โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘โรม’ บอก ‘อนุทิน’ ทำไทยเสียเปรียบ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

The Bangkok Insight

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • The Bangkok Insight

"โรม" บอก "อนุทิน" ทำไทยเสียเปรียบ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ฝากการบ้าน กต. ช่วงหลังอ่อน เร่งสื่อสารเชิงรุก เหตุ "กัมพูชา" พยายามเบี่ยงประเด็นสแกมเมอร์

วันที่ (13 ธ.ค.) นายรังสิมันต์ โรม อดีต สส.พรรคประชาชน กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา มีหารือ และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งมีการโพสต์ผ่านโซเชียล ช่วงหนึ่งว่าการเหยียบทุ่นระเบิดของทหารไทย เป็นอุบัติเหตุ ว่า ตนขอใช้โอกาสนี้แสดงความเสียใจ ต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น และความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องอพยพ ตนในฐานะที่เป็นอดีตนักการเมือง และประธานกรรมาธิการความมั่นคงฯ มองสถานการณ์ด้วยความเป็นห่วง และเห็นว่าการปะทะกันนั้นมีการยกระดับ ทั้งการใช้โดรน หากพูดกันตรงไปตรงมา ฝ่ายความมั่นคงได้ประเมินกันอยู่แล้วว่าจะมีการยกระดับในทิศทางแบบใด

ซึ่งต้องยอมรับว่า ป้องกันได้ยากมากขึ้น แต่ถ้าหากมีการเตรียมตัวดีๆ เราก็สามารถเตรียมพร้อมและรับมือได้ ซึ่งฝ่ายทหารก็รับรู้และรับทราบเรื่องนี้ แต่ตนไม่รู้ว่าการสนับสนุนเครื่องมือในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้มีการปะทะกันอย่างเข้มข้น มีการเตรียมพร้อมเครื่องไม้เครื่องมือมากน้อยเพียงใด รวมทั้งมองว่าต้องกำหนดให้ชัด ว่าเหตุปะทะกันระหว่างไทยและกัมพูชา เราเน้นในการปกป้องประชาชน และบูรณภาพทางดินแดน ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำจึงมีหลายแนวรบ ไม่ใช่เฉพาะขาทหาร แต่ยังมีขาเรื่องปัญหาอาชญากรรม ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยรัฐ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายทำลายเสถียรภาพของประเทศเรา นอกจากนี้ยังมีขาในเรื่องของการต่างประเทศ

ทั้งนี้ยังมีเรื่องหนึ่งที่ตนเป็นห่วงคือบทสนทนา ที่นายอนุทินได้บอกต่อประชาชน ว่าสหรัฐเชื่อข้อเท็จจริงบางอย่าง ซึ่งไม่เป็นคุณต่อเรา ในฐานะพรรคการเมืองฝ่ายค้าน เป็นห่วงมาโดยตลอด เพราะปัญหาชายแดนไม่ใช่ปัญหาประเทศไทยและประเทศอื่นๆ แต่เป็นปัญหาระหว่างไทยและกัมพูชาที่จะต้องหาข้อยุติให้ได้ หากเรามีความขัดแย้งเพิ่มไปอีก จะทำให้ประเทศไทย บริหารสถานการณ์ที่วิกฤตได้ยากขึ้น ดังนั้นจึงต้องทำยุทธศาสตร์ ให้โลกล้อมกัมพูชา ไม่ใช่โลกล้อมไทย และรัฐบาลต้องใช้โอกาสนี้ แก้ปัญหาแนวรบเรื่องนี้ให้ได้ ทหารเป็นผู้ปฏิบัติ ทำหน้าที่ปกป้องตามแนวชายแดน แต่ในเรื่องการต่างประเทศ ปราบสแกมเมอร์ เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำให้ดีกว่านี้

นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า สิ่งที่นายอนุทินกำลังปฏิบัติอยู่ไม่ดี ไม่ดีจริงๆ ทำให้ประเทศไทยไม่ได้ใช้ความได้เปรียบอย่างที่ควรจะเป็น ทำให้เกิดบรรยากาศโลกล้อมกัมพูชา และสุดท้ายในปลายทางของความขัดแย้ง ตนเป็นห่วงว่า รัฐบาลยังบริหารจัดการแบบนี้ไม่ได้ ประเทศไทยอาจจะไม่ได้อยู่ในจุดที่ดีที่สุดอย่างที่เราควรจะได้

ส่วนภาพรวมไม่รู้ว่าใครพูดจริงหรือเท็จ เพราะไม่ได้อยู่ในห้องที่มีการสนทนากัน แล้ววันนี้ที่มีคำพูดออกมาว่าจะมีการหยุดยิง เวลา 22:00 น. ซึ่งตนเข้าใจว่าเป็นการสื่อสารจาก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แต่ตนคิดว่า ท่ามกลางความสับสนในเรื่องนี้ รัฐบาลมีหน้าที่ให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงกับประชาชน ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร และรัฐบาลต้องทำให้ประเทศไทยอยู่ในจุดที่ดีที่สุด มีเพื่อนมากที่สุด และโดดเดี่ยวกัมพูชาให้ได้ นั่นคือภารกิจของรัฐบาลที่ต้องทำ

ส่วนจะฝากการบ้านอย่างไรไปให้รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไทยอยู่ในจุดที่ได้เปรียบหลายเรื่อง กัมพูชาไม่มีจุดได้เปรียบ แต่กลายเป็นว่างานข้อมูลข่าวสารกับต่างประเทศ กลับมีแนวโน้มฝั่งกัมพูชามากกว่าไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศต้องทำ คือต้องทำให้เข้าใจว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ฝ่ายที่ไม่ทำตามข้อตกลงคือกัมพูชา ไทยไม่ใช่ผู้รุกราน หรือทำลายสันติภาพ แต่เป็นฝ่ายกัมพูชาที่เป็นผู้ริเริ่ม หากไม่สามารถทำให้เรื่องนี้เกิดความชัดเจนได้ ไทยจะไม่ใช่ประเทศที่ได้เปรียบ

นอกจากนี้ต้องทำให้ทั่วโลกเข้าใจให้ได้ ว่ากัมพูชาต้องการนำปัญหาความขัดแย้ง เบี่ยงประเด็นการแก้ปัญหาสแกมเมอร์ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ใหญ่กว่ากัมพูชา งานของกระทรวงการต่างประเทศแรกๆเหมือนจะดี แต่ตอนนี้กลายเป็นอ่อน จึงต้องเพิ่มการสื่อสารทำความเข้าใจ และรุกให้มากกว่านี้ เพิ่มช่องทางการสื่อสาร

ส่วนตั้งข้อสังเกตอย่างไรกับการที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และผู้นำกัมพูชา ออกมาระบุว่าเวลา 22:00 น คืนนี้จะหยุดยิง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า วันนี้เราต้องตั้งคำถามว่าเป้าหมายของนายอนุทินคืออะไร การปกป้องประชาชนและการบูรณภาพทางดินแดน ตนเข้าใจว่ามันต้องเดิน แต่ที่สุดไม่ได้มีแค่สนามตรงนั้นในการสู้ แต่หากเราใช้ความคิด ข้อเท็จจริงข้อมูล ไม่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึก ต้องเข้าใจว่าสนามรบไม่ได้มีแค่จุดนั้น แต่หากแพ้ในสนามอื่น สุดท้ายอาจจะเป็นโดมิโน่ได้ เพราะฉะนั้นจุดสำคัญคือนายอนุทิน ต้องมียุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อน ทั้งแนวรบด้านการฑูต แนวรบด้านการปราบปรามอาชญากรรม ด้านการพูดและแนวโน้มด้านการปราบปรามอาชญากรรม หากสิ่งเหล่านี้อ่อนลงจะเป็นการเสริมจุดแข็งให้กับกัมพูชา ตนก็ไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร แต่ต้องเอาข้อมูลความจริง พูดกับประชาชนตรงๆ ว่าสถานการณ์ถูกยกระดับไปถึงจุดใด ยอมรับว่าแนวหน้ามีความรุนแรงมาก โดรนราคาถูก มีการเตรียมไว้ 3,000 ลำ ซึ่งเป็นข้อมูลที่กองทัพรู้มาอยู่แล้ว จึงคาดหวังว่ารัฐบาลจะสนับสนุน ว่าจะทำอย่างไรให้สามารถ ปกป้องบูรณภาพดินแดนและประชาชนได้อย่างเต็มที่ พร้อมยอมรับว่าการสู้รบย่อมมีการสูญเสีย ต้นไม่อยากให้ลูกหลานที่อยู่ในแนวหน้า ได้รับความสูญเสีย จึงอยากให้มีเครื่องไม้เครื่องมือในการปกป้องชีวิตของพวกเขาอย่างสูงสุด

ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรคประชาชนสนใจแต่การแก้รัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งแต่ไม่ แต่ไม่สนใจประชาชน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องการจัดเตรียมต่างๆ เป็นเรื่องที่ทุกพรรคต้องทำ ไม่ได้หมายความว่า พรรคให้ความสำคัญกับรัฐธรรมนูญ แล้วจะผ่อนในเรื่องสแกมเมอร์ หรือปัญหาด้านความมั่นคง ซึ่งตนก็เป็นคนหนึ่งที่ทำเรื่องสแกมเมอร์และความมั่นคงมากที่สุดคนหนึ่ง และเป็นอีกหนึ่งคนที่ใช้เวทีต่างประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าผลประโยชน์ของประชาชน จะได้รับความคุ้มครองสูงสุด แต่ขณะเดียวกันก็มีสส.คนอื่น ขับเคลื่อนในส่วนอื่นไป ไม่ใช่ว่าจะเลือกอีกอย่างหนึ่งแล้วทิ้งอีกอย่างหนึ่ง แต่หากจะถามเรื่องการเตรียมการเลือกตั้ง ต้องไปดูพรรคการเมืองต่างๆ เขาไปดูดสส. หรือคนนั้นคนนี้เข้าพรรคเต็มไปหมด พรรคการเมืองเหล่านี้ ให้ความสำคัญกับเรื่องการเลือกตั้งมากเหมือนกัน

"การจะมาโจมตีว่าพรรคประชาชนไม่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชน หรืองานด้านความมั่นคง ตนมองว่าเป็นการโจมตีข่าวเท็จ ไม่ได้มีมูลความจริง ขอยืนยันกับประชาชนว่า งานด้านความมั่นคง เป็นเรื่องสูงสุดและสำคัญ การปราบปรามกลุ่มสีเทา เราจะต้องใช้โอกาสนี้ทำอย่างไรให้นักการเมืองที่เป็นมือไม้พายเรือให้โจรนั่ง พวกเทาๆดำๆ ไม่เข้าไปสู่ในสภา ไม่มีอำนาจรัฐ และไม่ใช้อำนาจนั้นในการปกป้องทุนเทายึดประเทศไทย" นายรังสิมันต์กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...