ฟิลิปปินส์เผชิญการระบาดของไวรัสเอชไอวี เพิ่มเร็วสุดในเอเชียแปซิฟิก
สำนักข่าวซินหัวรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ว่าก่อนหน้านี้องค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ระบุว่าฟิลิปปินส์ ฟิจิ และปาปัวนิวกินี เป็นกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิกที่มีการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกำลังประสบกับภาวะอัตราการติดเชื้อใหม่พุ่งสูงที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของภูมิภาค
ดับเบิลยูเอชโอเปิดเผยว่า ฟิจิมีผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีเพิ่มขึ้นสิบเท่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการใช้เข็มฉีดยาเสพติด ขณะที่ปาปัวนิวกินีประกาศให้เชื้อไวรัสเอชไอวีเป็นวิกฤติระดับชาติ เมื่อเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากมีการระบาดเพิ่มขึ้นในหมู่ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์และเด็ก
สำหรับฟิลิปปินส์ มีผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีเพิ่มขึ้นหกเท่าใน ระหว่างปี 2553-2567 โดยดับเบิลยูเอชโอประเมินว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นราว 550% จาก 4,400 คนในปี 2553 เป็น 29,600 คน เมื่อปี 2567 ซึ่งกลุ่มที่ได้รับผลกระทบสูงสุดยังคงเป็นผู้ชายวัยหนุ่มที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์ระบุว่า มีผู้ขึ้นทะเบียนติดเชื้อไวรัสเอชไอวีรวม 149,375 คน เมื่อนับถึงเดือนก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. ที่ผ่านมา 5,583 คน โดยจำนวนนี้อยู่ในระยะลุกลามแล้ว 895 คน และ 95% ของผู้ติดเชื้อใหม่เป็นเพศชาย และหนึ่งในสามมีอายุ 15-24 ปี
ตั้งแต่ปี 2527 ซึ่งเป็นปีแรกที่ฟิลิปปินส์ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีรายแรกของประเทศ เพศชายครองส่วนแบ่ง 94% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดที่มีการรายงาน และมีแนวโน้มตรวจพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในกลุ่มคนอายุน้อยมากขึ้น โดยผู้ติดเชื้อในหมู่คนอายุต่ำกว่า 15 ปี เพิ่มขึ้นถึง 129% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนในหมู่คนอายุ 15-24 ปี เพิ่มขึ้น 106%.
ข้อมูล : XINHUA
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES