เช่าซื้อ–ลีสซิ่งรถยนต์–จยย. เตรียมอยู่ภายใต้การกำกับของ ธปท.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – พระราชกฤษฎีกาใหม่กำหนดให้ธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์–จักรยานยนต์อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน เริ่มมีผลบังคับใช้ 2 ธันวาคมนี้ ธปท. เตรียมกำกับดูแลเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค กำหนดค่าธรรมเนียม-ดอกเบี้ยมาตรฐานเดียวกัน

นางพีรจิต ปัทมสูต ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายคุ้มครองและตรวจสอบบริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า พระราชกฤษฎีกากำหนดให้การประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์อยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ.2551 ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 และจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป

การออกกฎหมายดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการคือ คุ้มครองผู้บริโภค ให้ได้รับบริการที่โปร่งใส เป็นธรรม เช่น การคิดอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม การเปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจน และการปรับโครงสร้างหนี้อย่างมีมาตรฐานและรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจการเงิน โดยเฉพาะการบริหารจัดการ หนี้ครัวเรือน ให้ไม่ขยายตัวเกินควบคุม

ทั้งนี้ ธุรกิจเช่าซื้อ–ลีสซิ่งมีมูลค่าสินเชื่อคงค้างรวมสูงถึง 1.6 ล้านล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 และประมาณ 1 ใน 3 ดำเนินการโดยผู้ประกอบการที่ยังไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลใดๆ กฎหมายฉบับนี้จึงมอบหมายให้ ธปท. เข้ามากำกับนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่งอย่างเป็นทางการ เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วทั้งระบบ

ในระหว่างก่อนกฎหมายมีผลบังคับใช้ ธปท.ขอให้ผู้ประกอบธุรกิจเตรียมความพร้อมในการรายงานตัวเพื่อเข้าสู่ระบบการกำกับดูแล โดยจะมีการประกาศระยะเวลารายงานตัวอย่างเป็นทางการล่วงหน้า และสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่านเว็บไซต์ของ ธปท. ที่ https://www.bot.or.th/th/our-roles/financial-institutions/hire-purchase-leasing.html หรือสอบถามเพิ่มเติมที่สายด่วน 1213. -512 – สำนักข่าวไทย