โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

“ทรีนีตี้” ประเมิน SET มิ.ย. ผันผวน แนะกลยุทธ์ “ขึ้นขาย-ลงซื้อ”

PostToday

อัพเดต 04 มิ.ย. เวลา 02.30 น. • เผยแพร่ 04 มิ.ย. เวลา 09.25 น.

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพตลาดหุ้นไทยในเดือน มิ.ย.2568 ประเมินมีโอกาสแกว่งรีบาวด์ขึ้นได้ในช่วงครึ่งเดือนแรก หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาการปรับพอร์ตตามดัชนี MSCI ของนักลงทุนต่างชาติ และยังไม่มีปัจจัยข่าวร้ายด้านสงครามการค้ามากนัก

อย่างไรก็ตาม เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงกลางเดือน อาจต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น จากปัจจัยการเมืองในประเทศที่อาจเริ่มมีความผันผวนมากขึ้น และปัจจัยเชิงเทคนิคในช่วงปลายเดือน ที่นักลงทุนสถาบันในประเทศอาจมีการทยอยลดน้ำหนักหุ้น DELTA เพื่อรองรับกับการคำนวณดัชนีรูปแบบใหม่ตั้งแต่เดือน ก.ค.2568 เป็นต้นไป

ประเมินกรอบการแกว่งตัวของ SET เดือนนี้มีแนวรับอยู่ที่ 1,130 และ 1,100 จุด ส่วนแนวต้านประเมินที่ 1,180 และ 1,210 จุด แนะนำนักลงทุนในใช้กลยุทธ์ “ขึ้นขาย-ลงซื้อ” ตามกรอบแนวต้านแนวรับดังกล่าว ทั้งนี้ ปัจจัยคาดหวังที่อาจเป็นตัวช่วยประคอง SET ในเดือนนี้ ได้แก่ เม็ดเงินใหม่ที่ไหลเข้าสู่กองทุน Thai ESGX ในช่วงโค้งสุดท้าย

มองกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจประจำเดือนนี้ ได้แก่

1) กลุ่ม Global cyclical ที่อิงกับภาพเศรษฐกิจโลก ซึ่งเราประเมินว่าจะมีความเสี่ยง Downside risk จำกัดมากกว่าเศรษฐกิจไทย ได้แก่ PTTGC, SCC, HANA

2) หุ้นโรงแรมที่มีการกระจายรายได้ไปยังต่างประเทศในระดับสูง ได้แก่ MINT

3) กลุ่ม Defensive ภายในประเทศ ที่ Valuation อยู่ในโซนต่ำ เช่น BDMS, CPALL, GPSC

4) กลุ่มหุ้นที่เราคาดการณ์ว่าจะถูกนำเข้าสู่ดัชนี SET50 ในรอบถัดไป ได้แก่ BCP, TCAP

5) หุ้นขนาดใหญ่ที่จะได้ประโยชน์จากการเกลี่ยน้ำหนักออกจากหุ้น DELTA ได้แก่ ADVANC

สรุปปัจจัยสำคัญที่น่าติดตามในเดือน มิ.ย.2568 ได้แก่
1) พัฒนาการของการของสงครามการค้า อาทิ คำตัดสินของศาลอุทธรณ์สหรัฐฯต่อความชอบธรรมในการเก็บภาษีของ ปธน.ทรัมป์ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศต่างๆ ก่อนหน้าจะครบกำหนดการเจรจาภาษี Reciprocal tariff 90 วันในวันที่ 9 ก.ค.2568

2) พัฒนาการของปัจจัยการเมืองในประเทศ ทั้งความเป็นไปได้ของการปรับ ครม. คดีฮั้ว สว. และการนัดไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีของ คุณทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ รวมไปถึงปัจจัยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ระหว่างไทยกับกัมพูชา

3) การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 5 มิ.ย.2568 ล่าสุดตลาดการณ์ว่าจะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก Deposit Facility ลงสู่ระดับ 2.00% จากเดิมที่ 2.25%

4) การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ในวันที่ 16-17 มิ.ย. คาดว่า BoJ จะมีมติคงดอกเบี้ยต่อไปที่ระดับ 0.50%

5) การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันที่ 17-18 มิ.ย. คาดว่า Fed จะมีมติคงดอกเบี้ยต่อไปที่ระดับ 4.25-4.50% ทั้งนี้ แนะนำติดตามประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจ และรายงาน Dot plots ที่จะออกมาในครั้งนี้

6) การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันที่ 19 มิ.ย.2568 ล่าสุดตลาดการณ์ว่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม 4.25% ไปก่อน หลังจากเพิ่งปรับลดลงในการประชุมครั้งที่ผ่านมา

7) การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย (กนง.) ในวันที่ 25 มิ.ย.2568 คาดว่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไปก่อนที่ระดับ 1.75% หลังจากมีการปรับลดดอกเบี้ยลงมาแล้ว 2 ครั้งติดกัน ทั้งนี้ แนะนำติดตามคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจรอบใหม่ที่จะออกมาจากที่ประชุมครั้งนี้ด้วย

8) โค้งสุดท้ายของกองทุน Thai ESGX ว่าจะมีเม็ดเงินใหม่ไหลเข้ามาสมทบตลาดหุ้นไทยตามที่หลายฝ่ายคาดหวังหรือไม่

9) การปรับลดน้ำหนักหุ้น DELTA ของกองทุน Passive/Index Funds ในประเทศช่วงปลายเดือน เพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนรูปแบบดัชนี SET50 และ SET100 ไปสู่ดัชนีแบบ Capped weight index มองปรากฏการณ์นี้อาจกดดันดัชนี SET ในภาพรวมช่วงครึ่งหลังของเดือน มิ.ย.2568 ได้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...