โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

หุ้น TU เช้านี้บวก 2% โบรก เผยงบผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เริ่มเห็นกำไรกลับมาฟื้นตัวได้

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 01 ก.ค. เวลา 21.23 น. • เผยแพร่ 02 ก.ค. เวลา 03.26 น.

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 2 ก.ค.2568 เวลา 10.05 น.หุ้น TU หรือ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บวก 2.00% เพิ่มขึ้น 0.20 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 10.20 บาท

นารี อภิเศวตกานต์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า ไตรมาส 2868 คาดกำไรสุทธิหุ้น TU อยู่ที่ 1,097 ล้านบาท หด -10% y-y แต่ ฟื้น +8% q-q จากยอดขายฟื้น q-q และค่าใช้จ่ายที่ลดลง โดยยอดขายรวมคาดที่ 33,724 ล้านบาท หด -4% y-y แต่ ฟื้น +13% q-q โดยแยกตามกลุ่มธุรกิจดังนี้

กลุ่ม Ambient 50% ของยอดขาย ยอดขายโต 3-4% y-y แต่แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจากปริมาณขายเพิ่ม และมีสต็อกราคาถูกอยู่ โดยตลาดหลักอย่างสหรัฐ ยุโรป และไทยยังเติบโตได้ดี

กลุ่ม Frozen 29% ยอดขายลดลง 5-8% y-y โดยยอดขายในสหรัฐยังเติบโตได้ดี แต่ได้รับผลจากเงินบาทแข็ง รวมถึงยอดขายกลุ่มอาหารสัตว์น้ำที่ดีขึ้น ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจากอาหารสัตว์น้ำที่ดีขึ้น

กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง (12%) ยอดขายหดตัว 2-3% y-y แต่ฟื้น q-q โดยเฉพาะตลาดหลักอย่างสหรัฐ และยุโรปที่ยังเติบโตได้ดี แต่หากอัตรากำไรขั้นต้นหดตัว y-y ตามสัดส่วนการขายกลุ่ม Premium ที่ลดลง y-y

ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้น เราคาดว่าจากยอดขายที่เร่งตัวขึ้น q-q และธุรกิจหลักของ TU มีแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นทำให้แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.9% ใกล้เคียงกับ ไตรมาส 1/68 ที่ 18.8% แต่ดีกว่าปีก่อน

ส่วน ค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขาย คาดลดลงมาอยู่ที่ 14.0% จาก 1Q25 ที่ 15.8% แม้ว่าจะรวม transformation cost และค่าใช้จ่ายการตลาดแต่หากค่าขนส่งลดลง ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม คาดดีขึ้น y-y จากการดำเนินงานของ Avanti และ Lucky Union ดีขึ้น แต่ลดลง q-q จากผลของปัจจัยฤดูกาลของ Avanti

ขณะที่ ต้นทุนการเงิน คาดดอกเบี้ยจ่ายลดลง y-y จากอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่ลดลง แต่จะเพิ่ม q-q ขณะที่อัตราภาษีจ่ายคาดไตรมาสนี้จะเริ่มได้รับผลจากมีผลบังคับใช้มาตรการภาษี GMT ทำให้ภาษีจ่ายเพิ่มขึ้น คาดกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 1,097 ล้านบาท -10% y-y แต่ +8% q-q

นอกจากนี้ยังคงประมาณการไว้ดังเดิมก่อนแม้คาดแนวโน้มอัตราภาษีจ่ายจะลดลงจากเดิมที่เคยให้ไว้ แต่เราคงประมาณการปีนี้ ไว้ดังเดิมก่อน เนื่องจากประมาณการก่อนหน้าที่มีการปรับไปสะท้อนความคาดหวังต่อการดำเนินงานที่ไม่ดีไปแล้ว คงยอดขายเป็น 131,774 ลบ. -5% y-y อัตรากำไรขั้นต้นคงเดิมที่ 18.8% แต่ปรับค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มเป็น 14.2%

ขณะที่การเริ่มใช้ภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำ 15% ตามเกณฑ์ของ OECD – Global minimum Tax ซึ่งคาดว่า TU จะได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบัน อัตราภาษีจ่ายสุทธิของ TU อยู่ที่เพียง 8% ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ตามกฎหมายกำหนดที่ 15% คงประมาณการกำไรกำไรสุทธิ 4,157 ลบ. -17% y-y ราคาเหมาะสม 11.20 บาท/ หุ้น และคงแนะนำ “ถือ” ไว้ตามเดิม

“แม้คาดการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และเริ่มเห็นการฟื้นตัวของการดำเนินงานตั้งแต่นี้เป็นต้นไป แต่แนะขอรอดูผลเจรจาเรื่องภาษีก่อนว่าจะออกมาในรูปแบบใด ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน P/E25E 10.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และคาดผลตอบแทนเงินปันผลราว 5.3% แต่ปัจจัยเงินบาทแข็งค่าและโครงการหุ้นซื้อคืนสิ้นสุดลงแล้ว ปัจจัยประคองราคาหุ้นอาจน้อยลง กลยุทธ์การลงทุน รอความชัดเจนจากมาตรการภาษีซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนต่อกลุ่มนี้อีกครั้ง ”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...