“ทรัมป์” เผยสหรัฐเปิดปฏิบัติการโจมตีทรงพลัง-ร้ายแรง กลุ่ม IS ในไนจีเรีย
"ทรัมป์" เผยสหรัฐเปิดปฏิบัติการโจมตีทรงพลัง-ร้ายแรง กลุ่ม IS ในไนจีเรีย ท่ามกลางเสียงโต้แย้งประเด็นศาสนา หลังไนจีเรียย้ำมุ่งเป้าผู้ก่อการร้ายไม่เกี่ยวความเชื่อทางศาสนา
วันที่ 26 ธันวาคม 2568 เวลา 09.28 น. สำนักข่าว BBC รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐได้เปิดปฏิบัติการโจมตีที่ทรงพลังและร้ายแรง ต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของไนจีเรีย โดยระบุว่า IS เป็นพวกผู้ก่อการร้ายชั่วช้า และกล่าวหาว่ากลุ่มดังกล่าวว่ามุ่งเป้าและสังหารอย่างโหดเหี้ยม โดยเฉพาะพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่เป็นคริสเตียน
ทรัมป์กล่าวว่า กองทัพสหรัฐได้ดำเนินการโจมตีอย่างแม่นยำหลายครั้ง ขณะที่กองบัญชาการกองทัพสหรัฐฯ ประจำแอฟริกา (Africom) รายงานในเวลาต่อมาว่า การโจมตีเมื่อวันพฤหัสบดีดำเนินการร่วมกับไนจีเรีย ในรัฐโซโกโต (Sokoto)
ด้านนายยูซุฟ ไมตามา ทักการ์ รัฐมนตรีต่างประเทศไนจีเรีย ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นปฏิบัติการร่วมที่มุ่งเป้าไปที่ผู้ก่อการร้ายและไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาใดเป็นการเฉพาะ แต่ไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ของการโจมตีเพิ่มเติม โดยระบุว่าจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้นำทั้งสองประเทศ
ในโพสต์บนแพลตฟอร์ม Truth Social เมื่อช่วงดึกของวันพฤหัสบดี ทรัมป์กล่าวว่า“ภายใต้การนำของผม ประเทศของเราจะไม่ยอมให้การก่อการร้ายอิสลามหัวรุนแรงเติบโตได้”
เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทรัมป์ได้สั่งการให้กองทัพสหรัฐ เตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติการในไนจีเรีย เพื่อรับมือกับกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ อย่างไรก็ดีในขณะนั้นเาไม่ได้ระบุชัดเจนว่าหมายถึงเหตุสังหารใด โดยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีกระแสกล่าวอ้างในกลุ่มขวาจัดบางส่วนของสหรัฐว่าเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวคริสเตียนในไนจีเรีย
ขณะเดียวกัน พีต เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขารู้สึกขอบคุณการสนับสนุนและความร่วมมือจากรัฐบาลไนจีเรีย พร้อมปิดท้ายข้อความบนแพลตฟอร์ม X ด้วยคำว่า“สุขสันต์วันคริสต์มาส!”
กลุ่มที่ติดตามและเฝ้าระวังความรุนแรงระบุว่าไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าชาวคริสเตียนถูกสังหารมากกว่าชาวมุสลิมในไนจีเรีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรนับถือศาสนาคริสต์และอิสลามในสัดส่วนใกล้เคียงกัน
ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโบลา ตินูบู ของไนจีเรีย เคยกล่าวกับ BBC ว่าการปฏิบัติการทางทหารใด ๆ ต่อกลุ่มญิฮาดควรดำเนินการร่วมกัน นายแดเนียล บวาลา ระบุว่าไนจีเรียยินดีรับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ในการรับมือกับกลุ่มก่อความไม่สงบ แต่ย้ำว่าไนจีเรียเป็น “ประเทศอธิปไตย”
เขายังกล่าวว่ากลุ่มญิฮาดไม่ได้มุ่งเป้าโจมตีศาสนาใดเป็นการเฉพาะ และได้สังหารผู้คนจากทุกศาสนา หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่ได้นับถือศาสนาใด
ด้านประธานาธิบดีตินูบูยืนยันว่าไนจีเรียมีความอดทนอดกลั้นทางศาสนา และกล่าวว่าปัญหาด้านความมั่นคงส่งผลกระทบต่อผู้คนทุกศาสนาและทุกภูมิภาค
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ประกาศให้ไนจีเรียเป็นประเทศที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ (Country of Particular Concern) เนื่องจากภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของประชากรคริสเตียน โดยอ้างว่ามีผู้เสียชีวิตหลายพันคน แต่ไม่ได้แสดงหลักฐานประกอบ การจัดประเภทดังกล่าวเป็นกลไกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ที่อาจนำไปสู่การคว่ำบาตรประเทศที่ละเมิดเสรีภาพทางศาสนาอย่างร้ายแรง
ภายหลังการประกาศดังกล่าว ตินูบูกล่าวว่ารัฐบาลของเขามุ่งมั่นทำงานร่วมกับสหรัฐ และประชาคมระหว่างประเทศ เพื่อคุ้มครองชุมชนของทุกศาสนา
กลุ่มญิฮาดอย่างโบโกฮาราม และรัฐอิสลามแอฟริกาตะวันตก (ISWAP) ได้สร้างความเสียหายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรียมากว่าทศวรรษ คร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันราย อย่างไรก็ดีตามข้อมูลของ ACLED ซึ่งวิเคราะห์ความรุนแรงทางการเมืองทั่วโลก ระบุว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม
ในภาคกลางของไนจีเรีย ยังเกิดการปะทะกันบ่อยครั้งระหว่างกลุ่มคนเลี้ยงสัตว์ที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม กับกลุ่มเกษตรกรที่มักเป็นคริสเตียน จากข้อพิพาทเรื่องการเข้าถึงน้ำและพื้นที่เลี้ยงสัตว์ วงจรการโจมตีตอบโต้กันไปมาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน โดยมีการก่อเหตุโหดร้ายจากทั้งสองฝ่าย
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐระบุว่าได้ดำเนินการโจมตีครั้งใหญ่ต่อกลุ่ม IS ในซีเรีย โดยกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ (Centcom) เปิดเผยว่า เครื่องบินขับไล่ เฮลิคอปเตอร์โจมตี และปืนใหญ่ ได้โจมตีเป้าหมายมากกว่า 70 แห่งในหลายพื้นที่ทั่วตอนกลางของซีเรีย และมีอากาศยานจากจอร์แดนเข้าร่วมปฏิบัติการด้วย
อ้างอิง : bbc.com