โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

รัฐบาลจีน เรียกประชุมค่ายรถ EV เตือนให้หยุดสงครามทุบราคา

Reporter Journey

อัพเดต 10 มิ.ย. เวลา 12.46 น. • เผยแพร่ 10 มิ.ย. เวลา 05.46 น. • Reporter Journey

สงครามราคารถยนต์ไฟฟ้าจีน ที่แต่ละค่ายหั่นราคาขายรถลงแทบจะรายวันแบบลดกระหน่ำ 20-30% เพื่อกวาดลูกค้าให้เข้ามาซื้อรถของค่ายตัวเอง กำลังบั่นทอนอุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนให้กลายเป็นของถูก คุณภาพห่วย จนเกิดวลีล้อเลียนรถจีนว่า “ซื้อก่อนประหยัดก่อน แต่ซื้อหลังประหยัดกว่า” หรือ “ไฟแนนซ์ผ่านง่าย เสี่ยงตายกับประกันไม่รับเคลม” ซึ่งปัญหาสงครามทุบราคานี้กำลังเกิดขึ้นอย่างรุนแรงในประเทศจีน โดยผู้ที่ก่อสงครามคือ BYD ค่ายรถยักษ์ใหญ่ที่สุดของจีนทั้งในแง่ปริมาณการผลิตและยอดจำหน่าย ที่ประกาศลดราคารถบางรุ่นสูงถึง 34% เหลือเพียงคันละไม่ถึง 2.5 แสนบาทเท่านั้น ส่งผลทำให้หลายค่ายต้องประกาศลดราคารถยนต์ของตัวเองลงเช่นกัน จนนำไปสู่ภาวะกำไรน้อย ไม่ก็เข้าเนื้อจนตัวเจ็บไปถ้วนหน้า

รัฐบาลจีนเกรงว่าถ้าปล่อยให้เล่นสงครามราคาแบบนี้ต่อไป มีแต่จะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์จีนพังพินาศลงในสักวัน และกระทบต่อความเชื่อมั่นและคุณภาพของสินค้าจีนในสายตาชาวโลกที่เดิมทีก็มีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีอยู่แล้ว ให้เลวร้ายลงไปอีก จึงได้มีการเรียกผู้บริหารค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของจีนไปประชุมที่กรุงปักกิ่งด่วน ซึ่งเจ้าภาพการประชุมคือกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ หน่วยงานกำกับดูแลตลาด และสำนักงานวางแผนเศรษฐกิจสูงสุดของประเทศ

สำหรับผู้บริหารระดับสูงจากผู้ผลิตรถยนต์มีจำนวนมากกว่าสิบรายที่ถูกเรียกตัวให้เข้าประชุม รวมถึง Zhejiang Geely Holding Group และ Xiaomi ด้วย

ทางการของจีนได้เตือนให้ผู้ผลิตรถยนต์ควบคุมตนเองและหลีกเลี่ยงการขายรถยนต์ต่ํากว่าต้นทุน หรือเสนอส่วนลดมากเกินไป เพราะการกระทำดังกล่าวจะนําไปสู่การแข่งขันที่ไม่ยั่งยืน ส่งผลต่อความตึงเครียดทางการเงินทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทาน และการล้มละลายที่อาจเกิดขึ้นของบริษัทที่อ่อนแอกว่า ซึ่งทำให้การแข่งขันการพัฒนาในอุตสาหกรรมหยุดชะงัก

นอกจากนี้ยังได้หารือถึงประเด็นต่าง ๆ เช่น รถ “ศูนย์กิโลเมตร” (รถยนต์ที่ได้มีการจดทะเบียนและขายไปแล้ว แต่แทบไม่มีการใช้งานจริง มีเลขไมล์ใกล้เคียงกับศูนย์) และปัญหาค่าใช้จ่ายที่ค้างชำระให้กับซัพพลายเออร์ ซึ่งกำลังบีบกระแสเงินสดในห่วงโซ่อุปทาน

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน เพราะหน่วยงานกำกับดูแลด้านตลาด อุตสาหกรรม และเศรษฐกิจของประเทศต้องออกโรงเรียกให้ทุกฝ่ายมาพูดคุยพร้อมกันรวมทั้งภาคเอกชนอย่างค่ายรถที่เป็นต้นตอของปัญหา สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลจีนกำลังให้ความสำคัญกับภาคส่วนนี้อย่างยิ่ง เพราะการเล่นสงครามราคาอย่างรุนแรงคือการทำลายความยั่งยืนของอุตสาหกรรม และอาจทำให้บริษัทรถยนต์อีกจำนวนไม่น้อยต้องล้มละลาย เหมือนกับหลายค่ายที่ทะยอยปิดกิจการไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นก็เกิดกับผู้บริโภคที่ต้องมารับกรรมจากการซื้อรถแล้ว

นับตั้งแต่ที่สงครามทุบราคาก่อตัวขึ้นรอบล่าสุดเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมจากการที่ BYD ประกาศลดราคารถยนต์บางรุ่นลงสูงสุดถึง 34% ส่งผลทำให้หุ้นของผู้ผลิตรถยนต์จีนร่วงลงทั่วกระดานในวันศุกร์ โดยหุ้นของ BYD ร่วงลงมากถึง 2.7% ขณะที่ Xiaomi ลดลง 2.4% ส่วน Geely Automobile Holdings ที่จดทะเบียนในฮ่องกง ลดลง 1.7% นำไปสู่เสียงวิจารณ์จากสมาคมอุตสาหกรรมและสื่อของรัฐ และนักลงทุนเริ่มขาดความมั่นใจต่อบริษัทและอุตสาหกรรมยานยนต์จีน

สมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีนกล่าวว่า การดําเนินการโดยบริษัทใดบริษัทหนึ่งได้สร้าง "ความตื่นตระหนกของสงครามราคา" รอบใหม่ ทําให้อุตสาหกรรมเข้าสู่ "วงจรอุบาทว์" และเป็นอันตรายต่อห่วงโซ่อุปทาน สงครามราคาที่ไร้การควบคุมจะทําให้การแข่งขันที่ดุเดือดอยู่แล้วทวีความรุนแรงขึ้น การบีบให้อัตราผลกําไรของบริษัทได้น้อยลงไปอีก

สื่อของรัฐบาลจีน รวมถึงสำหนักข่าวซินหัว และ The People's Daily หนังสือพิมพ์ของพรรคคอมมิวนิสต์ได้เผยแพร่รายงานที่เรียกร้องให้ยุติการสงครามลดราคาอย่างบ้าคลั่ง โดยขอให้ผู้ผลิตรถยนต์ให้ความสําคัญกับคุณภาพและความมั่นคงของอุตสาหกรรม เพราะกลยุทธ์ดังกล่าวอาจนําไปสู่ผลผลิตที่มีคุณภาพต่ําและทําให้ภาพลักษณ์ระหว่างประเทศของผลิตภัณฑ์ของจีนเสื่อมเสียชื่อเสียง

จากข้อมูลของที่ปรึกษาด้านบัญชี GMT Research หนี้สุทธิที่แท้จริงของ BYD อาจสูงถึง 3.23 แสนล้านหยวน ซึ่งสูงกว่า 2.77 หมื่นล้านหยวนที่ระบุไว้ในการเปิดเผยงบการเงินกลางปี 2024 อย่างมีนัยสําคัญ บริษัทกล่าวว่าช่องว่างอาจเกิดจากการปฏิบัติของ BYD ในความล่าช้าในการชําระเงินของซัพพลายเออร์และกลยุทธ์การจัดหาเงินทุนที่ยุ่งยาก

ด้านโฆษกจาก Geely อ้างถึงคําพูดล่าสุดของประธาน Li Shufu ซึ่งเขากล่าวว่าบริษัท "ต่อต้านสงครามราคา" นอกจากนี้ ในการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์ย้ําว่าจะยังคงทํางานร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อปรับปรุงการกํากับดูแลอุตสาหกรรมยานยนต์และสร้างสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันที่เป็นธรรม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...