โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ยานยนต์

ไฟหน้าแยงตา ปัญหาที่ก่อตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะค่ายรถทำให้ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรมแค่นั้น

AutoFun Thailand

อัพเดต 19 เม.ย. 2566 เวลา 00.00 น. • เผยแพร่ 22 ก.พ. 2566 เวลา 08.56 น. • Mr.Argus
ปัญหาไฟหน้าแยงตา เกิดจากการพัฒนาไฟหน้า และรูปทรงรถยนต์รุ่นใหม่ รวมถึงกฎข้อบังคับเกี่ยวกับไฟหน้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงมานานหลายทศวรรษแล้ว

ปัญหาไฟหน้าแยงตา เกิดจากการพัฒนาไฟหน้า และรูปทรงรถยนต์รุ่นใหม่ รวมถึงกฎข้อบังคับเกี่ยวกับไฟหน้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงมานานหลายทศวรรษแล้ว

John Bullough ผู้อำนวยการโครงการที่ Light and Health Research Center ของ Icahn School of Medicine ที่ Mount Sinai ได้ส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับหัวข้อนี้มาหลายปีแล้ว เขากล่าวว่ามีปัจจัยหลัก 3 ประการที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ไฟหน้าดูสว่างขึ้นและทำให้เกิดแสงสะท้อนมากขึ้น

ประการแรก รถยนต์มีมิติสูงขึ้นเรื่อย ๆ ประการสองคือ สีของไฟหน้าหลายรุ่นได้เปลี่ยนจากสีเหลืองที่อุ่นขึ้นเป็นสีขาวอมฟ้าที่เข้มขึ้น และประการสุดท้าย รถยนต์ส่วนใหญ่มีไฟหน้าดวงหนึ่งวางไม่ตรงแนว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้กลายเป็นปัญหาร้ายแรง

ปัญหาไฟหน้าแยงตา เกิดจากการพัฒนาไฟหน้า และรูปทรงรถยนต์รุ่นใหม่ รวมถึงกฎข้อบังคับเกี่ยวกับไฟหน้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงมานานหลายทศวรรษแล้ว

ปัญหาไฟหน้าไม่ตรงแนว

นาย Bullough คนเดิมกล่าวว่า ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ การที่รถยนต์มักมีไฟหน้าไม่ตรงแนว "เราทำการตรวจวัดจริงเมื่อไม่นานมานี้ และพบว่าประมาณ 2 ใน 3 ของรถยนต์ทุกคันมีไฟหน้าอย่างน้อยหนึ่งดวง ที่ปรับตำแหน่งเล็งไว้สูงเกินไป ซึ่งสร้างแสงสะท้อนมาก อันไปจำกัดการมองเห็นสำหรับผู้ขับขี่รายอื่น"

ประเด็นสำคัญคือ ในขณะที่มีการผลิตรถยนต์ปัจจุบันนี้ ไม่มีหน่วยงานเฉพาะที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลการจัดตำแหน่งไฟหน้านี้ อ้างอิงจาก Matt Brumbelow วิศวกรวิจัยอาวุโสของ Insurance Institute for Highway Safety อธิบายว่ากฎระเบียบของรัฐบาลกลางเกี่ยวกับไฟหน้ารถยนต์เป็น "มาตรฐานตามอุปกรณ์เท่านั้น" โดยหลังจากการติดตั้ง "ไม่มีการทดสอบใด ๆ เพื่อให้แน่ใจว่ายังคงส่องอย่างถูกต้อง หรือให้แสงสว่างเพียงพอบนท้องถนน และไม่แยงตาผู้ขับขี่รายอื่น" Brumbelow กล่าว

ปัญหาไฟหน้าแยงตา เกิดจากการพัฒนาไฟหน้า และรูปทรงรถยนต์รุ่นใหม่ รวมถึงกฎข้อบังคับเกี่ยวกับไฟหน้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงมานานหลายทศวรรษแล้ว

การเปลี่ยนสีของไฟหน้ารถยนต์

ในขณะที่รถยนต์มีความทันสมัย ผู้ผลิตหลายรายได้เลิกใช้หลอดฮาโลเจนมาตรฐาน ซึ่งให้แสงสีเหลือง แทนที่ด้วยหลอด LED ซึ่งมักจะให้แสงสีขาวที่มีสีน้ำเงินมากกว่า ตามการอ้างจาก Mark Rea ศาสตราจารย์แห่ง Mount Sinai Icahn School of Medicine กล่าวว่า แสงสีโทนเหลืองอบอุ่นจะอ่อนโยนต่อสายตามนุษย์กว่า

ความส่องแสงของไฟ LED ดูเหมือนจะสว่างกว่าไฟหน้าฮาโลเจน แม้จะสร้างกำลังเทียนในปริมาณที่เท่ากัน เนื่องจากมีแสงสีน้ำเงินที่เพิ่มเข้ามา "ดวงตามีความไวต่อความยาวคลื่นสีน้ำเงินเหล่านั้น แต่เครื่องวัดแสงไม่ใช่" Rea กล่าวเสริม ทำให้สายตาเราตอบสนองต่อแสง LED ได้ดีกว่า แต่ก็ทำร้ายสายตามากกว่าไปในตัว

ปัญหาไฟหน้าแยงตา เกิดจากการพัฒนาไฟหน้า และรูปทรงรถยนต์รุ่นใหม่ รวมถึงกฎข้อบังคับเกี่ยวกับไฟหน้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงมานานหลายทศวรรษแล้ว

ปัญหาตัวถังรถสูง

ปัญหาแสงแยงตาอีกอย่างคือ การออกแบบรูปทรงที่สูงขึ้น เช่น เอสยูวี รถกระบะ นั่นหมายความว่า แถบลำแสงไฟหน้าจะสูงขึ้นด้วย นั่นหมายความว่าจะมีโอกาสมากขึ้นในการสร้างแสงสะท้อนใส่ผู้ขับขี่รายอื่นเช่นกัน แม้ว่าจะมีมาตรฐานอุตสาหกรรมกำหนดความสูงไฟหน้าแล้วก็ตาม แต่ว่าในระยะความสูงที่ใช้เหล่านี้ ก็สามารถสร้างมุมสะท้อนเข้มข้นจากเลนส์โคมสะท้อน และความสูงรถที่เพิ่มขึ้นจากรถเก๋งเดิม นี่ยังไม่นับรวมการบรรทุกหนักจนหน้าเชิด ทำให้ไฟหน้าพุ่งขึ้นไปสู่หน้าคนขับรถที่สวนมามากขึ้น

อ่านเพิ่มเติม : ไฟตัดหมอกไม่ใช่ไฟส่องทาง เปิดมั่วจะโดนปรับแถมโดนด่าด้วย

ปัญหาไฟหน้าแยงตา เกิดจากการพัฒนาไฟหน้า และรูปทรงรถยนต์รุ่นใหม่ รวมถึงกฎข้อบังคับเกี่ยวกับไฟหน้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงมานานหลายทศวรรษแล้ว

วิธีแก้ไข ระบบปรับได้เอง

ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 หน่วยงานความปลอดภัยการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติ ได้ออกกฎอย่างเป็นทางการ ให้ผู้ผลิตรถยนต์ติดตั้งไฟหน้าลำแสงขับขี่แบบปรับได้ เทคโนโลยีนี้ถูกกฎหมายในประเทศส่วนใหญ่นอกสหรัฐอเมริกา แต่อย่าคาดหวังว่าจะได้เห็นในเร็ว ๆ นี้บนถนนในอเมริกา เนื่องจากข้อบังคับของ NHTSA ที่ซับซ้อนเกี่ยวกับลำแสงแบบปรับได้ ซึ่งแตกต่างจากยุโรปอย่างมาก

หลักการทำงานคือ ลำแสงการขับขี่แบบปรับอัตโนมัติ จะปรับไฟสูงขึ้นลงโดยอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ เพื่อหลีกเลี่ยงการบดบังคนเดินถนนและผู้ขับขี่รายอื่น โดยยังสามารถใช้หลอด LED ที่มีแสงสีฟ้าอยู่เช่นเดิม

ผู้ผลิตอาจใช้เวลา 2-3 ปีในการตรวจสอบว่าไฟสูงหรือเทคโนโลยีลำแสงแบบปรับได้เป็นไปตามข้อกำหนดที่ NHTSA กำหนดหรือไม่ ดังนั้นผู้ใช้ถนนจึงต้องทนแสบตากันไปอีกหลายปี

อ่านเพิ่มเติม : มันจ้าซะเหลือเกิน ถูกไฟหน้ารถอื่นแยงตา ถ้าแก้ที่ต้นเหตุไม่ได้ ให้เริ่มแก้ที่ตัวเราด้วย 3 ข้อนี้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...