โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

กองทัพภาคที่ 1 ชี้ ปฏิบัติการชายแดนสระแก้ว ย้ำปกป้องอธิปไตย–ไม่มุ่งโจมตีพลเรือน

THE ROOM 44 CHANNEL

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กองทัพภาคที่ 1 ชี้ ปฏิบัติการชายแดนสระแก้ว ย้ำปกป้องอธิปไตย–ไม่มุ่งโจมตีพลเรือน พร้อมเตือนระวังวัตถุระเบิดตกค้าง ตามข้อแนะนำ CMAC

วันที่ 31 ธ.ค. 2568 กองทัพภาคที่ 1 ขอชี้แจงเกี่ยวกับการปฏิบัติของฝ่ายไทยในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา จ.สระแก้ว โดยยืนยันว่า การดำเนินการของกองทัพภาคที่ 1 เป็นไปด้วยความรอบคอบ ยึดหลักความถูกต้อง และความรับผิดชอบต่อความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดนเป็นสำคัญ

โดยพื้นที่บริเวณบ้านคลองแผง บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว เป็นพื้นที่ในอธิปไตยของประเทศไทยมาโดยตลอด

ภายหลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศกัมพูชาในอดีต ฝ่ายไทยได้เปิดพื้นที่ดังกล่าวให้ประชาชนจากประเทศกัมพูชาเข้ามาพักพิงชั่วคราวด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้หน่วยงานระหว่างประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม อันสะท้อนให้เห็นถึงบริบทของพื้นที่ในช่วงเวลาดังกล่าวว่าเป็นการรองรับด้านมนุษยธรรม มิใช่การโอนอำนาจหรือสิทธิใด ๆ ในพื้นที่

โดยต่อมา เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ฝ่ายไทยได้ตรวจพบว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีการ ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในลักษณะเป็นที่ทำการของส่วนราชการของฝ่ายกัมพูชา รวมถึงการปรากฏตัวของกำลังติดอาวุธและหน่วยรักษาความมั่นคงของกัมพูชา เข้ามาประจำการในพื้นที่ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่จากเดิมที่เป็นการพักพิงด้านมนุษยธรรม ไปสู่ลักษณะที่กระทบต่อความมั่นคงและอธิปไตยของประเทศ

การเข้าดำเนินการของกองทัพภาคที่ 1 ในการจัดระเบียบพื้นที่ รวมถึงการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบางส่วน จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามความจำเป็น เพื่อฟื้นฟูให้เกิดความสงบเรียบร้อย ป้องกันการใช้พื้นที่ในลักษณะที่กระทบต่อความมั่นคง และยืนยันการดูแลพื้นที่ชายแดนให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐไทย โดยมิได้มีเป้าหมายต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ และยังคงคำนึงถึงหลักมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง

กองทัพภาคที่ 1 ยืนยันว่า ฝ่ายไทยไม่มีนโยบายรุกล้ำอธิปไตยของประเทศใด และการปฏิบัติทุกขั้นตอนเป็นไปเพื่อปกป้องอธิปไตย ความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดนเป็นสำคัญ

กองทัพภาคที่ 1 ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า การปฏิบัติภารกิจของกำลังพลเป็นไปด้วยความโปร่งใส รอบคอบ และตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงในพื้นที่ พร้อมยืนหยัดในการปกป้องผลประโยชน์ของชาติและความสงบสุขของประชาชนอย่างเต็มกำลัง

ขณะที่ ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ชี้แจงกรณีข้อกังวลเกี่ยวกับวัตถุระเบิดตกค้างในพื้นที่พลเรือน โดยได้รับทราบข้อความแจ้งเตือน ของ Cambodia Mine Action Center (CMAC) ที่ขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังต่อวัตถุระเบิดตกค้างในพื้นที่บางแห่ง และขอเรียนชี้แจงต่อสาธารณชนและประชาคมโลก ดังนี้
ฝ่ายไทยให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของประชาชน และการคุ้มครองพลเรือน มาโดยตลอด การปฏิบัติการทุกมิติของฝ่ายไทยดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และหลักความจำเป็นทางทหาร

โดยมีมาตรการหลีกเลี่ยงการกระทบต่อพื้นที่พลเรือนอย่างเคร่งครัด ฝ่ายไทยขอยืนยันว่าการใช้กำลังทางทหารของฝ่ายไทย มีเป้าหมายเฉพาะต่อภัยคุกคามทางทหาร ที่ชัดเจน และมิได้มุ่งโจมตีพลเรือน ที่อยู่อาศัย หรือพื้นที่เกษตรกรรมของประชาชน ทั้งนี้ ฝ่ายไทยไม่สนับสนุน และไม่ยอมรับการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อพลเรือนหรือทรัพย์สินของประชาชนโดยไม่จำเป็น
ในขณะเดียวกัน ฝ่ายไทยเห็นพ้องกับหลักการสากลด้านความปลอดภัยของประชาชน และขอสนับสนุนให้ประชาชนทุกฝ่ายใช้ความระมัดระวังต่อวัตถุระเบิดหรือสิ่งตกค้างจากการสู้รบ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยการเข้าพื้นที่ควรเป็นไปตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายโดยไม่จำเป็น
“ฝ่ายไทยขอเน้นย้ำว่า การกล่าวอ้างหรือการสื่อสารข้อมูลใด ๆ ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบได้ และควรหลีกเลี่ยงการสื่อสารที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน หรือเพิ่มความตึงเครียดในสถานการณ์ที่เปราะบาง”
ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในความร่วมมือด้านมนุษยธรรม ความโปร่งใส และกลไกระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง และพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับทวิภาคีและพหุภาคี เพื่อส่งเสริมความปลอดภัยของประชาชน และสนับสนุนการฟื้นฟูสันติภาพอย่างยั่งยืนในพื้นที่ชายแดนระหว่างสองประเทศ

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...