‘พิพัฒน์’ลั่นลุย ปมซื้อ‘SKYY9’ ‘ปชน.’ตามขยี้
"รักชนก-สหัสวัต" ยื่นคำร้อง "ป.ป.ช." ไต่สวน "สุชาติ" พร้อมคณะปล่อยให้เกิดการซื้อตึกสกายไนน์แพงเกินจริง “พิพัฒน์” รับลูก “อนุทิน” ทันควัน เตรียมตั้งคณะกรรมการลุย ยันไม่ใช่เรื่องเล็ก
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมด้วยนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรค ปชน. เข้ายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อคราวดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เมื่อคราวดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) อนุมัติเงินกองทุนประกันสังคมลงทุนในกองทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุนไพรม์ แอสเซท กรณีโครงการอาคาร Cas Centre หรืออาคารสกายไนน์ (SKYY9 Centre) และนายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน ช่วงปี 2564-2567 ที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) โดยตำแหน่ง ได้กระทำความผิดตามมาตรา 172 พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
นายสหัสวัตกล่าวว่า วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่จะดำเนินการเรื่องนี้เต็มที่ โดยขอฝากคำถามถึงนายกฯ ด้วยว่า จะตั้งคนที่มีคดีอยู่ใน ป.ป.ช.ให้เป็นรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่ ตอนนี้ประชาชนจับตาดูอยู่ว่าโผ ครม.จะไปในทิศทางไหน
“นอกจาก สส.พรรคประชาชนจะยื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบแล้ว ผู้ประกันตน ในฐานะผู้เสียประโยชน์ สามารถทำคำร้องยื่นร้องต่อหน่วยงานต่อ ป.ป.ช. และอิสระอื่นๆ เพื่อให้สอบสวนกรณีนี้ได้”
น.ส.รักชนกกล่าวยืนยันว่า มูลค่าที่แท้จริงของตึกสกายไนน์กับราคาที่ สปส.ซื้อนั้นไม่สอดคล้องกัน หลังจากพวกตนออกมาพูดก็ถูกสุชาติฟ้อง ซึ่งยืนยันมาตลอดว่าทุกอย่างที่พูดไม่ได้ต้องการโจมตีใคร แต่ต้องการรักษาผลประโยชน์ของผู้ประกันตน โดยหลังจาก รมว.มหาดไทยตั้งคณะกรรมการสอบฯ ผลออกมาเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า มูลค่าของตึกอยู่ที่ประมาณ 3,000-3,200 ล้านบาท แต่ประกันสังคมกลับทุ่มเงินซื้อสูงถึง 7,000 ล้านบาท
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณี น.ส.รักชนกเกาะติดขอให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวว่า เป็นการทำหน้าที่ สส. และการตั้งคณะกรรมการวินัยเกิดขึ้นก่อนที่ น.ส.รักชนกจะออกมาแจ้งอีก ซึ่งถือเป็นเรื่องดี ทำให้เรามีความมั่นใจว่าเราทำในสิ่งที่เหมาะสม ซึ่งมีคนที่พร้อมที่จะให้ข้อมูลและติดตามอีก ซึ่งทำให้ทุกฝ่ายสามารถมั่นใจได้ว่าการสอบสวนครั้งนี้เป็นไปอย่างโปร่งใส
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ น.ส.รักชนกจะระบุว่าจะนับถือหากนายอนุทินทำจริง นายอนุทินกล่าวว่า “ก็นับถือได้เลย เพราะทำจริงแน่อยู่แล้ว ทำมาขนาดนี้ถ้าทำไม่จริงก็อยู่ไม่ได้”
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน แถลงยืนยันว่า จะไม่มีการเพิกเฉยหรือละเลยต่อข้อร้องเรียนที่ได้รับจากนายอนุทิน แม้กรณีนี้จะเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดก่อน แต่ในฐานะรัฐมนตรีคนปัจจุบัน มีหน้าที่ต้องตรวจสอบและรับผิดชอบ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ประกันตนทุกคน โดยขณะนี้กระทรวงอยู่ระหว่างการจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงชุดใหม่ เพื่อดำเนินการสอบวินัยอย่างเป็นระบบ โดยจะขอความร่วมมือจากกระทรวงอื่น ในการส่งบุคคลภายนอกที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมารับตำแหน่งประธานกรรมการ เพื่อให้การสอบสวนมีความเป็นกลางและตรวจสอบได้
“นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก และไม่ใช่แค่เรื่องในอดีต หากแต่เกี่ยวพันถึงความเชื่อมั่นของผู้ประกันตนต่อระบบประกันสังคมโดยรวม ซึ่งผมจะดำเนินการให้เกิดความชัดเจนและยุติธรรมมากที่สุด” นายพิพัฒน์กล่าว.