โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

8 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ เทศกาลวันไหว้พระจันทร์

Campus Star

เผยแพร่ 18 ก.ย 2561 เวลา 04.35 น.
ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของชาวจีน ที่เรียกได้ว่าสำคัญรองจากตรุษจีนเลยก็ว่าได้ สำหรับ เทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ที่นอกจากจะมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่

ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของชาวจีน ที่เรียกได้ว่าสำคัญรองจากตรุษจีนเลยก็ว่าได้ สำหรับ เทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ที่นอกจากจะมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่แล้ว อีกหนึ่งอย่างที่ทุกคนต้องนึกถึงเมื่อพูดถึงวันไหว้พระจันทร์นั่นก็คือ ขนมไหว้พระจันทร์ วันนี้เรามี 8 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ เทศกาลวันไหว้พระจันทร์ มาฝากทุกคนกัน มีทั้งตำนาน ประวัติความเป็นมา และเกร็ดความรู้ต่าง ๆ จะมีอะไรบ้าง ลองไปดูกันได้เลย

8 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ เทศกาลวันไหว้พระจันทร์

1. มีอีกชื่อว่าเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง (Mid Autumn Festival)

เทศกาลไหว้พระจันทร์ มีอีกชื่อว่า เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง ในภาษาจีนคือ จงชิวเจี๋ย (中秋节) ซึ่งเป็นช่วงที่พระจันทร์เปล่งแสงสวยงามที่สุด จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยว ซึ่งจะตรงกับคืนวันเพ็ญเดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติ หรือเดือนกันยายนตามปฏิทินสากล

2. เกิดขึ้นเพราะความฝัน

ตามบันทึกพงศาวดารจีนโจวหลี่ บันทึกไว้ว่า การเซ่นไหว้พระจันทร์ของจีนมีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งมาจากความฝันของฮ่องเต้ หมิงหวง ในคืนวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ทรงพระสุบินว่าได้เสด็จประพาสบนดวงจันทร์ และทรงพระเกษมสำราญยิ่ง เมื่อพระองค์ทรงตื่นบรรทม จึงทรงโปรดให้ฝันนั้นกลายเป็นจริงอีกครั้ง โดยมีรับสั่งให้พระสนมแต่งตัว และร่ายรำเลียนแบบเทพธิดาตามความฝัน ตั้งแต่นั้นมาวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปีจึงเป็นวันเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่ประชาชนชาวจีนร่วมกันบูชาดวงจันทร์

3. ตำนานฉางเอ๋อ

หญิงงามคนหนึ่งนามว่า ฉางเอ๋อ ภรรยาของโฮ่วอี้ ได้กินยาอายุวัฒนะเข้าไป ทันใดนั้น ร่างของนางก็ลอยล่องขึ้นไปสู่ดวงจันทร์ และนางก็ได้กลายเป็นเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ ผู้มีชีวิตเป็นอมตะ เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยว นางก็จะพรมน้ำอมฤตลงมาให้ชาวไร่ชาวนาได้เพาะปลูกกัน ผู้คนจึงได้แสดงความเคารพยกย่องบูชาแม่นางฉางเอ๋อ ด้วยการทำขนมไหว้พระจันทร์เพื่อใช้ในการกราบไหว้

4. ตำนานกระต่ายบนดวงจันทร์

ปีหนึ่งในปักกิ่งโรคอหิวาระบาดหนัก เมื่อเทพธิดาฉางเอ๋อที่อยู่บนดวงจันทร์มองลงมาเห็น จึงส่งกระต่ายหยกที่ทำหน้าที่ตำยาบนดวงจันทร์ ลงมารักษามนุษย์โลก กระต่ายหยกแปลงกายเป็นหญิงสาวไปรักษาผู้คนหายจากโรค ชาวบ้านได้ตอบแทนด้วยการให้สิ่งของ แต่กระต่ายหยกก็ไม่ยอมรับ แต่ขอแค่ยืมชุดชาวบ้านใส่เท่านั้น หลังจากรักษาโรคให้ชาวบ้านเสร็จ กระต่ายหยกก็กลับขึ้นไปบนดวงจันทร์ จึงได้มีการกราบไหว้บูชาเทพเจ้ากระต่ายในวันไหว้พระจันทร์ด้วย

5. ขนมไหว้พระจันทร์กู้ชาติจีน

อีกหนึ่งความเชื่อที่เล่าต่อ ๆ กันมา เป้นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นมาของชาติจีน จักรพรรดิเจงกีสข่านแห่งมองโกลเข้ายึดครองแผ่นดินจีน ทำให้มีชาวจีนบางส่วนคิดจะปฏิวัติ จึงได้จัดเทศกาลไหว้พระจันทร์ขึ้นมาเพื่อจะนัดหมายกระทำการปฏิวัติ โดยมีการซ่อนข้อความนัดหมายวันเวลาที่จะลงมือไว้ในขนมก้อนใหญ่ที่มีไส้เยอะ ๆ ก็คือขนมไหว้พระจันทร์นั่นเอง และเมื่อถึงเวลาที่ได้นัดหมายเอาไว้ ชาวจีนก็ร่วมกันต่อสู้ทำการปฏิวัติได้สำเร็จจึงได้เอกราชคืนมา

6. ขนมไหว้พระจันทร์

สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์ก็คือ ขนมไหว้พระจันทร์ ที่ใช้เซ่นไหว้เทพเจ้าดวงจันทร์ คนจีนเรียกว่า ขนมเอี้ยปิ่ง (月饼) มีความหมายว่า ความพร้อม สมบูรณ์ และความสมหวัง ซึ่งขนมไหว้พระจันทร์ของจีนแบบดั้งเดิมจะมีส่วนประกอบ เช่น ถั่วแดง ลูกนัทจีน 5 ชนิด และเม็ดบัว ซึ่งจะต้องเป็นไส้หวานเท่านั้น แต่ในปัจจุบันมีการปรับปรุงสูตร ทำให้มีไส้ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

7. ไหว้พระจันทร์ วันละ 3 รอบ

พิธีไหว้พระจันทร์ดั้งเดิมจะไหว้ถึงวันละ 3 รอบ โดยตอนเช้าจะเป็นการไหว้เจ้า ถัดมาไหว้บรรพบุรุษ และไหว้เจ้าแม่ในตอนกลางคืน แต่ปัจจุบันนิยมไหว้แค่ตอนค่ำ โดยจะไหว้กลางแจ้งเมื่อเริ่มเห็นพระจันทร์ขึ้น และเก็บของไหว้ก่อนที่พระจันทร์เลยหัวไป

8. ผู้ชายไม่นิยมไหว้พระจันทร์

ในอดีต ชาวจีนที่เป็นผู้ชายจะไม่นิยมไหว้พระจันทร์ เพราะมีความเชื่อว่า พระจันทร์เป็นหยิน ซึ่งเป็นธาตุของผู้หญิง แต่ในปัจจุบันทั้งหญิงและชายสามารถไหว้พระจันทร์ได้ทั้งคู่ แต่จะให้ผู้หญิงเริ่มไหว้ก่อน

Written by: Typrn

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...