"วันนอร์" พร้อมเปิดวิสามัญแก้ รธน. 10-11 ธ.ค. คาดโหวตวาระ 3 ส่งท้ายปี 29 ธ.ค. ชี้เป็นสิทธิ “รัฐบาล” ขอหารือต่อรัฐสภา ในวาระสำคัญ
">
วันที่ 8 ธันวาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา ได้ออกมากล่าวถึงความสำคัญของวันรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ โดยเน้นย้ำว่าเนื่องจากประเทศไทยปกครองในระบอบประชาธิปไตย จึงอยากให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด แม้ที่ผ่านมาประเทศไทยจะมีรัฐธรรมนูญมาแล้วถึง 20 ฉบับ และมีการฉีกรัฐธรรมนูญบ่อยครั้งจนอาจทำให้ความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ลดทอนลงไปบ้างเมื่อเทียบกับประเทศที่มีฉบับเดียว แต่อยากให้ประชาชนทุกคนรักและหวงแหนการปกครองระบอบประชาธิปไตย
นายวันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวถึงวาระสำคัญที่จะเกิดขึ้นควบคู่กับวันรัฐธรรมนูญ คือการประชุมสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 ในวันที่ 10-11 ธันวาคมนี้ โดยมีความมุ่งหวังว่าหากการแก้ไขสำเร็จตามเจตนารมณ์ของสมาชิกรัฐสภา จะนำไปสู่การกระจายอำนาจและการสร้างระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนมีสิทธิมีเสียงมากขึ้น ไม่ใช่สิทธิของกลุ่มคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
สำหรับขั้นตอนในการประชุมวิสามัญครั้งนี้จะเป็นการพิจารณาในวาระที่ 2 ซึ่งเมื่อผ่านการพิจารณาแล้วจะต้องเว้นระยะเวลา 15 วัน ก่อนที่สมาชิกรัฐสภาจะให้ความเห็นชอบในวาระที่ 3 จากนั้นจึงจะเข้าสู่ขั้นตอนการทำประชามติถามความเห็นประชาชน และนำไปสู่การจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ต่อไป
ในส่วนของกรอบเวลาการพิจารณาวาระที่ 2 นั้น ประธานรัฐสภาระบุว่าไม่สามารถกำหนดวันจบที่ตายตัวได้ว่าจะใช้เวลากี่วัน เพราะขึ้นอยู่กับการสงวนความเห็น การแปรญัตติของสมาชิก และการชี้แจงของคณะกรรมาธิการ แม้มาตราที่จะแก้ไขมีไม่มากแต่มีรายละเอียดปลีกย่อยจำนวนมาก หากสมาชิกติดใจสงสัยก็ต้องเปิดให้อภิปรายตามสมควร แต่หากไม่มีข้อติดใจก็จะผ่านไปได้เร็ว โดยในวันประชุมจะเริ่มจากการชี้แจงของประธานกรรมาธิการถึงข้อแตกต่างจากวาระแรกก่อนเปิดให้สมาชิกอภิปรายและลงมติ
สำหรับการลงมติในวาระที่ 3 ซึ่งระเบียบกำหนดให้ต้องทิ้งช่วงอย่างน้อย 15 วันนั้น เมื่อนับระยะเวลาแล้วจะครบกำหนดในวันที่ 26 ธันวาคม แต่เนื่องจากไม่ใช่วันประชุมสภาฯ หากไม่มีข้อขัดข้องใดๆ คาดว่าจะสามารถนัดลงมติวาระ 3 ได้ในวันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม [3] ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเสนอให้ลงมติในวันเสาร์ที่ 27 ธันวาคมนั้น นายวันมูหะมัดนอร์มองว่าเป็นไปได้ หากมีการหารือและตกลงกันก่อนปิดวาระที่ 2 ว่าสมาชิกมีความพร้อมที่จะมาประชุมในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์หรือไม่ เพราะวาระ 3 เป็นการลงคะแนนโดยเปิดเผยด้วยการขานชื่อ หากสมาชิกมาไม่ครบองค์ประชุมอาจเกิดความเสียหายได้ จึงอยากให้ดำเนินการด้วยความเรียบร้อยและมีสมาชิกมาลงมติโดยพร้อมเพรียงกันมากที่สุด
นอกจากนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ ยังได้ชี้แจงถึงกระแสข่าวที่รัฐบาลอาจขอเปิดประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อรับฟังความคิดเห็นในเรื่องความมั่นคงปลอดภัยหรือเศรษฐกิจ ตามมาตรา 155 ของรัฐธรรมนูญ ปี 2560 โดยคาดว่าจะใช้เวลาอภิปราย 3 วัน ระหว่างวันที่ 24-26 ธันวาคมนั้น ล่าสุดยังไม่มีการยื่นเรื่องหารือเข้ามาแต่อย่างใด ซึ่งรัฐบาลสามารถยื่นญัตติดังกล่าวได้ตลอดเวลาเนื่องจากอยู่ในช่วงสมัยประชุมสามัญอยู่แล้ว
เมื่อถามว่ากรณีการยื่นเปิดอภิปรายทั่วไปสามารถทำทับซ้อนกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ไม่ทับซ้อน เพราะเป็นการดำเนินการตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดทั้งการอภิปรายทั่วไปโดยมีการลงมติไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 การอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามมาตรา 152 รวมถึงกรณีที่รัฐบาลร้องขอ แต่ในการอภิปรายตามมาตรา 151 และ มาตรา 152 นั้น ในสมัยประชุมหนึ่งสามารถทำได้เพียงครั้งเดียว