ก.ค.ศ.ทำบัญชีเงินเดือนครูขั้นสูง-ขั้นต่ำ รองรับรัฐบาลปรับเพิ่ม งด.ขรก.ใหม่ 1.8 หมื่น/ด.
ก.ค.ศ.ทำบัญชีเงินเดือนครูขั้นสูง-ขั้นต่ำ รองรับรัฐบาลปรับเพิ่ม งด.ขรก.ใหม่ 1.8 หมื่น/ด. รับลูกเสมา 1 ยกร่างค่าตอบแทนครูศักยภาพสูง
รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน เมื่อเร็วๆ นี้ เห็นชอบหลักการให้ปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ตามข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการพลเรือน (ก.พ.) โดยปรับขึ้นในส่วนของข้าราชการบรรจุใหม่ปีละ 10% ใน 2 ปีงบประมาณ ได้แก่ ปีงบ 2567 และปีงบ 2568 ซึ่งทำให้เงินเดือนของข้าราชการบรรจุใหม่อยู่ที่ 18,000 บาทต่อเดือน ในปีงบ 2568 จากปัจจุบันอยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือน โดยการเริ่มปรับฐานเงินเดือนข้าราชการจบใหม่ 10% จะเริ่มต้นในเดือนพฤษภาคม 2568 หลังจากที่ พ.ร.บ.งบประมาณประกาศใช้แล้ว โดยปี 2567 ขึ้น 10% หรือ 16,500 บาทต่อเดือน ส่วนปี 2568 ขึ้น 10% หรือ 18,000 บาทต่อเดือน
“ส่วนข้าราชการชั้นผู้น้อยอื่นๆ ที่เข้ามารับราชการก่อน และยังไม่ถึงระดับชำนาญการ มีเงินเดือนไม่ถึง 18,000 บาทต่อเดือน จะมีการปรับฐานเงินเดือนขึ้นไปให้อยู่ในที่สูงกว่าข้าราชการบรรจุใหม่นั้น ในส่วนของข้าราชการครู ทางสำนักงาน ก.ค.ศ.ได้เตรียมข้อมูล และทำบัญชีเงินเดือนขั้นสูงขั้นต่ำไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ในส่วนของการปรับขึ้นเงินเดือนครู จะไม่ต่างกับข้าราชการทั่วไป โดยรอรัฐบาลประกาศอย่างเป็นทางการ ก็พร้อมดำเนินการทันที” รศ.ดร.ประวิต กล่าว
รศ.ดร.ประวิตกล่าวต่อว่า ส่วนที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีนโยบายเพิ่มค่าตอบแทนพิเศษให้กับครูในสาขาที่ขาดแคลน เพื่อให้ได้คนที่มีคุณภาพมาเป็นครู และจูงใจให้เด็กสนใจมาเรียนครูมากขึ้นนั้น สำนักงาน ก.ค.ศ.รับนโยบายดังกล่าวมาดำเนินการ ที่ผ่านมาได้ระดมความคิดเห็น และนำระเบียบที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา ทั้งการให้ค่าตอบแทนครูในพื้นที่ยากลำบาก ครูการศึกษาพิเศษ เจ้าหน้าที่พัสดุ ส่วนการให้ค่าตอบแทนพิเศษครูในสาขาขาดแคลนนี้ จะเรียกว่าเป็นค่าตอบแทนครูที่มีศักยภาพสูง โดยอาจจะออกมาเป็นในรูปแบบเงินวิทยพัฒน์ หรือเงินที่ให้เพื่อเป็นรางวัลแก่ครูที่ตั้งใจทำงาน และมีผลงานโดดเด่น ซึ่งนอกเหนือจากเงินวิทยฐานะ
“ขณะนี้สำนักงาน ก.ค.ศ.อยู่ระหว่างการจัดทำระเบียบเพื่อรองรับเรื่องดังกล่าว เพื่อเสนอให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.พิจารณา ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปี 2567 อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินการจัดทำระเบียบ จะต้องกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ และมีระเบียบรองรับ เพราะการจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษ ต้องขอความเห็นจากสำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง ดังนั้น จึงต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ” รศ.ดร.ประวิต กล่าว