขาก็ไม่ได้แซวอะไรมากมายนะครับ แต่ชี้หน้าเราแล้วบอกว่าฝรั่งๆเหมือนเราเดินไปแล้วมีคนชี้ตลอดเวลาแล้วมันรู้สึกว่าเหมือนเป็นปมว่าเราหน้าตาไม่เหมือนชาวบ้าน เราเหมือนตัวประหลาด ซึ่งในตอนนั้นความรู้สึกของเราเราก็อยากเหมือนคนอื่นๆไม่อยากโดนเปรียบเทียบ การที่เราอยู่โรงเรียนหรือที่ไหนเราจะมีความรู้สึกว่าเราไม่เหมือนคนอื่น แต่เมื่อไหร่ที่เราได้ใส่นวมเราจะรู้สึกว่าเราเป็นนักกีฬาเราเท่ากับทุกคน เราก็จะคุยภาษามวยล่ะไม่ได้สนใจว่าเป็นใครมาจากไหนหน้าตาเป็นยังไง คุณมาจากไหน มันเลยเหมือนว่าการต่อยมวยเป็นเชฟโซนของเรา เราอยู่ตรงนั้นเรายังได้พิสูจน์ตัวเองว่าคนเหมือนคนอื่นเราเก่งเหมือนคนอื่นได้

ถาม เห็นบอกว่าปีแรกที่เข้าไปชกมวยเราเป็นได้แค่ตัวสำรองไม่ใช่ตัวจริง

อองตวน :  คือ ต้องบอกว่าเราเริ่มชกจากงานวัดแล้วกัน นักมวย ต่างจังหวัดก็จะเริ่มชกจากงานเล็กตามงานวัด เราก็จะเอากระเป๋าไป เอาฟันยาง เอากางเกงมวยไปทุกงานเลยเพราะถ้ามีใครที่ถอนตัวหรือว่าไม่มาเราก็จะเสียบแทนทุกงานเลย

ถาม แล้วนานแค่ไหนที่เราจะได้มีชื่อโด่งดังขึ้นมา

อองตวน อย่าใช้คำว่า ดัง เลยครับ เรียกว่าเรามีผลงานมาเรื่อยๆในช่วงปีแรกค่อนข้างเร็วเกือบๆยี่สิบครั้งแล้วก็ ผู้ช่วยของโปรโมเตอร์ของลุมพินี เขามาเห็นเขาเลยชวนให้มาชกที่ ลุมพินี นั่นก็คือจุดเปลี่ยนในชีวิตของผม แต่ตอนที่เข้ามาแรกๆเราก็ยังไม่ได้ถือว่าเราประสบความสำเร็จอะไรขนาดนั้น เพราะเราก็มองเห็นเพื่อนในค่ายที่เขาเก่งกว่าเราแต่ทำไมเขาถึงไม่ได้ไป แต่ทำไมเราถึงได้ไป (เราก็ยังมีคำถามกับตัวเอง) หรือเพราะว่าเราเป็นตัวประหลาดหรือเปล่า คือ เราก็ยังไม่ได้เป็นที่ยอมรับ เพราะเพื่อนๆในค่ายก็ยังรู้สึกว่าเราเป็นฝรั่งไปเป็นโชว์ให้เขา ไฟล์แรกที่ผมขึ้นชกที่ลุมพินี คือ ผมชนะน็อกครับ จากนั้นมาเราก็ทำผลงานมาเรื่อยๆในทุกๆเวทีเพราะว่าเรารู้สึกว่าเรายังต้องพิสูจน์อยู่เพราะเรารู้สึกว่าเรายังมีบางอย่างที่เราต้องพิสูจน์ แล้วเราก็ไม่เคยท้อกับทุกคำสบประมาทนะครับ เพราะว่าเราโตมากับการไม่มีทางสู้เพราะว่าเราเกิดมาแบบนี้ คือ สิ่งที่เราสู้ได้คือสิ่งที่เราทำอยู่กีฬาคือสิ่งที่เราเอาชนะได้ เราก็เลยรู้สึกว่ากีฬาคือโอกาสเพราะไม่งั้นเราก็ไม่มีโอกาสชนะ

ถาม แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้ อองตวน เป็นนักมวยเงินล้าน คือ การที่เราไปต่อยมวยที่ต่างประเทศ

อองตวน ใช่ครับ เราก็ชกที่ลุมพินีมาเรื่อยๆ แล้วก็ชกตามเวทีมวยในประเทศ ตอนนั้นเราก็ได้อยู่ Top Ten ในกรุงเทพฯ เราก็รู้สึกว่านะเราไปถึงจุดที่เราไม่เคยคิดว่าเราจะไปได้ แต่พอเรามองย้อนกลับไปแล้วรู้สึกว่าคนที่มองเราทั้งหมดหรือคนในวงการที่เราคบอยู่มันไม่มีใครที่รักเราจริงๆเลย มีแต่เขามาดูเราชนะก็ดีไป ถ้าแพ้ก็โดนด่าเราเลยรู้สึกว่าเราอยากได้อะไรมากกว่านี้ เพราะเราเห็นนักกีฬาต่างประเทศทำไมเขาถึงมีแฟนคลับมีคนที่รัก เราก็รู้สึกว่าทำไมเราไม่มีฟิวส์แบบนี้เลยเราเลยคิดว่าเราต้องไปหาประสบการณ์ใหม่ๆก็เลยเหลือที่จะไปชกที่ต่างประเทศ การที่ไปชกที่ต่างประเทศก็มีทั้งแพ้ทั้งชนะ แต่ด้วยที่ประสบการณ์ของเราที่ไทยทำให้เราได้เปรียบเพราะเชิงมวยของเราดีกว่าแล้วคนที่เขามาดูเราก็คือให้กำลังใจเราเขาเป็นแฟนคลับเรามันเลยทำให้เรารู้สึกดี เพราะเมื่อก่อนไม่เคยมีความรู้สึกนี้เลย ซึ่งจุดเปลี่ยนที่ทำให้เรารู้สึกว่าคนมองเราอีกแบบหนึ่งอย่างบางคนมองว่าเราดังเพราะหน้าตา แต่เรารู้สึกว่าดังเพราะเราเก่ง เพราะผมรู้สึกว่าเราไม่เก่งเราก็ดังไม่ได้ ผมก็รู้สึกว่าเราโดนกดมาเขากดเราโดนไม่รู้จริงๆเราต้องทำอะไรบ้างเราซ้อมยังไง เราซ้อมหนักกว่าคนอื่นเลย เราเลยรู้สึกว่าจริงๆเขาไม่รู้ว่าเราทำอะไรอยู่แต่เรารู้ตัวเองว่าเราทำอะไร ก็เลยไม่หยุดที่คนเขากดเรา แต่มันมีผลกระทบในความรู้สึกของเราไหมรู้สึกอยู่แล้วครับ แต่ตอนนี้ไม่ได้ชกแล้วครับ เรียกว่าเลิกชกมวยไปแล้วเลยก็ได้ครับ

ถาม แล้วความเจ้าชู้เลิกไหม

อองตวน ถ้าเมื่อก่อนจะตอบว่าไม่ แต่ถ้าตอนนี้ ก็ต้องบอกว่าก็ต้องมีบ้างครับ แต่ผมไม่เคยมีแฟนพร้อมกันนะครับ แต่พออายุเราเริ่มโตแล้วสเปกเราก็เริ่มไม่มี ถามว่าตอนนี้โสดไหมโสดครับ แต่ก็มีคุยๆ

ถาม ตอนนี้เลิกชกมวยแล้ว เรียกได้ว่าตอนนี้เข้ามาอยู่ในวงการแบบเต็มตัวแล้วใช่ไหม

อองตวน ใช่ครับ แล้วตอนนี้เราก็ทำรายการ ยูทูปบ้าง ตอนนี้เปิดมา 6-7 เดือนแล้วครับ ก็มีคนเข้ามาติดตามเราก็ดีใจครับ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...