โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เปิดคลิปตึกถล่ม! ใจกลางเมืองปอยเปต ห่างชายแดนไทยไม่ถึง 2 กม.

คมชัดลึกออนไลน์

อัพเดต 14 มิ.ย. เวลา 18.40 น. • เผยแพร่ 15 มิ.ย. เวลา 01.35 น.

14 มิ.ย. 2568 เวลาประมาณ 16.45 น. เกิดเหตุการณ์ตึกถล่มในพื้นที่เมืองปอยเปต บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา บริเวณจุดเกิดเหตุ อยู่ในซอยโอ ใกล้กับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่งตรงข้ามด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

โดยจุดที่ตึกพังถล่มอยู่ห่างจากชายแดนไทยไม่เกิน 2 กิโลเมตร จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเป็นอาคารก่อสร้างใหม่ มีลักษณะเป็นตึกสูงสีเทา ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงก่อสร้าง โดยเริ่มดำเนินการก่อสร้างมาแล้วประมาณ 4-5 เดือน ที่ผ่านมา

ขณะเกิดเหตุยังไม่มีผู้อยู่อาศัย ภายในตัวอาคาร ทำให้ไม่มีรายงาน ผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่ามีรถของชาวบ้านจำนวนหนึ่ง จอดอยู่ใต้ตึกดังกล่าวในขณะที่ตึกถล่ม ทำให้ทรัพย์สินบางส่วนได้รับความเสียหาย ชาวบ้านในพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า ได้ยินเสียงดังคล้ายสิ่งของขนาดใหญ่พังถล่ม ก่อนที่ฝุ่นควันจะลอยคลุ้ง ไปทั่วบริเวณ สร้างความแตกตื่นให้กับ ประชาชน ในกัมพูชา ผู้คนที่อยู่ใกล้เคียง

ทั้งนี้ เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเพียงไม่นานหลังจากทางการไทยและกัมพูชา ได้ปิดด่านพรมแดน ในช่วงเย็นที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความวิตกให้กับประชาชนในพื้นที่พอสมควร ขณะนี้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของกัมพูชาได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาสาเหตุของการถล่มในครั้งนี้ต่อไป

โดยเบื้องต้นคาดว่าอาจเกิดจากโครงสร้างไม่แข็งแรง หรือวัสดุก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน แต่ยังต้องรอผลการสอบสวนจากวิศวกรผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง เหตุการณ์ครั้งนี้กลายเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว โดยชาวโซเชียลจากทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา ต่างพากันแชร์คลิป และภาพเหตุการณ์ พร้อมวิจารณ์ถึงความไม่ปลอดภัย ของอาคารก่อสร้างในพื้นที่เศรษฐกิจ ชายแดนที่มีการลงทุนเพิ่มขึ้น ต่อเนื่องในช่วงหลัง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...