โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

รีวิวกองทุน TEMxCH หนีภาษี (นำเข้า) คว้าโอกาสในตลาดเกิดใหม่

Finnomena

อัพเดต 26 มิ.ย. เวลา 02.51 น. • เผยแพร่ 25 มิ.ย. เวลา 14.46 น. • Finnomena Funds

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนกำลังเขย่าภูมิทัศน์ของการลงทุนทั่วโลก เมื่อภาษีนำเข้ากลายเป็นอาวุธหลักในเกมภูมิรัฐศาสตร์ แนะนำกองทุน TEMxCH คว้าโอกาสในหุ้นตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพเติบโต และได้ประโยชน์จาก Trade War

แม้ทั้ง 2 ประเทศจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้า (Trade Deal) ได้ในระดับหนึ่ง แต่มาตรการภาษีนำเข้า (Tariff) ยังไม่ถูกยกเลิกอย่างชัดเจน กลายเป็นแรงผลักดันให้ภาคธุรกิจเร่งกระจายความเสี่ยงออกจากจีนไปยังประเทศอื่น หรือกลยุทธ์ China+1 ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของโอกาสใหม่ในกลุ่ม EM ex-China (ตลาดเกิดใหม่ยกเว้นจีน)

และนี่คือภาพรวมว่า “ใครได้ – ใครเสีย” จากแรงกระเพื่อมของ Tariff ในกลุ่มประเทศเกิดใหม่

TEMxCH

เวียดนาม: โรงงานโลกแห่งใหม่

เวียดนามกลายเป็นดาวรุ่งในสายตานักลงทุนทั่วโลก ด้วยการเป็น “ตัวเลือกอันดับ 1” ของกลยุทธ์ China+1 ด้วยต้นทุนแรงงานต่ำและสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับสหรัฐฯ

แม้จะมีปัญหาจากการอ่อนค่าของเงินดอง (VND) และการไหลออกของเงินทุนบางช่วง แต่กระแสเงินลงทุนจากต่างชาติเริ่มกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะในดัชนี VN30 ที่มี P/E เพียง 10.0 ขณะที่ EPS ปีนี้อยู่ที่ 126.2 และปีหน้าอยู่ที่ 156.2 สะท้อนมุมมองเชิงบวกจากนักวิเคราะห์

อินเดีย: ดาวรุ่งของตลาดเกิดใหม่

อินเดียถือเป็นประเทศที่ได้ประโยชน์สูงจากกระแส China+1 ด้วยบทบาทพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ขนาดตลาดในประเทศที่ใหญ่ และศักยภาพในการทดแทนจีนในด้านแรงงาน เทคโนโลยี และการผลิตระยะยาว

ด้านตลาดหุ้น ดัชนี Nifty 50 มี P/E อยู่ที่ 20.4 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว และ EPS ปีนี้อยู่ที่ 1,148.8 และปีหน้า 1,288.9 ชี้ให้เห็นถึงความคาดหวังในศักยภาพการเติบโตต่อเนื่อง

ไทย: หุ้นถูก ปันผลดี แต่การเมืองกดดัน

ประเทศไทยมีแนวโน้มได้ประโยชน์จากการเป็นฐานการผลิตที่ครบวงจรในอาเซียน และสินค้าส่งออกหลักไม่ทับไลน์กับที่สหรัฐฯ กำลังกีดกัน เช่น ยานยนต์ อาหาร และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

ถึงแม้เศรษฐกิจภายในยังซบเซา จากจำนวนท่องเที่ยวจีนที่ยังไม่ฟื้นเต็มที่ (เม.ย. 2025 มีนักท่องเที่ยวจีนเพียง 0.31 ล้านคน) และความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังไม่ฟื้นชัดเจน แต่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวเล็กน้อย

ด้านตลาดหุ้นไทย SET Index ถือว่ามี Valuation ที่ “ถูกมาก” โดยมี P/E เพียง 11.8 เท่า และ EPS ปีนี้อยู่ที่ 91.4 บาท ส่วน SETHD Index ซึ่งเน้นหุ้นปันผล มี P/E ต่ำเพียง 9.7 เท่า และ EPS ปีนี้อยู่ที่ 106.7 บาท

จุดแข็งอีกอย่างของหุ้นไทยคืออัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่สูงมาก โดย SETHD ให้ Dividend Yield สูงถึง 5.63% และ SET ให้เฉลี่ย 4.4% ซึ่งสูงกว่าพันธบัตรไทย

อินโดนีเซีย: หมุดยุทธศาสตร์แร่ EV

ถือเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างได้ประโยชน์ เนื่องจากประเทศนี้มีทรัพยากรสำคัญอย่าง “นิกเกิล” ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่สหรัฐฯ ต้องการเพื่อลดการพึ่งพาจีนในห่วงโซ่อุปทานโลหะและวัตถุดิบสำคัญ โดยอินโดนีเซียจึงกลายเป็นหมุดยุทธศาสตร์ด้านวัตถุดิบของโลกในยุคนี้

ไต้หวัน: Tech Powerhouse กับเงาแห่งความเสี่ยง

ไต้หวันมีบทบาทเป็น “Tech Powerhouse” ของเอเชีย โดย MSCI Taiwan Index มีสัดส่วนกลุ่มเทคโนโลยีสูงถึง 78.7% และหุ้น TSMC ครองน้ำหนักมากถึง 52.1% ในดัชนี

แม้จะได้ประโยชน์จากความต้องการ Semiconductor ทั่วโลก แต่ไต้หวันยังคงเป็นภูมิภาคที่มีความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์สูงที่สุด โดยเฉพาะความขัดแย้งกับจีนแผ่นดินใหญ่

ขณะที่ Valuation ของตลาดหุ้นไต้หวันยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ P/E ของดัชนีอยู่ที่ 15.7 โดย EPS ปีนี้ 53.2 และปีหน้า 60.5

ส่วน TSMC เองมี EPS ปีนี้ 59.1 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 68.1 ในปีหน้า พร้อมกับแผนเพิ่มรายได้จาก AI Accelerators เป็น 2 เท่าในปี 2025

เกาหลีใต้: เทคฯ ยังแกร่ง แต่ภาษีลากลง

แม้เกาหลีใต้จะมีข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสหรัฐฯ เป็นกันชน แต่สินค้าอย่างรถยนต์และเหล็กยังเผชิญแรงกดดันจากมาตรการกีดกันของสหรัฐฯ

รัฐบาลเกาหลีกำลังพิจารณางบประมาณเสริม 30 ล้านล้านวอน (ประมาณ 7 แสนล้านบาท) เพื่อฟื้นเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดหุ้น KOSPI ได้แรงหนุนจากการเมืองภายในและแนวโน้มฟื้นตัวของรายได้บริษัท โดยเฉพาะในกลุ่ม Semiconductor ที่ยังมีแนวโน้มดี แม้รายได้จาก Memory Chip เริ่มชะลอลง

ขณะที่ P/E ของ KOSPI อยู่ที่ 9.7 เท่านั้น โดย EPS ปีนี้อยู่ที่ 278.6 และปีหน้า 321.6 ชี้ถึงความคาดหวังต่อกำไรที่แข็งแกร่ง แม้ราคาหุ้นจะยังไม่สะท้อนเต็มที่

บราซิล: ภาษีกดดัน แต่มีโอกาสจากเกษตร

อยู่ในสถานะก้ำกึ่ง ค่อนไปทางเสียประโยชน์ เพราะต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ แต่ในขณะเดียวกัน บราซิลยังมีโอกาสได้ประโยชน์จากการส่งออกสินค้าเกษตรไปจีนที่อาจทดแทนสินค้าที่เดิมสหรัฐฯ ส่งออกไป ทำให้สถานการณ์โดยรวมมีทั้งโอกาสและความเสี่ยงผสมกัน

ญี่ปุ่น: อุตสาหกรรมแกร่ง แต่ไร้เกราะป้องกันภาษี

ถือเป็นกลุ่มที่เสียประโยชน์อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นหัวใจของเศรษฐกิจญี่ปุ่น ที่กำลังเผชิญแรงกดดันเต็มที่จากมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งญี่ปุ่นไม่มีข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสหรัฐฯ เป็นกันชนให้เหมือนเกาหลีใต้ ทำให้ญี่ปุ่นอยู่ในสถานะตั้งรับและถูกบีบให้ต้องเจรจาปรับตัวในหลายด้าน

สหภาพยุโรป (EU): อำนาจต่อรองลดลง แรงกดดันหลากหลาย

กลุ่มนี้ก็เป็นกลุ่มที่เสียประโยชน์เช่นกัน มีความเสี่ยงด้านภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐฯ เช่นเดียวกับญี่ปุ่น และยังต้องเผชิญกับข้อขัดแย้งในหลายมิติ เช่น ภาษีดิจิทัล ภาษีเกษตรกรรม รวมถึงอำนาจต่อรองในเวทีการค้าระหว่างประเทศที่ลดลงจากนโยบายกีดกันของสหรัฐฯ

จีน: ศูนย์กลางพายุ

จีนคือประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ มากที่สุด โดยเฉพาะจากมาตรา 301 และภาษีตอบโต้ที่ทำให้สินค้ากว่า 50% ต้องเจออัตราภาษีสูงถึง 30–55% ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออก การลงทุน และความเชื่อมั่น

แม้เศรษฐกิจจีนยังมีสัญญาณฟื้นตัวจาก Hard Data เช่น ยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรม แต่ Soft Data อย่างความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังเปราะบาง ขณะที่ค่าเงินหยวนยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่า

ขณะที่ดัชนีหุ้นจีน H-shares มี P/E อยู่ที่ 9.6 โดย EPS ปีนี้อยู่ที่ 862.5 และปีหน้า 944.4 แม้ Valuation จะดูถูก แต่แรงกดดันจากนโยบายและความเสี่ยงเชิงโครงสร้างยังสูงอยู่มาก

กองทุนแนะนำ TEMXCH ถึงเวลาหนีภาษี (นำเข้า)

กองทุน TEMXCH หรือ กองทุนเปิด ทิสโก้ อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต เอ็กซ์ ไชน่า เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตลาดเกิดใหม่ (ยกเว้นจีน) โดยลงทุนผ่านกองทุนหลักคือ Invesco Emerging Markets ex-China Equity ซึ่งมีจุดเด่นคือการคัดเลือกหุ้นประมาณ 45 ตัวทั่วโลกจากตลาดเกิดใหม่ เน้นหุ้นที่มีพื้นฐานดี มีศักยภาพเติบโต และราคายังสมเหตุสมผล

โครงสร้างพอร์ตลงทุนปัจจุบันเน้นไปที่กลุ่มเทคโนโลยี นำโดยยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung Electronics และ TSMC ซึ่งสะท้อนมุมมองบวกต่อการฟื้นตัวของ Global Tech Cycle ที่เริ่มกลับมาอีกครั้ง

น้ำหนักการลงทุน TEMxCH

น้ำหนักการลงทุนของกองทุนหลัก แยกตามภูมิภาคและอุตสาหกรรม | Source: Invesco

ในเชิงภูมิภาค กองทุนกระจายการลงทุนอย่างหลากหลาย ทั้งเอเชีย ลาตินอเมริกา แอฟริกา และยุโรปตะวันออก โดยมีน้ำหนักมากในเกาหลีใต้และบราซิล ขณะที่อินเดียถูกจัดอยู่ในสถานะ Underweight เพื่อคุมความเสี่ยงจาก Valuation ที่ค่อนข้างสูง

ผลตอบแทนย้อนหลัง

ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (กองทุนหลัก) | Source: Invesco

อีกจุดเด่นคือ ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนจนถึงปัจจุบัน กองทุนให้ผลตอบแทนสะสมถึง 14.19% ซึ่งสูงกว่าดัชนีอ้างอิงที่อยู่ที่12.83% สะท้อนถึงคุณภาพของกระบวนการคัดเลือกหุ้นเชิงรุก (Active Selection) ได้เป็นอย่างดี

สนใจลงทุนกองทุน TEMXCH คว้าโอกาสในหุ้นตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพเติบโต และได้ประโยชน์จาก Trade War

คลิกที่นี่เพื่อซื้อกองทุน

อ้างอิง: Finnomena Live, Invesco

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...