โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เศร้า! คุณแม่เผยลูกวัย 6 ขวบ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หลังเจอพ่อแม่ทะเลาะและหย่าร้าง

Manager Online

เผยแพร่ 09 มิ.ย. เวลา 13.34 น. • MGR Online

แม่โพสต์อาการป่วยซึมเศร้าของลูกสาว วัย 6 ขวบ ที่เกิดมาจากปัญหาการทะเลาะและหย่าร้างของพ่อแม่ เตือนเป็นอุทาหรณ์เด็กเครียดได้และความขัดแย้งรุนแรงในครอบครัวสามารถส่งผลกระทบต่อจิตใจและพัฒนาการของเด็กเล็ก

วันนี้ (9 มิ.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์อาการป่วยซึมเศร้าของลูกสาว ที่เกิดมาจากปัญหาการทะเลาะและหย่าร้างของพ่อแม่ เด็ก 6 ขวบ เป็นซึมเศร้าปัญหาของผู้ใหญ่กับทำร้ายเด็กได้ถึงขนาดนี้

เริ่มจากแม่ต้องกลายมาเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แยกทางกับพ่อของลูกตอนลูกอายุ 4 ขวบ ทะเลาะกันค่อนข้างบ่อยลูกเห็นบ่อย สุดท้ายคนที่เสียใจที่สุดคือลูก

เริ่มต้นจากแม่เห็นพฤติกรรมของลูกเปลี่ยนไปจากเป็นเด็กที่ร่าเริง เริ่มเก็บตัว เริ่มอารมณ์รุนแรงขึ้น อยู่เฉยเฉยก็ร้องไห้ขึ้นมา

แม่ได้พาน้องไปพบนักพัฒนาการของเด็ก ซึ่งพัฒนาการน้องอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก แต่นักพัฒนาการพบว่าน้องมีภาวะเครียดค่อนข้างสูง จึงให้น้องมาบำบัดโดยการพูดคุยกับนักพัฒนาการ เป็นเวลาผ่านมาประมาณ 1 ปี น้องเหมือนจะดีขึ้นหมอเริ่มนัดห่างขึ้น แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือน้องปัสสาวะบ่อยมากวันนึงเฉลี่ยแล้ว ประมาณ 30 ครั้ง ซึ่งคุณแม่รู้สึกว่าผิดปกติเลยพาไปหาคุณหมอต่อมไร้ท่อ เพื่อตรวจเช็คดู คุณหมอตรวจเลือดทุกอย่างทั้ง เบาหวาน ไทรอยด์ ไต ตับ รวมถึงตรวจ คลื่นหัวใจไฟฟ้าด้วย ผลออกมาคือปกติทุกอย่าง คุณหมอถามว่าน้องมีอาการนี้นานหรือยัง คุณแม่บอกว่าประมาณ 3-4 เดือน คุณหมอเลยแจ้งว่าน้องมีภาวะเครียดหรือเจอเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจในช่วงนี้ไหม

คุณแม่ก็เลยนึกถึงว่าเมื่อเดือนเกิดเขา เดือนเมษายน เขาขอพ่อของเขาว่า ‘ให้กลับมาอยู่กับเขาและแม่ได้ไหม’ แต่พ่อบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้และได้ดุลูกว่ามันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่เด็กไม่ควรมายุ่ง

รวมถึงก่อนหน้าวันเกิด 1 วัน เค้าได้ไปหาพ่อเค้าที่บ้าน และได้ไปเจอเมียน้อยของพ่อนอนอยู่กับพ่อตัวเอง (พ่อน้องเคยสัญญากับน้องว่าให้มาหาป๊าที่บ้านได้ตลอดป๊าจะไม่พาใครเข้ามา) ตอนแรกแม่คิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไรเพราะ ลูกได้เดินกลับมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

คุณหมอต่อมไร้ท่อเลยส่งต่อให้จิตแพทย์ที่โรงพยาบาลแต่โชคดีที่ว่าวันที่ไปมีคนไข้แคนเซิลคิวน้องจึงได้พบจิตแพทย์ทันที ได้เข้าไปคุยกับจิตแพทย์ประมาณ 2 ชั่วโมง คุณหมอสรุปได้ว่าน้องเป็นซึมเศร้า และย้ำคิดย้ำทำ

มันมีประโยคนึงที่ทำให้แม่รู้สึกจุกและเสียใจมากๆ คุณหมอถามว่า

หมอ : คุณพ่อใจดีไหม

เอพริล : ใจดีมาก

หมอ : แล้วอยากเจอคุณพ่อไหม

เอพริล : ไม่อยากเจอ

หมอ : ทำไมล่ะคะ

เอพริล : พริล ไม่อยากให้ป๊ามาทะเลาะกับแม่

หมอ : แล้วป๊าทะเลาะกับแม่เรื่องอะไร

เอพริล : ป๊าชอบพูดว่าแม่ชอบเอาเรื่องไม่ดีของป๊ามาบอกพริล แต่พริลโตแล้วพริลคิดได้ไม่จำเป็นต้องให้แม่มาบอกพริลรู้ว่าอะไรมันไม่ดี แต่ป๊าชอบไปว่าแม่ตลอดเลย

หมอ : แล้วป๊าพาไปเที่ยวบ้างไหมไปเที่ยวที่ไหนบ้างได้เคยไปสวนสัตว์หรือเปล่ามีสัตว์เยอะมากเลยนะ

เอพริล : ป๊าเคยพาไปเที่ยวแต่ป๊าพาไปกับเพื่อนผู้หญิงและลูกของเพื่อนผู้หญิงก็ไปด้วยหนูไม่มีความสุขเลยเพราะป๊าสนใจแต่เพื่อนผู้หญิง

หมอ : แล้วได้บอกคุณแม่ไหม

เอพริล : ไม่ได้บอก

หมอ : ทำไมล่ะ

เอพริล : เพราะพริล ไม่อยากให้แม่เสียใจไม่อยากให้แม่ร้องไห้ พริลสงสารแม่

เด็กแค่ 6 ขวบทำไมต้องมาแบกรับความรู้สึกของผู้ใหญ่ขนาดนี้ แม่สงสารน้องมากไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้มาก่อนเลยเค้ารักเรามากจริงๆโลกทั้งใบของเค้ามีแค่เรา

แม่อยากมาแชร์อุทาหรณ์ให้ทุกคนได้รู้ลูกคือสิ่งสำคัญที่สุดเค้าอาจจะดูว่าเป็นเด็กแต่หัวใจเค้าโตยิ่งกว่าผู้ใหญ่บางคนอีก”

อย่างไรก็ตาม โรคซึมเศร้าในเด็กเล็กเป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง แม้ในเด็กวัยก่อนเข้าโรงเรียนหรือในช่วงวัยประถมต้น เด็กในวัยนี้อาจยังไม่สามารถอธิบายความรู้สึกตัวเองได้ชัดเจนเหมือนผู้ใหญ่ ทำให้การสังเกตและวินิจฉัยโรคนี้ค่อนข้างท้าทาย

สาเหตุที่เป็นไปได้

-พันธุกรรม: มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคซึมเศร้า

-ปัจจัยทางชีวภาพ: ความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง

-สิ่งแวดล้อม: การสูญเสียคนรัก ความรุนแรงในครอบครัว ความขัดแย้งในบ้าน-ประสบการณ์เชิงลบ: การถูกกลั่นแกล้ง การถูกละเลยหรือถูกทำร้าย

อาการที่ควรสังเกต

-อารมณ์เศร้า หงอย ซึม ไม่สนใจสิ่งที่เคยชอบ

-ความเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรม เช่น เก็บตัวมากขึ้น ก้าวร้าวง่าย

-การเปลี่ยนแปลงของการนอน เช่น นอนไม่หลับ หรือหลับมากเกินไป

-เบื่ออาหาร หรือกินมากผิดปกติ

-ร้องไห้ง่ายหรือบ่อยขึ้น

-สมาธิสั้น ไม่สนใจเรียนหรือเล่น

-บ่นเรื่องอาการทางกาย เช่น ปวดท้อง ปวดหัว โดยไม่มีสาเหตุทางกายภาพ

-พูดถึงความสิ้นหวัง หรือในกรณีรุนแรงอาจพูดถึงความตาย

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...