โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

รักพังตอน 7 ปี เรื่องจริง ความเชื่อ หรือแค่ข้ออ้างของคนหมดใจ!?

LINE TODAY ORIGINAL

เผยแพร่ 19 ส.ค. 2565 เวลา 04.24 น. • nawa.

ผู้อ่านเคยมีความเชื่อต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาก ๆ ไหมคะ บางคนอาจจะเชื่อในเรื่องดูดวง บางคนอาจจะเชื่อในเรื่องวิทยาศาสตร์ บางคนอาจจะเชื่อไสยศาสตร์ ว่ากันว่าพอเป็นความเชื่อแล้ว มันไม่มีอะไรถูกผิด ตราบที่ความเชื่อเหล่านั้นไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น

ความเชื่อบางเรื่องก็เป็นของคนกลุ่มหนึ่ง แต่บางเรื่องก็เป็นความเชื่อระดับอินเตอร์ เคยได้ยิน ‘อาถรรพ์ความรัก 7 ปี’ กันใช่ไหมคะ นี่เป็นอีกความเชื่อที่เข้มข้นระดับโลก หมายถึงว่ามีคนอีกจำนวนมากที่คิดว่าอาถรรพ์เลข 7 มีอยู่จริง และมีผลต่อความสัมพันธ์ของคน แล้วจริง ๆ มันเป็นแค่ความเชื่อ ข้ออ้าง หรือความจริงกันแน่ ถ้าใครสักคนต้องเลิกรากับคนรักเมื่อเข้าปีที่ 7 ?

ความเชื่อเกี่ยวกับเลข 7

คนไทยเชื่อว่าเลข 7 เป็นเลขไม่มงคล มักจะเกี่ยวโยงกับความทุกข์ยาก ความลำบากทั้งหลาย ขยับมาทางเกาหลีเชื่อว่าเลข 7 เป็นเลขที่ดี มีพลังนำโชคซ่อนอยู่ รวมถึงในภาษาญี่ปุ่นเองคำว่า 7 ก็ยังแปลว่าโชคดีอีกด้วย ส่วนชาวต่างชาติเลข 7 มีความเชื่อที่แยกไปสองทางคือ 7 เป็นทั้งลัคกี้นัมเบอร์ในสายตาของนักเสี่ยงโชค โดยเฉพาะ 777 ที่เป็นเลขแจ็กพอตแตกของตู้สล็อตแมชชีน ส่วนอีกทางหนึ่งก็ผูกติดกับเรื่องความโชคร้ายของความรักนี่แหละค่ะ

ร่างกายและจิตใจเปลี่ยนแปลงทุก ๆ 7 ปี

ในทางวิทยาศาสตร์และพฤติกรรมนั้น มนุษย์เราจะมีการเปลี่ยนแปลงทุก ๆ 7 ปีเป็นวัฏจักร ตั้งแต่ระดับเซลล์ในร่างกายที่จะเกิดใหม่ทดแทนเซลล์เดิมเวียนวนไป ทำให้ร่างกายอยู่ทนอยู่นานได้เรื่อย ๆ ส่วนในทางจิตใจ ก็ว่าความรู้สึกนึกคิดของเราจะเปลี่ยนแปลงไปจาก 7 ปีก่อนค่อนข้างมาก เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อะไรที่ 7 ปีที่แล้วเคยเชื่อก็อาจจะไม่เชื่อแล้วหรือรู้จักคิดลึกซึ้งให้มากขึ้น

ลองย้อนกลับไปในช่วงวัยที่ผ่านมาทุก ๆ 7 ปี ก็จะรู้สึกถึงความแตกต่างของความคิดความอ่านอย่างชัดเจน เช่น วัย 28 มองย้อนไปตอนวัย 21 ปี ก็จะเห็นเราในเวอร์ชันที่ต่างกัน

ความรักก็เช่นกัน

‘7-Year Itch’ หรืออาถรรพ์ชีวิตรัก 7 ปี คนจำนวนมากทั่วโลกมีความเชื่อว่า พอเข้าสู่ช่วงคบกัน 7 ปีแล้วความรักจะขรุขระ จากที่เคยรักกันก็เริ่มระหองระแหง จากที่เคยเอาใจใส่กันก็เริ่มจืดจาง จนในที่สุดก็ต้องเลิกกันไป

เคยมีงานวิจัยจาก National Center for Health Statistics ของสหรัฐอเมริกา สำรวจสถิติการหย่าของคู่(เคย)รัก ว่าในช่วงปี 1922 (ซึ่งนานมากแล้ว) ว่า คนมักจะหย่ากันในช่วงปีที่ 6 ของการแต่งงาน หลังจากนั้นก็มีการสำรวจอีกครั้งในปี 1974 พบว่า คนจะหย่ากันในช่วงปีที่ 7 ของการแต่งงานซึ่งสอดคล้องกับอีกงานวิจัยของปี 1990 เช่นกัน ส่วนงานวิจัยที่ใกล้เคียงปัจจุบันขึ้นมาหน่อยก็จะมีของปี 2012 ที่คู่รักจะแยกทางกันหลังแต่งงานประมาณ 10-12 ปี

อะไรทำให้ความรักเริ่มหมดอายุในช่วง 7 ปี

ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความสัมพันธ์คนหนึ่งให้ข้อมูลว่า เราต่างทุ่มเทพลังไปกับการสร้างความรักและความสัมพันธ์ให้เกิดขึ้นมากกว่าการพยายามรักษาความสัมพันธ์ที่มีอยู่ไว้ให้ดีเสียอีก และในช่วงแรกของความสัมพันธ์คู่รักจะให้ใจไปกับอีกฝ่ายมากกว่าตัวเอง คือพยายามมอบสิ่งดี ๆ ให้กับคนรักให้สุดความสามารถ และหากโชคดี ความต้องการของทั้งสองคนจะมาบรรจบกันกลายเป็นความรักที่แสนประเสริฐ แต่หากโชคร้าย ความต้องการไม่ตรงกัน ไม่เท่ากัน ไม่พอใจซึ่งกันและกัน จะกลายเป็นความสัมพันธ์ที่แย่ลงเรื่อย ๆ จากการโฟกัสที่ฝ่ายตรงข้าม ช่วงนี้เองที่เราจะเริ่มกลับมาโฟกัสที่ตัวเอง ทำให้ไม่ได้สนใจคู่รักมากเหมือนเดิมแล้ว ความห่างเหินหรือความร้าวฉานอาจเริ่มที่ตรงนี้เอง และพอเวลานานไปก็จะยิ่งเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม

บวกกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น หากมีลูกต้องดูแล จากการที่ต้องดูแลแค่กันและกัน 2 คนเท่านั้น กลับกลายเป็นต้องแบ่งเวลาไปให้ลูก ทำให้ชีวิตคู่รักอาจเหงาหงอยลงได้ส่วนหนึ่งด้วย

ที่สำคัญเลยคือ ปัญหาการสื่อสารระหว่างกัน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของชีวิตคู่ อะไรที่เคยพูด เคยบอกกัน เวลาผ่านไปก็อาจจะไม่อยากพูดซ้ำ ๆ อีกแล้ว โดยเฉพาะหากพูดแล้วอีกฝ่ายไม่ได้มีการปรับปรุงแก้ไขตัวเองเลย ก็กลายเป็นความเบื่อหน่ายและหมดใจโดยไม่รู้ตัว

รวมถึงความพึงพอใจที่ลดลงเรื่องอื่น ๆ ด้วย เช่น ความสัมพันธ์บนเตียงที่ไม่หวือหวาเหมือนเมื่อก่อน, ความชินชาที่มีต่อกัน, ความรู้สึกไม่ซู่ซ่าเหมือนตอนจีบกันแรก ๆ หลายอย่างพัวพันกันจนเกิดเป็นความแตกแยกได้

อาจเพราะความเชื่อนำทางความเป็นจริง

เป็นไปได้ว่าส่วนหนึ่งเพราะคนเราปักใจเชื่อไปแล้วว่า ‘เดี๋ยวพอ 7 ปี รักเราอาจจะมีปัญหา’ พอจิตเป็นนายกายเป็นบ่าวปุ๊บ เมื่อมีอะไรมาแตะความสัมพันธ์นิด ๆ หน่อย ๆ ก็มักจะโยงเข้าไปสู่ความคิดตั้งต้นอันนั้น ทำให้ทุกอย่างมันเลยดูแย่ลง ๆ ก็เป็นไปได้เช่นกัน

หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ

แม้ว่ายังไม่มีข้อสรุปแบบฟันธง 100% ว่า 7 ปีอาถรรพ์มีจริงหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ ยิ่งคบกันนานวัน ยิ่งต้องใส่ใจกันให้มากขึ้นหรือใส่ใจกันเหมือนวันแรกที่รักกัน เพราะสุดท้ายแล้วความสัมพันธ์จะยืดยาวหรือไม่ อาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลาเสมอไป แต่คำตอบอาจอยู่ที่ความสม่ำเสมอของความรักที่มีให้ต่อกันมากกว่า คนรักกันจะวันเดียวหรือชั่วชีวิตก็รักกัน แต่คนที่ไม่รักกันแล้วก็อาจจะต้องแยกย้ายกันไปเติบโตก่อนเข้าสู่ 7 ปีก็ได้!

.

ขอบคุณข้อมูลจาก

-yourtango.com

-apost.com

-talkspace.com

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...