รักแท้ยังไงสู่รักบุฟเฟ่ต์? ‘น้ำชา ชีรณัฐ’ คัมแบ็กในรอบ 10 ปี ขอทำเต็มที่ในทุกบทบาท
‘รักแท้รักที่อะไรตับไต ไส้พุงหรือรักกางเกงที่นุ่งก็ดูสวยดี..’
แน่นอนว่าเมื่อสิบปีที่แล้วไม่มีใครไม่รู้จักเพลง ‘รักแท้ยังไง’ ผลงานแจ้งเกิดของนักร้องสาว ‘น้ำชา ชีรณัฐ’ ที่ดังเป็นพลุแตกร้องกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง ทำให้เธอได้โลดแล่นอยู่ในวงการแบบเต็มภาคภูมิ
ล่าสุด สาวน้ำชา ได้หวนคืนวงการเพลงแบบเต็มตัวอีกครั้ง พร้อมหยิบเพลงรักใสๆ ที่บ่งบอกถึงตัวตนของเธอได้ชัดเจนอย่าง ‘Cha boo!’ มาให้ได้ฟังและเต้นตามกัน
ทาง LINE TODAY จึงไม่พลาดที่จะคว้าตัวเธอมาพูดคุยกับความเป็นมาของซิงเกิลนี้ รวมถึงบทบาทคุณแม่ให้กับ 'น้องน้ำทะเล' ที่เป็นอีกหนึ่งความท้าทายของเธอ มาให้ติดตามอ่านกัน
หายจากวงการเพลงไปนาน
ตอนนี้ก็กลับมาทำงานเพลงแล้ว หายไปประมาณ 10 ปี ได้กลับมาทำซิงเกิลเป็นของตัวเองอีกครั้ง ภายใต้ค่าย ‘Warner music thailand’ โดยเพลงแรกที่ปล่อยมีชื่อว่า ‘Cha boo!’ เป็นเพลงป็อปที่ฟังง่ายย่อยง่าย ฟังแล้วยิ้มตาม เพลงที่เอาไว้เต๊าะคนที่เราชอบ เป็นคอนเซปต์ประมาณว่าถ้าเธอมารักกับฉัน ฉันก็จะรักเธอแบบบุฟเฟต์ รักไม่อั้นแบบโปรโมชั่นเต็มที่ ไม่มีช่วงเวลาที่ต้องเสียใจเลย
ทำไมต้องเป็น ‘Cha boo!’
จริงๆ ชาก็มาจากชื่อน้ำชาเองนี่แหละ ส่วน บู ก็เหมือน my boo เรียกที่รักอะไรแบบนี้ แล้วดันไปเชื่อมกับคำว่าชาบูได้อีก คล้องกับความรัก เลยต่อยอดไปอีกด้วยการเป็น ชาบูบุฟเฟ่ต์ รักไม่อั้น เอามาใส่ลงไปในเนื้อเพลงค่ะ
สีสันความเป็น ‘น้ำชา’ ในเพลงนี้
จริงๆ เป็นตัวน้ำชาหมดเลยนะ ชาเป็นคนชอบสีสัน สดใสเหมือนตอนเด็กๆ ที่น้ำชาปล่อยเพลงเลย ถ้าย้อนกลับไปดูก็คงเหมือนลูกนกแก้ว ที่มีสีเต็มตัวไปหมด พอตอนนี้ผ่านมาสิบปีก็ยังเป็นแบบนี้อยู่ เหมือน DNA ของเราไปแล้ว ประจวบเหมาะกับช่วงนี้เทรนด์ Y2K กลับมาฮิตอีกครั้งก็เข้ากันแบบไม่ได้ตั้งใจ
เพลงแรก ‘Cha boo!’ อาจจะช้าๆ หน่อยไม่ได้กระชาก แต่มีความหวานเปรี้ยวซนๆ เต้นเบาๆ ค่อยๆ ไต่ระดับกันไป เพราะชาอยากให้ทุกคนเต้นตามได้ นั่งเต้นก็เต้นได้เพราะท่าง่ายมากไม่ต้องกลัวเลย หากใครได้ฟังแล้วจะเห็นเลยว่าทั้งสไตล์เพลง สไตล์การแต่งตัว ภาพที่แสดงออกไปก็ยังคงเป็นลายเซ็นต์ของชาชัดเจน
ความเป็นมาของเพลง ‘Cha boo!’
เริ่มต้นมาจากมีพี่คนหนึ่งหิวข้าว (หัวเราะ)คุยงานกันอยู่ว่าเพลงนี้จะเอายังไงดี แชร์ไอเดียกัน แล้วพี่เขาก็ชวนลงไปกินชาบู น้ำชาก็เลยปิ๊งขึ้นมาเลย เอาคอนเซปต์นี้มาช่วยกันคิดต่อว่ามันสามารถเชื่อมอะไรได้บ้าง เพลงรักได้ไหม เพราะชาชอบเพลงเต๊าะๆ ผู้หญิงเขาก็กล้าที่จะเต๊าะผู้ชายก่อน แต่หลักๆ เลยเป็นเพราะพี่เขาหิวค่ะ
ความตั้งใจหวนคืนวงการเพลง
ชาไม่คิดไว้อยู่ๆ มันก็เข้ามาเอง ซึ่งระหว่างที่ชาหายไปจากวงการ เราก็พยายามที่จะแทรกตัวเข้าไปในค่ายต่างๆ เพราะอยากกลับมาทำเพลง แต่เขาอาจจะรู้สึกว่าเราไม่แมทช์กับเขา มีถึงขั้นแบบเข้าไปเซ็นสัญญากับค่ายๆ หนึ่งไปแล้ว สักพักค่ายก็ยุบไปเลย (หัวเราะ) ก็เลยคิดว่าคงจะเป็นสิ่งที่ไม่ใช่สำหรับเรา สักพักก็มีรุ่นพี่ที่เคยทำงานร่วมกับเรามาชวนมาเซ็นกับที่นี่ ก็ได้พูดคุยแล้วถูกคอก็คลอดเพลงนี้ออกมาในระยะเวลาไม่เกินสามเดือน
การสื่อสารผ่าน MV
หลายคนดูแล้วอาจจะตีความไปทาง Musical เจ้าหญิงเจ้าชาย แต่จริงๆ ชาตั้งใจเป็นผู้หญิงในภาพวาดในสมัยเรเนซองค์ ส่วนพระเอกเป็นช่างซ่อมภาพที่เราตกหลุมรักเขามานาน แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะต้องอยู่แต่ในกรอบ จนวันนี้แก้มเราเปื้อน ฝ่ายชายก็เข้ามาใกล้เพื่อจะเช็ดออกทำให้เราเผลอขยับตัว นั่นก็เป็นจุดแรกที่ทั้งสองได้เชื่อมโยงกัน หลังจากนั้นก็หลุดออกมาจากภาพชวนกันไปกินชาบูจบค่ะ
ส่วนร่วมในการทำเพลงนี้
ชาร่วมทุกกระบวนการเลย ส่วนมากจะเป็นเรื่องของการทำเพลง ช่วยกันคิดแชร์ไอเดีย เนื้อเพลง จังหวะ คอนเซนปต์ แล้วมาคุยกับโปรดิวเซอร์ ‘น้องเอิ๊ต ภัทรวี’ รวมถึงการดีไซน์การร้องในแต่ละท่อน ส่วนเรื่องภาพวิชวลต่างๆ จะไม่ค่อยได้เข้าไปยุ่งขนาดนั้น ก็มีการออกไอเดียชอบ ไม่ชอบต่างๆแค่นั้น
การทำเพลงในยุคนี้กดดันไหม
กลับมาครั้งนี้ก็มีกดดันเหมือนกัน การที่ผลงานเราเคยพลุแตกมาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เราต้องรักษามาตรฐาน ก็ทำให้เต็มความสามารถนั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะมันเดาไม่ได้ว่าเพลงไหนจะดัง การทำเพลงในยุคนี้ชารู้สึกว่ามันสนุกมากกว่า เพราะศิลปินต่างเจนกัน อย่างเมื่อก่อนมีคนแต่งตัวให้เรา ทำทุกอย่างให้ พูดตรงๆ ก็คือเน้นสวยหล่อไว้โชว์ตัว ส่วนตอนนี้เหมือนเราต้องแต่งตัวให้ตัวเอง เกิดขึ้นจากทักษะของตัวเองจริงๆ ประกาศให้โลกรู้ว่ามันคือเรา มันสนุกเพราะคนเปิดใจมากขึ้น ไม่มีอะไรผิดในการสร้างผลงาน ไม่มีกรอบร้องยังไงก็ได้ให้ไม่ชัดมาก ฟังแล้วสงสัย ดูเก๋ ต้องห้ามร้องชัด (หัวเราะ)
ทำไมเลือกทำเพลงเกี่ยวกับความรัก
ชาคิดว่าความรักเป็นสิ่งที่สื่อสารได้ง่ายกับทุกคน ต่อให้เรื่องนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเราแต่ก็เข้าไปถึงหัวใจได้ประมาณนึง แต่สมัยนี้ก็แต่งเพลงจากอะไรก็ได้ เพราะมันกว้างมาก จริงๆ ทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่ารักแท้คืออะไรเพราะว่ามันตอบไม่ได้ ก็ยังงงๆ อยู่เหมือนกัน ถ้าตอบสวยๆ ก็รักคือการให้ รักคือการเสียสละ สุดท้ายแล้วเบื้องลึกของทุกคนก็ไม่รู้ว่ารักแท้คืออะไรกันแน่ ก็เลยทำเพลงเกี่ยวกับความรักต่อไป
ชีวิตเปลี่ยนไปแค่ไหนหลังมี ‘น้องน้ำทะเล’
อันดับหนึ่งของชาคือลูก ว่างเมื่อไหร่ก็จะอยู่กับลูกเพราะชาเชื่อว่าใน3 ปีแรก เป็นช่วงที่สำคัญมาก เราเป็นแม่ยังไงก็รักลูกมากที่สุด ก็เลยเสียสละแบ่งปันทุกอย่างเพื่อลูก ก่อนหน้านี้ 7 วันเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวเองหมดเลย พอมีลูกเข้ามาอนุญาตให้ตัวเองทำงานได้กี่วันต่อสัปดาห์ ที่เหลืออยู่กับลูกพาไปนู้นนี่ เข้าคลาสต่างๆ อ่านนิทานทำเพื่อให้เขาโตมามีแม่อยู่ข้างๆ ตลอด อีกเรื่องคือทัศนคติของเราก็โตขึ้นใจเย็น มีความปล่อยวางมากขึ้น
ในหนึ่งวันชาทำหลายอย่างมาก เช้าตื่นมาอยู่กับลูก พอลูกนอนก็จะทำงานคอนเทนต์แต่งหน้าใดๆ ก็จะรีบทำให้ไวที่สุด อย่างวันที่ออกมาทำงานนอกบ้านเสร็จปุ๊บเราก็จะกลับไปเจอเขาทันที ซึ่งในพาร์ทของสามีภรรยาอันนี้ชายอมรับว่ายังจัดการได้ไม่ดี อาจจะต้องแบ่งเวลาให้มากกว่านี้ เพราะแค่นี้มันก็เต็มแล้ว อาจจะเจอกับคุณสามีก่อนนอนคุยกันแล้วก็หลับไป ชาว่าระหว่างงานกับลูกเราทำได้โอเค
คุณพ่อหลง ‘น้องน้ำทะเล’ ไหม
คุณพ่อจะหนักไปทางเรื่องงานเป็นส่วนใหญ่เช้ามาเขาก็หายไปแล้ว กลับมาทุ่มนึงลูกก็หลับ ชาก็บอกงั้นเรามาคุยกันว่าเราจะต้องแบ่งเวลาช่วงเช้าให้ลูกบ้างนะ อยู่กับเขาก่อนออกไปทำงานสักชั่วโมงก็ยังดี
แพลนอนาคตลูกไว้หรือยัง
ชาจะให้เขาเรียนที่อินเตอร์ที่เมืองไทยก่อนสักประมาณสิบขวบก็จะส่งไปเมืองนอก ให้ไปอยู่โรงเรียนประจำไปเลยเดี๋ยวดูอีกทีว่ายังไง ก็ยังไม่แน่ใจว่าเราจะย้ายไปอยู่กับเขาที่นั่นด้วยเลยไหม ก็มีแพลนไว้แล้วคร่าวๆ ถึงแม้จะเรียนอินเตอร์หรือเมืองนอกแต่ชาบอกเลยว่าภาษาไทยเขาต้องชัดและฉะฉาน ที่บ้านจะบอกให้ทุกคนพูดไทยเต็มที่ พอไปโรงเรียนค่อยให้พูดอังกฤษ เขาจะได้ดีทั้งสองภาษา ส่วนภาษาอื่นๆ ค่อยว่ากัน
สิ่งที่กังวลเป็นพิเศษสำหรับการเลี้ยงลูก
เราจะต้องเลี้ยงเขาให้เขาอยู่ได้ในวันที่ไม่มีเรา เป็นสิ่งที่ชากังวลมากที่สุด ต้องอยู่กับสังคมได้ เลี้ยงแบบลุยให้มากที่สุด ไม่อยากเลี้ยงแบบคุณหนูอันนั้นไม่ได้อันนี้ไม่ได้ กิจกรรมกลางแจ้งแดดก็ไปตาก ขนมตกพื้นก็หยิบขึ้นมากินบ้างก็ไม่เป็นไร ให้เชื้อโรคทำให้เขามีภูมิคุ้มกันบ้าง ให้เขาแข็งแรง ลุยเลยเต็มที่
แพลนมีเพิ่มไหม
คิดอยู่ทุกวันว่าจะเอายังไงดี สองจิตสองใจ เพราะโลกทุกวันนี้มันไม่ค่อยน่าอยู่ด้วยโซเชียลมีเดีย ทัศนคติคนปลกๆ สภาพแวดล้อมฝุ่นต่างๆ หายใจเข้าไปก็เป็นพิษแล้ว ก็เลยคิดว่ามีคนเดียวแล้วดูแลให้ดีไปเลยดีกว่า อยากโฟกัสที่เขาเต็มที่ ณ ตอนนี้ ส่วนอนาคตก็ไม่แน่ใจคิดหลายอย่าง
คาดหวังให้ลูกเข้าวงการไหม
ปั้นลูกเป็นเซเลปหรอ ชารู้สึกเฉยๆ อยากให้เขาโตมาปกติ ถ้าเขาต้องการค่อยแล้วแต่เขา แต่จะไม่พยายามปั้นพยายามให้เขาออกหน้าจอ รีวิวสินค้าไทอินต่างๆ ชาไม่คิดว่าเขาต้องมาให้ผลประโยชน์อะไรกับชาเลยกับตรงนี้ เอาที่เขาชอบละกัน
เคล็ดไม่ลับการดูแลหุ่นกลับมาเฟิร์มไว
ช่วงที่ชาให้นมเสร็จก็ลดเลยตั้งแต่วันแรก สลัดเครื่องปั๊มนมปุ๊บเริ่มเลยใช้เวลาประมาณสองสามเดือน ก็เน้นออกกำลังกายทุกวันสองปีติดต่อกัน ทานอาหารคลีน คุมการกินเป็นส่วนใหญ่ ไม่กินของมัน ของทอด ของหวาน มันเลยกลับมาค่อยข้างเร็ว ระหว่างที่ท้องชายังวิ่งจ็อกกิ้งอยู่เลย ค่อยข้างดูแลตัวเองตั้งแต่แรก คลอดปุ๊บก็กลับมาได้ง่ายๆ ไม่ตามใจปากขนาดนั้น
สุดท้ายก็ขอฝากผลงานล่าสุดของน้ำชา เป็นการกลับมาของชา อยากให้ทุกคนต้อนรับ และหาฟังได้ตามสตรีมมิ่งทุกช่องทางเลย ส่วนเอ็มวีอยู่ในยูทูบว่า ‘Cha boo!’ ได้เลย และก็ผลงานต่อๆ ไปก็อยากฝากด้วยนะคะ