ปะทะต่อเนื่อง กัมพูชาระดมยิง BM-21 ถล่มใส่ช่องอานม้า | ข่าวเย็นประเด็นร้อน
61 ดูข่าวเย็นประเด็นร้อน - ยังคงมีการยิงปะทะกันอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ช่องอานม้า และพื้นที่โดยรอบ ทหารกัมพูชาใช้เครื่องยิงจรวด BM-21 ระดมยิงใส่ทหารไทยตั้งแต่เช้า ภาพที่เห็นเป็นคลิปที่ถ่ายในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา เป็นคลิปภาพทหารกัมพูชา ระดมยิงด้วยเครื่องยิงจรวดแบบ BM-21 เข้าใส่บริเวณช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี จุดยุทธศาสตร์สำคัญ ชุดแรกที่ยิงนับได้ 40 ลูก ใช้เวลายิงประมาณ 22 วินาที ส่วนอีกคลิปเป็นภาพ BM-21 เช่นกัน ยิงในพื้นที่ใกล้เคียงเข้าใส่ฝ่ายไทย อีก 40 ลูก ช่วงเวลาที่ยิงคือประมาณ 07.55 น. และ 08.00 น. ช่วงเวลาที่ยิงคือประมาณ 07.55 น. และ 08.00 น. รวมแล้ว 80 ลูก อีกภาพเป็นกล้องวงจรปิดบ้านของชาวบ้านที่อยู่ติดกับชายแดน บันทึกเสียงจรวด BM-21 บินผ่าน และระเบิดเอาไว้ได้ แรงระเบิดทำให้ผู้สื่อข่าวในพื้นที่สามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ ขณะที่เพจ กองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า ทางฝั่งกัมพูชาได้ระดมโจมตีพื้นที่ช่องบก ช่องอานม้า และ เนิน 677 ด้วยฝูงโดรนกว่า 80 เที่ยว เป็นโดรนติด ค. 82 มม. บินลอบโจมตีช่องอานม้า คาดว่ามีชาวต่างชาติรับจ้างบังคับโดรน และมีทหารกัมพูชา ใช้โครนคอยชี้เป้า เล็งบังเกอร์ไทย จากการฟังเสียง พบว่าจะไม่บินรวดเร็ว แต่จะบินได้นาน เป็นโดรนพลีชีพ จะทิ้งทำลายบริเวณช่องด้านหน้า หรือด้านหลังบังเกอร์ หวังให้สะเก็ดกระเด็นเข้าด้านใน บางจังหวะมีลงจอดที่พื้นเพื่อประหยัดแบต และรอเป้าหมาย โดยสังเกตลักษณะการบินจะไม่ผ่านจุดที่มีสิ่งกีดขวางเยอะ และบินเลือกเป้ากลับไปกลับไปมา ทำให้คาดว่า ใช้สายไฟเบอร์ออฟติก โดยจุดนี้ถือว่าเป็นจุดที่มีการปะทะกันอย่างหนักหน่วงในหลาย ๆ พื้นที่ ซึ่งเป็นเนินเขาจุดยุทธศาสตร์ที่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการยึดให้ได้ ในภาพจะเห็นว่าช่องอานม้า มีเนิน 677 และ เนิน 500 อยู่ใกล้เคียง และมีเนิน 600 และ เนิน 527 อยู่ด้านข้างและด้านหลัง ซึ่งทุกจุดมีการปะทะกันอย่างรุนแรงทุกพื้นที่ ส่วนพื้นที่รอบนอก เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ยังคงปฏิบัติการร่วมกัน ตั้งจุดตรวจจุดสกัด คัดกรองบุคคลเข้าออกพื้นที่ โดยจะไม่อนุญาตให้ประชาชนหรือชาวบ้าน เข้าพื้นที่หากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ขณะที่ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี บอกว่า ตามที่ปรากฏในโซเชียลเมื่อ 2-3 วันก่อน ว่ามีการจับสายลับได้ ข้อเท็จจริงเป็นเพียงแค่บุคคลต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาในประเทศ โดยมีสัญชาติกัมพูชา คนกลุ่มนี้เข้ามาอยู่ในไทยอย่างไม่ถูกต้อง มาทำงาน มาหาญาติ สุดท้ายแล้วมีความต้องการ ที่จะกลับไปประเทศเขาก็เลยมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน ไม่ได้เป็นสปายหรือสายลับ เข้ามาถ่ายภาพหรือหาข้อมูลของฝ่ายความมั่นคง หรือเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ส่วนเคสที่ 2 ที่อำเภอน้ำขุ่น ก็ทำการตรวจสอบเช่นเดียวกัน เป็นแรงงานต่างด้าว เข้ามาทำงานในฝั่งไทย และนายจ้างเลิกจ้าง จึงต้องเดินทางกลับ ขอบคุณภาพจาก : Facebook Army Military Force กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ : https://cutt.ly/YTch7hdnews ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://news.ch7.com #ข่าวเย็นประเด็นร้อน #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero
เล่นอัตโนมัติ