เทรนด์ “Micro-travel” โตต่อเนื่อง พัทยา ขึ้นแท่น Top 5 “ทริปค้างคืนเดียว” เอเชีย
อโกด้า ชี้ พัทยา ขึ้นแท่นเมืองยอดนิยมอันดับ 1 สำหรับการเดินทางค้างคืนสั้นๆ ในไทย และเป็น 1 ใน 5 เมืองเด่นของเอเชีย รับเทรนด์ “Micro-travel” โตแรงในกลุ่มคนรุ่นใหม่และ Workation เปิดโอกาสทองให้การท่องเที่ยวไทยกระจายรายได้สู่เมืองใกล้เคียง
ประเทศไทยได้รับข่าวดีด้านการท่องเที่ยวอีกครั้ง เมื่อ“พัทยา” เมืองท่องเที่ยวชายทะเลชื่อดังของไทย ได้รับการจัดอันดับให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 1 สำหรับการท่องเที่ยวระยะสั้นแบบ “Micro-travel” ซึ่งหมายถึงการเดินทางค้างคืนเพียง 1–2 คืน โดยข้อมูลจากแพลตฟอร์มอโกด้า (Agoda) เผยว่าในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2568 พัทยาเป็นเมืองที่มีนักเดินทางเลือกเข้าพักค้างคืนมากที่สุดในประเทศไทย
ทั้งนี้การท่องเที่ยวแบบ Micro-travel เป็นเทรนด์ที่มาแรงในกลุ่มนักท่องเที่ยวยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานที่มีเวลาจำกัด พวกเขามักเดินทางแบบกระชับ ใช้เวลาสั้นๆ แต่ได้ประสบการณ์เต็มที่ โดยไม่ต้องวางแผนล่วงหน้าหรือลางานหลายวัน
จากการสำรวจของอโกด้า เทรนด์นี้คิดเป็นมากกว่า 35% ของการเดินทางในเอเชีย และกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มนักท่องเที่ยวหญิงวัยทำงานและผู้ที่นิยม Workation (การทำงานพร้อมกับการท่องเที่ยว)
พัทยาขึ้นแท่นจุดหมายระดับเอเชีย
ความสำเร็จของพัทยาไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่ยังติดอันดับ Top 5 เมืองยอดนิยมของเอเชีย สำหรับทริปค้างคืนเดียว ร่วมกับเมืองสำคัญอย่าง กัวลาลัมเปอร์, โซล, ไทเป และมะนิลา ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของเมืองพัทยาในฐานะแหล่งท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใหม่ของนักเดินทางจากทั่วเอเชีย
จุดหมายไทยยอดนิยม 5 อันดับแรกสำหรับ Micro-travel ได้แก่ :
- พัทยา
- ชลบุรี
- หัวหิน
- ระยอง
- เขาใหญ่
โอกาสใหม่ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
แนวโน้มการเดินทางสั้นที่มาแรงนี้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทยสามารถพัฒนาแพ็กเกจและบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการแบบ “เที่ยวง่าย พักไว ได้พลัง” ช่วยกระจายรายได้สู่เมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ และเมืองรอง พร้อมเสริมความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามองว่าการที่พัทยาขึ้นแท่นจุดหมายปลายทางระดับเอเชีย เป็นผลจากความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานการท่องเที่ยว การบริการที่มีคุณภาพ และภาพลักษณ์อันโดดเด่นของไทยในเวทีสากล ถือเป็นอีกหนึ่ง "ข่าวดีของประเทศไทย" ที่สะท้อนถึงพลัง Soft Power และความสามารถในการดึงดูดนักเดินทางรุ่นใหม่จากทั่วโลก