อธิบดีกรมประมงขับเคลื่อนองค์กรสู่ยุคใหม่ นำเกษตรกรไทยสู่ความยั่งยืน
อธิบดีกรมประมงเปิดศักราชใหม่ขับเคลื่อนองค์กรด้วยแนวคิด “FISHERIES CONNECT FOR SUSTAINABILITY” เชื่อมโยงภาคการประมงไทยทั้งระบบสู่ความยั่งยืน ภายใต้หลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้”
นางฐิติพร หลาวประเสริฐ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยภายหลังมอบนโนยายและแนวทางการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ 2569 แก่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมประมงกว่า 600 คน ณ ห้องประชุมอานนท์ กรมประมง ว่า ภายใต้วิสัยทัศน์ “ยกระดับการประมงไทยให้แข่งขันได้ โดยใช้ทรัพยากรอย่างสมดุล พร้อมผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อสร้างความมั่งคั่งแก่เกษตรกร” กรมประมงในฐานะหน่วยงานหลักที่กำกับดูแลภาคการประมงของประเทศได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานครอบคลุมทุกมิติอย่างต่อเนื่อง ทั้งการรักษาสมดุลทรัพยากรประมงและสิ่งแวดล้อมเพื่อความมั่นคงของผลผลิต สนับสนุนเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มเสริมความมั่งคั่งให้เกษตรกร พัฒนาสินค้าประมงที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมผลักดันงานวิจัยให้ตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ตลอดจนเพิ่มศักยภาพกำลังคนและการดำเนินงานภาครัฐให้ทัดเทียมนานาชาติและเพื่อยกระดับการบริหารราชการของกรมประมงให้ก้าวสู่การเป็นองค์กรยุคใหม่ ภายใต้แนวคิด “FISHERIES CONNECT FOR SUSTAINABILITY” จึงได้วางกลยุทธ์เพื่อประสานความเชื่อมโยงภาคการประมงสู่ความยั่งยืน ใน 3 มิติ
ได้แก่ 1. เชื่อมโยงการจัดการทรัพยากร เน้นการเชื่อมโยงข้อมูล องค์ความรู้และบูรณาการทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน 2. เชื่อมโยงการตลาดและการผลิต ด้วยการเชื่อมโยงผู้ผลิตกับความต้องการของตลาดเพื่อเพิ่มรายได้ และส่งเสริมการพัฒนาสินค้าประมงสู่มาตรฐาน ให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดสายการผลิตเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ และ 3. เชื่อมโยงบุคลากรและนโยบาย หนุนเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและบุคลากรภายในกรมประมง พร้อมเชื่อมต่อนโยบายให้สอดคล้องกับต้องการของประชาชน โดยได้กำหนดกรอบการดำเนินงาน 5 บวก 1 (5 Plus 1 Framework) ดังนี้
สืบสานพระราชปณิธานสนองงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ขับเคลื่อนงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งการอนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยเฉพาะพันธุ์ปลาไทย ถ่ายทอดองค์ความรู้ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและพัฒนาอาชีพประมงเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างยั่งยืน
1. สร้างความร่วมมือด้านการประมงกับทุกภาคส่วน โดยเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างภาครัฐ หน่วยงานส่วนท้องถิ่น เกษตรกร ชาวประมง ภาคเอกชนและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง ภาควิชาการ สถาบันการศึกษา และภาคประชาสังคม รวมถึงความร่วมมือระดับนานาชาติ เพื่อขับเคลื่อนภาคการประมงไทยสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม
2. เสริมสร้างความสมดุลในการบริหารจัดการทรัพยากรประมง อย่างเท่าเทียม เพิ่มความยั่งยืน โดยจัดสรรสิทธิการเข้าถึงทรัพยากรประมงอย่างเป็นธรรม บนฐานข้อมูลทางวิชาการที่ถูกต้องและทันสมัย ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมยกระดับการควบคุม ป้องกัน ปราบปราม และเฝ้าระวังการทำประมงผิดกฎหมาย เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างสมดุลและยั่งยืน
3. เพิ่มมูลค่าสินค้าสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ โดยพัฒนาสินค้าประมงให้มีคุณภาพ ความปลอดภัย และได้มาตรฐานสากล ส่งเสริมการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ สนับสนุนการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ควบคู่การสร้างเอกลักษณ์สินค้าผ่านแบรนด์สินค้าและเรื่องราวของพื้นที่ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ สร้างความเชื่อมั่น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าประมงไทยอย่างยั่งยืน
4. ยกระดับงานวิจัยและนวัตกรรม ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล โดยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อรองรับการวิจัยยุคใหม่ ผ่านระบบรวบรวมข้อมูลดิบ (Raw Data) เพื่อให้สืบค้นและนำมาใช้ประโยชน์ได้ง่าย ใช้ระบบ Digital Dashboard เพื่อติดตามสถานะงานวิจัยและงบประมาณแบบ Real-time ควบคู่กับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI ในงานวิจัยและนวัตกรรม พร้อมพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านดิจิทัล เพื่อยกระดับการบริหารจัดการงานวิจัยให้ทันสมัยและใช้ประโยชน์ได้จริง
5. พัฒนาระบบการผลิตตลอดห่วงโซ่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (GREEN FISHERIES) ส่งเสริมการผลิตสัตว์น้ำเศรษฐกิจและใช้สัตว์น้ำพันธุ์ดี พัฒนาการเพาะเลี้ยงและต่อยอดสินค้าประมงมูลค่าสูง ควบคู่กับการพัฒนาสินค้าประมงอัตลักษณ์พื้นถิ่น โดยส่งเสริมการรวมกลุ่มเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันสร้างอำนาจการต่อรอง พร้อมผลักดันการผลิตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
อธิบดีกรมประมง กล่าวต่อว่าเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ชัดเจนเห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว กรมประมงยังได้เร่งผลักดันงานเร่งด่วน 5 บวก 1 (5 Plus 1 Fast Track Project) ด้วยการพัฒนาองค์กรและบุคลากรเพื่อมาเสริมความแข็งแกร่งในการดำเนินภารกิจ พัฒนาเครือข่ายประมงอาสาให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าหมาย 1 อำเภอ 1 ประมงอาสา พัฒนาความมั่นคงทางอาหารในโรงเรียน โดยขยายผลจากโครงการประมงโรงเรียนและยกระดับให้เป็นโครงการ 1 อำเภอ 1 ประมงโรงเรียน พัฒนาระบบงานโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล อีกทั้งยังได้เน้นส่งเสริมบทบาทสตรีและความเสมอภาคในภาคการประมง (Gender in Fisheries) โดยพัฒนาศักยภาพสตรีตลอดห่วงโซ่การผลิต ทั้งด้านการเพาะเลี้ยง การแปรรูป และการตลาด พร้อมเสริมสร้างภาวะผู้นำและการรวมกลุ่มในชุมชนประมง เพื่อเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ การเข้าถึงทรัพยากร และการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม อันจะนำไปสู่การพัฒนาภาคการประมงอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
นอกจากนี้ กรมประมงยังให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้หลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” เพื่อยกระดับภาคการประมงภายใต้ กลไก 3 สร้าง ได้แก่
1. สร้างรายได้ ด้วยการส่งเสริม Smart Farming เพื่อลดต้นทุนการผลิต พัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำมูลค่าสูง ฟื้นฟูแหล่งน้ำเพื่อเพิ่มผลผลิต เพื่อให้เกษตรกร ชาวประมงมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน
2. สร้างตลาด ต่อยอดการจำหน่ายสินค้าประมงผ่านออนไลน์ “Fisheries Shop” พัฒนาตลาดประมงพื้นบ้าน และยกระดับสินค้าประมงสู่ตลาดพรีเมียมและตลาดส่งออก
3. สร้างโอกาส โดยปรับปรุงกฎระเบียบและขั้นตอนที่เป็นอุปสรรคต่อการทำประมง พร้อมส่งเสริมและพัฒนาทักษะอาชีพ เพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพให้เกษตรกร ชาวประมง และผู้ประกอบการประมง
อธิบดีกรมประมง กล่าวทิ้งท้ายว่า นโยบายและทิศทางการดำเนินงานดังกล่าว มีเป้าหมายสำคัญไม่ใช่เพียงแค่ทำให้สำเร็จตามตัวชี้วัด แต่คือต้องการเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมที่พร้อมเชื่อมโยงภาคประมงไทยสู่ความเป็นเลิศทุกมิติ ซึ่งสามารถนำพากรมประมงก้าวสู่การเป็นองค์กรภาครัฐยุคใหม่ที่ยกระดับภาคการประมงไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนตามแนวคิด“FISHERIES CONNECT FOR SUSTAINABILITY” ที่สอดรับกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และยุทธศาสตร์ชาติต่อไป
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO