สุดน่ารัก! “ช้าง 4 เชือก” บุกปราสาทตาเมือนธม ให้กำลังใจทหาร

สุรินทร์ 28 มิ.ย. – สุดน่ารัก “พลายมิ่งมงคล-พลายนะโม-พลายอาม-พังอุ้มบุญ” ใส่ชุดทหารและชุดพยาบาล ไปให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ ถึงปราสาทตาเมือนธม

พลายมิ่งมงคล (ชุดทหาร) พลายนะโม (ชุดทหาร) พลายอาม (ชุดออกศึก) พังอุ้มบุญ (ชุดพยาบล) จากหมู่บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ แต่งชุดทหารและพยาบาล เหน็บปืน ถือธงชาติ บุกปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มาให้กำลังใจทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ พร้อมตั้งโต๊ะทำส้มตำให้กับทหารได้รับประทาน รวมถึงนำน้ำดื่ม อาหารแห้ง มามอบให้ เพื่อเป็นกำลังใจ ซึ่งสามารถเรียกรอยยิ้มให้กับทหารและผู้ที่พบเห็นได้อย่างมาก

น.ส.สุดาพร ไกรวาปี ตัวแทน FC บ้านพลายมิ่งมคล กล่าวว่า ทราบข่าวว่าพลายมิ่งมงคลจะเดินทางมาให้กำลังใจทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธม FC ทั้งชาวไทยและต่างชาติ จึงรวบรวมเงินและสิ่งของมาสมทบและนำมามอบให้ในวันนี้

รองแม่ทัพภาค 2 ให้กำลังใจทหารปราสาทตาเมือนธม
นอกจากนี้ พล.ต.ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจทหารที่ประจำการดูแลปราสาทตาเมือนธม เพื่อให้กำลังใจกำลังพลที่ประจำการดูแลปราสาท พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ และพูดคุยกับทหารกัมพูชา เพื่อสร้างความเข้าใจและประสานการทำงานร่วมกันในพื้นที่ชายแดน ก่อนเปิดเผยถึงสถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้ว่ายังเป็นปกติ ไม่มีสัญญาณส่อความรุนแรงหรือความตึงเครียดแต่อย่างใด มีการโทรคุยกับผู้นำทางกัมพูชาทุกวัน ทหารก็ไม่อยากให้มีการปะทะ เพราะจะเกิดการสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย ยืนยันการเจรจาไกล่เกลี่ยเป็นทางออกที่ดี ส่วนที่วันนี้ปรากฏภาพการพบปะกับทหารฝั่งกัมพูชา ไม่ได้มีการเจรจากันแต่อย่างใด เป็นเพียงทหารที่อำนวยความสะดวกที่ตัวปราสาท เป็นชุดประสานงานร่วมกับฝ่ายไทย

สำหรับบรรยากาศที่ปราสาทตาเมือนธม ในช่วงวันหยุดกลับมาคึกคักอีกครั้ง นักท่องเที่ยวชาวสุรินทร์และจังหวัดใกล้เคียง เดินทางมาเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก

แม่ทัพภาค 2 ย้ำไทยไม่ถอยจุดพิพาทชายแดน
ณะที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมภริยา เป็นประธานพิธีสมโภช องค์พระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ชาวบ้านในพื้นที่เมื่อทราบข่าวการมาเยือนของแม่ทัพภาคที่ 2 ได้มารวมตัวกันเพื่อให้กำลังใจและแสดงออกถึงความเคารพรัก ด้วยการมอบดอกไม้และผูกผ้าขาวม้าให้กับแม่ทัพภาคที่ 2

พล.ท.บุญสิน ยังพูดถึงปัญหาความขัดแย้งทางชายแดนกับกัมพูชาว่า การกระทบกระทั่งระหว่างกองกำลังทหารไทยและกัมพูชา ขณะลาดตระเวนบริเวณพื้นที่ทับซ้อน เพราะยึดถือแผนที่เขตแดนคนละฉบับกัน ต่างอ้างเป็นพื้นที่ของตน โดยไทยยึดถือแผนที่ 1:50,000 ตร.กม. ส่วนกรณีที่มีข่าวชาวกัมพูชาพยายามเดินทางขึ้นไปเยี่ยมชมบริเวณปราสาททั้งสองแห่ง และร้องเพลงแสดงสัญญาลักษณ์ เป็นสิทธิทั้งสองประเทศตามข้อตกลงร่วมแต่เดิม แต่เจ้าหน้าที่ของไทยก็ได้เข้าไปอธิบายและป้องปรามไม่ให้กระทำการดังกล่าวที่จะนำไปสู้การขัดแย้ง จนเป็นที่เข้าใจกัน จึงไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง.-สำนักข่าวไทย