โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

‘ไบโอเมตริกซ์’ ถูกโจมตีหนัก โจรไซเบอร์จ้องขโมยข้อมูล

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 03 ส.ค. เวลา 05.05 น. • เผยแพร่ 03 ส.ค. เวลา 12.00 น.

ผู้เชี่ยวชาญ“แคสเปอร์สกี้” เผย การรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลโดยเฉพาะข้อมูลไบโอเมตริกซ์นั้น อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมากต่อบุคคลและธุรกิจ และทำให้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนตกอยู่ในมืออาชญากรไซเบอร์ซึ่งสามารถนำไปใช้ในกิจกรรมที่เป็นอันตรายต่างๆ ได้ เช่น การโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลและการฉ้อโกงทางการเงิน

ที่สำคัญคือข้อมูลไบโอเมตริกซ์เป็นสิ่งที่ไม่สามารถทดแทนได้ การรั่วไหลอาจส่งผลให้ความเป็นส่วนตัวของบุคคลสูญหายไปอย่างถาวร

อุตสาหกรรมไบโอเมตริกซ์เป็นโครงสร้างพื้นฐาน OT ที่ถูกโจมตีมากที่สุด

งานวิจัยโดย “แคสเปอร์สกี้” ชี้ให้เห็นว่า ข้อมูลไบโอเมตริกซ์มีความเสี่ยงที่จะถูกละเมิด ด้วยพบว่าภาคส่วนไบโอเมตริกซ์เป็นอุตสาหกรรมมีสัดส่วนคอมพิวเตอร์ ICS ที่พบและบล็อกวัตถุอันตรายมากที่สุด

โดยในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 คอมพิวเตอร์ในกลุ่มไบโอเมตริกซ์จำนวน 28.1% ประสบกับภัยคุกคามไซเบอร์ ตามมาด้วยภาคระบบอัตโนมัติในอาคาร (25%) และพลังงานไฟฟ้า (22.8%)

เฮง ลี หัวหน้าฝ่ายกิจการรัฐบาลและนโยบายสาธารณะประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า ไบโอเมตริกซ์เป็นวิธีการยืนยันตัวตนที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์

การผสมผสานลายเซ็นทางกายภาพหรือทางพฤติกรรมให้ใช้ร่วมกับการยืนยันตัวตนแบบอื่นๆ ถือเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งอย่างน้อยที่สุดในขณะนี้ก็นับว่าดีกว่าการใช้รหัสผ่านแบบตัวอักขระที่เป็นการยืนยันตัวตนแบบสแตนด์อโลน

เทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์นั้นเป็นวิธีการด้านความปลอดภัยที่น่าสนใจอย่างยิ่ง แม้จะมีความเสี่ยงอยู่แต่ระบบเหล่านี้ก็สะดวกและทำซ้ำได้ยาก อีกทั้งระบบเหล่านี้ก็จะยังคงพัฒนาต่อไปอีกนานในอนาคต

วิธีปกป้องข้อมูลระบุตัวตนแบบไบโอเมตริกซ์

การเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้คุกคามจะยากขึ้นเมื่อระบบต้องการการยืนยันตัวตนหลายช่องทาง แคสเปอร์สกี้แนะนำแนวทางเพื่อใช้ประโยชน์จากความสะดวกของข้อมูลระบุตัวตนแบบไบโอเมตริกซ์ พร้อมกับลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานให้น้อยที่สุด ดังนี้

  • ไม่พึ่งพาข้อมูลระบุตัวตนแบบไบโอเมตริกซ์เพียงอย่างเดียว: ควรใช้ข้อมูลระบุตัวตนร่วมกับรหัสผ่านที่คาดเดายาก หรือวิธีการยืนยันตัวตนอื่นๆ เช่น การยืนยันตัวตนแบบสองปัจจัย เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
  • เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือ: ตรวจสอบว่าอุปกรณ์รองรับการยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือและใช้งานได้
  • ความปลอดภัยทางกายภาพของอุปกรณ์: มาตรการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพก็มีความสำคัญเช่นกันเพื่อป้องกันการเข้าถึงอุปกรณ์และข้อมูลระบุตัวตนแบบไบโอเมตริกซ์โดยไม่ได้รับอนุญาต
  • โมบายดีไวซ์: พิจารณาใช้ลายนิ้วมือ การจดจำใบหน้า และรหัสผ่านที่คาดเดายากร่วมกันเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
  • การปรับเปลี่ยนเฟิร์มแวร์: ให้ระมัดระวังเมื่อเฟิร์มแวร์ของอุปกรณ์ถูกปรับเปลี่ยน เนื่องจากการยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมืออาจไม่ปลอดภัย
  • การอัปเดตเป็นประจำ: ตรวจสอบว่าอุปกรณ์และแอปทั้งหมดได้รับการอัปเดตแล้ว เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากแพตช์ความปลอดภัยล่าสุด
  • ติดตั้งโซลูชันความปลอดภัยที่เชื่อถือได้
  • ใช้แอปจัดการรหัสผ่าน: จัดเก็บรหัสผ่านแบบดั้งเดิม
ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...