โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ประวัติคำว่า ภาษี ที่เพิ่งใช้ในสมัยรัชกาลที่ 3

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 25 มี.ค. เวลา 07.31 น. • เผยแพร่ 25 มี.ค. เวลา 07.30 น.
จิตรกรรมฝาผนังภายในอุโบสถวัดธรรมมิการาม จังหวัดลพบุรี

จะอายุมาก อายุน้อย คนไทยทุกคนต้องเสียภาษี เปิดประวัติคำว่า ภาษี ศัพท์ที่มีอายุราว 200 ปี เพิ่งใช้ในสมัยรัชกาลที่ 3

คำว่า “ภาษี” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ให้ความหมายเอาไว้ว่า “เงินที่มีกฎหมายกำหนดให้รัฐหรือท้องถิ่นเรียกเก็บจากบุคคลในเหตุต่าง ๆ เช่น การมีรายได้ การมีทรัพย์สิน การประกอบกิจการ การบริโภค เพื่อใช้จ่ายในการบริหารประเทศหรือท้องถิ่น เช่น ภาษีเงินได้ ภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีมูลค่าเพิ่ม”

แต่คำว่า “ภาษี” เพิ่งใช้ในความหมายของการจัดเก็บผลประโยชน์แผ่นดิน เมื่อสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์นี้เอง

ก่อนหน้าที่จะมีการใช้คำว่า “ภาษี” หรือ “ภาษีอากร” นั้น เดิมเรียกว่า “ส่วยสาอากร” หรือ “ส่วยสัดพัทธยากร” (บ้างเขียน ส่วยสัดพัฒยากร)

ส่วยสาอากรที่ว่าแบ่งออกเป็น 4 ชนิด คือ จังกอบ, อากร, ส่วย และฤชา

จังกอบหรือจกอบเป็นการจัดเก็บผลประโยชน์แผ่นดินจากสินค้าที่ผ่านด่านภาษี ที่เรียกว่า “ขนอน” จึงมักเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ภาษีผ่านด่าน” คล้ายกับ “ภาษีศุลกากร” ในปัจจุบัน

การเก็บจังกอบอาจจัดเก็บในรูปของการชักส่วนสินค้า 10 หยิบ 1 หรือจัดเก็บเป็นเงินที่วัดตามขนาดของพาหนะที่ขนสินค้านั้น ๆ หากเป็นเรือก็วัดความกว้างของปากเรือ เรียกว่า “ภาษีปากเรือ” นั่นเอง

อากรเป็นการจัดเก็บผลประโยชน์แผ่นดินที่ราษฎรทำมาหากิน เช่น การทำสวน ทำไร่ ทำนา หรือหากได้รับอนุญาตจากรัฐ เช่น ต้มกลั่นสุรา หรือเก็บของป่า ก็ต้องจ่ายอากร ตัวอย่างเช่น “อากรค่าน้ำ” ที่เรียกเก็บจากการจับปลาในแม่น้ำลำคลอง หรือหนองบึงต่าง ๆ โดยอาจจัดเก็บในรูปของสินค้าหรือเก็บเป็นเงินก็ได้

ส่วยเป็นการจัดเก็บผลประโยชน์แผ่นดินจากราษฎร ซึ่งมีหลายนัยยะ โดย 2 นัยยะที่เข้าใจกันโดยทั่วไปคือ 1. ส่วยคือเครื่องราชบรรณาการ ซึ่งประเทศราชต้องส่งเข้ามาถวายตามกำหนด และ 2. ส่วยคือการให้ราษฎรจ่ายเป็นเงินหรือสินค้าแทนการถูกเกณฑ์แรงงาน เช่น ราษฎรเมืองถลางทำแร่ดีบุกส่งเป็นส่วยให้รัฐแทนการถูกเกณฑ์ไปทำงานให้หลวง

นอกจากนี้ ส่วยยังมีอีก 2 นัยยะ คือ 1. ส่วยคือทรัพย์มรดกของผู้ตายซึ่งต้องพัทธยา คือถูกริบเป็นของหลวง เนื่องจากเกินกำลังของทายาทจะเอาไว้ใช้สอยเอง และ 2. ส่วยคือเงินที่รัฐเกณฑ์ให้ราษฎรออกค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยกันเลี้ยงแขกบ้านแขกเมือง หรือเกณฑ์ให้ช่วยกันสร้างป้อมปราการ เป็นต้น

ฤชาเป็นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมที่รัฐเรียกเก็บจากราษฎร เช่น ผู้ใดจะขอโฉนดเพื่อไม่ให้ผู้อื่นบุกรุกแย่งชิงที่ดินทำกินก็ต้องเสียฤชาให้รัฐ

สำหรับคำว่า “ภาษี” นั้น สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงอธิบายว่า “แต่เดิมในภาษาไทยใช้แต่หมายความว่าได้เปรียบ ดังเช่นกล่าวว่าสิ่งนี้มีภาษีกว่าสิ่งโน้น ที่มาใช้หมายความว่าเก็บผลประโยชน์แผ่นดิน ดูเหมือนจะพึ่งปรากฎขึ้นเมื่อในรัชกาลที่ 3”

โดยทรงอธิบายว่า คำว่า “ภาษี” มาจากภาษาจีนแต้จิ๋วว่า “บู้ซี” ที่หมายความถึงสำนักเจ้าพนักงานที่ทำการจัดเก็บผลประโยชน์แผ่นดิน หรือผู้ประมูลผูกขาดการจัดเก็บผลประโยชน์นั้น ๆ ซึ่งมักเรียกกันว่า “เจ้าภาษี” หรือ “เจ้าภาษีนายอากร” นั่นเอง

ในสมัยรัชกาลที่ 3 มีการจัดเก็บผลประโยชน์แผ่นดินเพิ่มเติมหลายอย่าง เช่น ภาษีน้ำตาลทราย, ภาษีเกลือ, ภาษีฝ้าย, ภาษีไม้แดง, ภาษีไม้ซุง เป็นต้น ดังนั้น เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าการจัดเก็บผลประโยชน์แผ่นดินที่เพิ่งเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 จึงให้เรียกว่า “ภาษี” ส่วนการจัดเก็บผลประโยชน์แผ่นดินที่มีมาตั้งแต่ก่อนรัชกาลที่ 3 จะเรียกว่า “อากร”

คำว่า “ภาษี” จึงมีความหมายเหมือนกับคำว่า “อากร” แต่ใช้ต่างกันเพื่อแยกว่าอากรใดเก็บมาก่อน อากรใดเพิ่งจัดเก็บในสมัยรัชกาลที่ 3

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

อ้างอิง :

อธิบายตำนานภาษีอากร ใน, “ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ 16 ตำนานภาษีอากรบางอย่าง กับคำอธิบายของพระเจ้าบรมวงศเธอ กรมพระดำรงราชานุภาพ”. พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพสนองคุณ นายร้อยตรีน้อย แสงมณี ผู้เปนบิดา เมื่อปีเถาะ พ.ศ. 2470. โสภณพิพรรฒธนากร, 2470.

รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์. “ภาษีอากรในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทย”. สํานักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2527.

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 25 มีนาคม 2568

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ประวัติคำว่า ภาษี ที่เพิ่งใช้ในสมัยรัชกาลที่ 3

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...