โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ม.หอการค้าฯ ประเมินภาษี 36% ฉุดเศรษฐกิจไทยโตไม่ถึง 1%

สำนักข่าวไทย Online

อัพเดต 09 ก.ค. เวลา 13.54 น. • เผยแพร่ 09 ก.ค. เวลา 06.54 น. • สำนักข่าวไทย อสมท

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – ม.หอการค้าฯ ประเมินภาษี 36% ฉุดเศรษฐกิจไทยโตไม่ถึง 1% คนไทยอาจตกงานเพียบ แนะรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม-เยียวยาผู้ประกอบการ มองสหรัฐยืดเส้นตายให้ยื่นข้อเสนอใหม่เป็นประโยชน์กับไทย เชื่อทีมไทยแลนด์เจรจาได้

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การที่สินค้าส่งออกไทยถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% ผลที่เกิดขึ้นคือสินค้าไทยที่ถูกส่งไปสหรัฐฯ จะแพงขึ้นทันที ผลกระทบผู้ประกอบการไทยที่แน่นอนคือขายสินค้าได้น้อยลง หรือ หากต้องการแข่งขันได้ก็ต้องลดราคาสินค้า เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้นำเข้า ผลที่จะตามมาหลังจากนั้นคือการลดกำลังผลิต ลดการจ้างงานแรงงาน หรือ อาจปลดแรงงาน คนไทยอาจตกงานเพิ่ม ส่วนประเทศคู่ค้าสหรัฐฯอื่นๆ หากโดนเรียกเก็บภาษีในอัตรสูงก็จะเกิดปัญหาเช่นเดียวกับประเทศไทย คือ ส่งผลไปถึงการจ้างงานและรายได้ของคนในประเทศ สิ่งที่ตามมาคือ ประชาชนในประเทศนั้นๆต่างก็ต้องอยู่ในสภาวะรัดเข็มขัด อาจจะไม่มีเงินมาเที่ยวประเทศไทย ภาคท่องเที่ยวและบริการไทยก็มีรายได้น้อยลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น การเรียกเก็บภาษี 36% ของสหรัฐจึงไม่ได้ส่งผลกระทบเฉพาะผู้ส่งออกเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศไทยด้วย เรียกได้ว่าเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการ ซึ่งทีมไทยแลน์ต้องฟังเสียงจากผู้ประกอบการ และภาคเอกชน เนื่องจากจะทำให้เราสูญเสียรายได้ถาวรในทุกๆ ปี ปีละหลายแสนล้านบาท ซึ่งจะฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอย่างน้อย 0.5-1% ต่อปี ดังนั้นไทยจึงต้องเจรจากับสหรัฐเพื่อให้ได้ประโยชน์ในระยะยาวให้มากที่สุด

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยประเมินเบื้องต้น หากไทยถูกคิดภาษีในอัตรา 25-36% ไทยจะสูญเสียรายได้จากการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังประมาณ 2 แสนล้านบาท ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย โดยคาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยโตได้น้อยลงไปอีก 1% นั่นหมายความว่าจากเดิมที่ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ เคยประเมินไว้ว่าปี 2568 เศรษฐกิจไทยจะโตได้ประมาณ 1.7% ก็อาจจะเหลือโตได้ต่ำกว่า 1% ทั้งนี้มองว่ารัฐบาลควรจะหาแนวทางแก้ไขเยียวยาไปพร้อมๆ กับการเจราสหรัฐฯ โดยการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากเงิน 1.57 แสนล้านบาท และเร่งใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วก็จะช่วยให้กำลังซื้อในไตรมาส 3 เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว และหากในไตรมาส 4 งบประมาณปี 69 ออกมา และรัฐบาลให้เร่งจัดซื้อจัดจ้างเศรษฐกิจไทยก็จะถูกพยุง และหากหน่วยงานภาครัฐประชาสัมพันธ์ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจีนกลับมาได้ รวมสูงกว่า 35 ล้านคน ก็จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยโตได้ใกล้เคียง 1.5-2% ได้

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าทีมไทยแลนด์จะสามารถเจรจากับสหรัฐเพื่อให้ได้ข้อเสนอที่เป็นประโยชน์กับประเทศไทยในระยะยาว และการที่สหรัฐขยายเวลาให้ไทยนั้นเชื่อว่าสหรัฐต้องการเจรจากับไทย ซึ่งจะทำให้ไทยได้ประโยชน์ ส่วนการลดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐเหลือ 0% ในสินค้าหลายรายการ เชื่อว่าทีมไทยแลนด์พิจารณาดีแล้วว่าเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาวมากกว่าการที่ต้องถูกเรียกเก็บภาษีน้ำเข้าสหรัฐ 36%.-517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...