“ยายหมี” อายุ 100 ปี รับ การปะทะครั้งนี้หนัก บอก อยากให้จบไวๆ พร้อมให้กำลังใจทหารแนวหน้า
“ยายหมี” อายุ 100 ปี รับ การปะทะครั้งนี้หนัก บอก อยากให้จบไวๆ พร้อมให้กำลังใจทหารแนวหน้า ด้าน ‘หัวหน้าศูนย์’ เผย ขาดแคลน ผ้าห่ม-แพมเพิด-น้ำดื่ม รวมถึงอาหาร เหตุ งบประมาณยังมาไม่ถึง
วันที่ 10 ธ.ค. 68 ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ศูนย์อพยพ อ.กันทรลักษณ์ จ. ศรีสะเกษ พบกับชาวบ้านประมาณ 300 คน มีทั้งเด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ และยังมีหน่วยปฐมพยาบาล จากโรงพยาบาลกันทรลักษณ์ ที่คอยดูแลประชาชนในศูนย์อพยพ ซึ่งรอบแรกไม่ได้มีในส่วนนี้เข้ามาดูแลช่วยเหลือ
นางณัฐกร สุภาคะดึ หัวหน้าสำนักปลัดอบต.จานใหญ่ เปิดเผยว่า ศูนย์อพยพแห่งนี้มีชาวบ้านกว่า 300 คน ตั้งแต่เด็ก 1 ขวบ ไปจนถึงผู้สูงอายุ มากสุดคือ 100 ปี โดยตอนแรกในพื้นที่นี้เปิดเพียงแค่ 5 ศูนย์ แต่ไม่เพียงพอจึงขยายไป 6 ศูนย์ เนื่องจากรอบนี้ทางวิทยาลัยที่รองรับได้มากกว่า 3,000 คน ไม่ได้เปิดรับผู้อพยพ อีกทั้งรอบนี้ยังเป็นการอพยพแบบ 100% ไม่เหมือนรอบแรกที่คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามทางอำเภอได้แก้ไขปัญหาด้วยการขยายศูนย์ออกไปอำเภอใกล้เคียง
ส่วนอาหารยอมรับว่าไม่เพียงพอ ไม่ได้มีข้าวกล่องมาบริจาค ต้องจัดตั้งโรคครัวกันเอง ซึ่งงบประมาณมาไม่ถึงแบบเต็มจำนวน และตอนนี้ใกล้หมดแล้ว โดยต่อมื้อตกอยู่ประมาณ 4,000 บาท นอกจากนี้ยังขาดแคลนน้ำดื่ม แพมเพิส และผ้าห่มอีกด้วย
ขณะที่ ยายหมีอายุ 100 ปี ชาวบ้านในศูนย์อพยพ เปิดเผยความรู้สึกถึงการอพยพออกจากบ้านเนื่องจากเป็นพื้นที่โซนสีแดง ว่า ทางชุมชนพาอพยพออกมาจากบ้าน ตนไม่มีลูกและอยู่คนเดียว โดยมีการอพยพทั้ง 2 รอบ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ชุมชนที่พาอพยพออกมา หากชุมชนไม่ไปรับก็ออกมาไม่ได้ เพราะไม่รู้จะไปยังไง ไปที่ไหน
ขณะช่วงที่ปะทะได้ยินเสียงปืนปะทะกันเสียงดังมาก ไม่กล้าออกจากบ้านจนมีเจ้าหน้าที่เข้าไปรับ ซึ่งการที่อยู่ศูนย์อพยพก็กินดีอยู่ดี ไม่ได้ลำบาก แต่ยอมรับว่าอยากกลับบ้านและคิดถึงบ้าน อยากให้จบเร็วๆ อยากกลับบ้าน ตนอยู่ในพื้นที่ก็รู้ว่ามีการสู้รบหลายครั้ง และครั้งนี้ก็หนัก พร้อมให้กำลังใจทหารแนวหน้าว่า สู้ๆ ขอให้ลูกหลานอยู่รอดปลอดภัย พร้อมแซวว่า ยายแก่แล้ว สู้เด็กน้อยไม่ได้ วิ่งไม่ไหว เลยอยากให้กำลังใจทหาร
ทั้งนี้ศูนย์อพยพจุดนี้มีการจัดกิจกรรมเพื่อเป็นการคลายเครียดให้กับประชาชนที่อยู่ศูนย์อพยพ โดยมีทั้งการเต้นเพื่อเป็นการคลายเครียด โดยมีการเต้นเพลงดั่งดอกไม้บาน และยายแล่ม ทั้งช่วงเช้าและช่วงเที่ยงของทุกวัน ซึ่งทำให้ประชาชนในศูนย์อพยพมีทั้งรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ จึงทำให้ไม่ค่อยเครียดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น