โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

หวั่นฆาตกรรม! แรงงานอิสราเอลผูกคอดับปริศนา ทั้งที่เพิ่งถูกหวย 2 หมื่น

Amarin TV

เผยแพร่ 10 มิ.ย. เวลา 12.31 น.
หวั่นฆาตกรรม! ญาติร่ำไห้แรงงานอิสราเอลผูกคอดับ ทั้งที่ไม่มีวี่แวว พ่อตาเผยเพิ่งถูกหวย 2 หมื่นไม่เชื่อลูกเขยจะคิดสั้น เมียวอนสถานทูตช่วยตรวจสอบไขปริศนา

หวั่นฆาตกรรม! ญาติร่ำไห้แรงงานอิสราเอลผูกคอดับ ทั้งที่ไม่มีวี่แวว พ่อตาเผยเพิ่งถูกหวย 2 หมื่นไม่เชื่อลูกเขยจะคิดสั้น เมียวอนสถานทูตช่วยตรวจสอบไขปริศนา

วันที่ 10 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ “Sasikan Seesukhu” โพสต์รูปภาพ พร้อมระบุข้อความ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 68 ว่า “รอดมาเบิ้ด ตั้งแต่สงคราม กระดูกซีกโครงหัก รถล้มตาเกือบบอดกะรอดมาเบิ้ด ไสว่าอ้ายเก่งกะด้อบ่ตายหนีจากง่ายดอกไส ว่าจะกลับมาหาไส ว่าจะกลับมายุนำไส ว่าจะลงทุนไห้ขายของอยุ่บ้าน ถ้าไสว่าคิดฮอดลูกชายแล้วหนึ่งกับบักหล่าจะอยุ่จั่งใด เป็นหยังคือถิ่มกันไปง่ายคักแท้ อามบ่อยากไห้กลับมาหาแบบนี้ โอ้ยน้ออามเอ่ยใจสิขาดแล้ว สั่นไปหมด”

ซึ่งโพสต์นี้ผู้โพสต์จะสื่อสารถึงความคิดถึงเสียใจ บอกว่า สามีชาวอุดรธานีที่ทำงานที่ประเทศอิสราเอลเสียชีวิต โดยการผูกคอตาย หลังไปขายแรงงานเพื่อเลี้ยงครอบครัว

นอกจากนี้ผู้โพสต์ยังมีการแชร์คลิปต่างของเพื่อนสามี เพื่อไว้อาลัย ขณะที่ผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ “หัวใจส่อหล่อ” ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานได้โพสต์รูปภาพพิธีส่งวิญญาณ โดยในภาพมีเพื่อนร่วมงานนิมนต์พระสงฆ์วัดไทยที่อิสราเอล 1 รูปมาประกอบพิธีตามความเชื่อ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายอธิน สีเหลือง หรือ อาร์ม อายุ 27 ปี ชาวจ.อุดรธานีขณะที่เฟซบุ๊กชื่อ “บ่าวต้นโคราชพาลุย” ได้โพสต์คลิปวิดีโอสุดท้ายที่อาร์มทำอาหารกินกันกับเพื่อนๆ

ต่อมาผู้สื่อข่าวพร้อมเจ้าหน้าที่จัดหางานจังหวัด และเจ้าหน้าที่ประกันสังคมจังหวัดร่วมกันลงพื้นที่ โดยเดินทางไปยังภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิตที่หมู่บ้านทุ่งสว่าง ต.พังงู อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง และหาทางช่วยเหลือเยียวยาเรื่องสิทธิประโยชน์ตามระเบียบทางราชการ

โดยพบกับนางสุวรรณี สีเหลือง อายุ 76 ปี ย่าของนายอาร์ม และญาติอีก 2 คนอยู่ภายในบ้าน ซึ่งจากข้อมูลทางราชการพบว่านายอธิน อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานีเดินทางไปทำงานในรัฐอิสราเอล ในตำแหน่งคนงานเกษตร สัญญาจ้าง 2 ปีกับนายจ้าง เดินทางเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 66 ถือบัตรสมาชิกกองทุน เพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ สถานะอยู่ในความคุ้มครอง

นางสุวรรณี เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนเป็นย่าของอาร์ม ตั้งแต่พ่อแม่เขาแยกทางกัน ตนก็เลี้ยงดูอาร์มมาตั้งแต่อายุ 2 ขวบ แม่เป็นคนลาว หนีเขาไปตั้งแต่เล็กๆ ส่วนพ่อนั้นทำงานที่จ.ระยอง ตอนที่อาร์มทำงานที่ไทย ขาเป็นคนขยัน และเขาก็ไปทำงานที่อิสราเอลได้ประมาณ 2 ปีกว่า ทำงานเกี่ยวกับเกษตร ก่อนเขาไปต่างประเทศ เขาบอกกับย่าว่า “รออาร์มกลับมาบ้านนะย่า อย่าเพิ่งตายก่อนนะ แต่สิ่งที่อาร์มพูดนั้นกับกลับกัน อาร์มตายก่อนย่า”

อาร์มทำงานที่อิสราเอลเขาไม่เคยขาดการติดต่อเลย จะโทรศัพท์มาหาอยู่ประจำ และส่งเงินกลับมาให้ย่าดูแลครอบครัวใช้หนี้ใช้สินที่ตัวเองกู้ยืมไปทำงาน

ล่าสุดวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา อาร์มก็โทรศัพท์กลับมาหาบอกว่าปีหน้าจะกลับมา วันที่ 5 จะส่งเงินมาให้ยายซื้อรถจักรยานปั่นไปวัด แต่อาร์มก็เสียชีวิต การเสียชีวิตของอาร์มตนรู้แล้วว่าหลานผูกคอตาย ส่วนตัวแล้วตนไม่เชื่อว่าหลานจะคิดสั้น เพราะว่าตนเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กจนโต หลานไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยที่จะต้องน้อยใจคิดสั้นแบบนั้น ปัญหาทางบ้านทางครอบครัวก็ไม่มี ครอบครัวก็ไม่เคยกดดัน ส่วนสาเหตุที่หลานผูกคอตายนั้น ตนก็พูดไม่ออก บอกไม่ถูกตอนนี้ ศพของหลานตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าสาเหตุการเสียชีวิตนั้นเกิดจากอะไร ทั้งนี้หากศพหลานกลับมาบ้าน “ตนจะเอาบอนทาปาก เพราะตามความเชื่อคนอีสาน หากเอาใบบอนทาปากศพ ดวงวิญญาณมาบอกทุกอย่าง และหากมีคนกระทำให้เขาตาย เขาก็จะสารภาพเอง

ด้าน น.ส.ศศิกานต์ ศรีสุขา อายุ 22 ปี หรือหนึ่ง บอกว่า ตนกับอาร์มเป็นผัวเมียกัน แต่ไม่จดทะเบียนสมรส มีลูกผู้ชาย 1 คน อายุ 5 ขวบก่อนอาร์มไปทำงานอิสราเอล เขาก็ทำงานรับจ้างทั่วไปที่ประเทศไทย แต่เนื่องจากเขาอยากเห็นครอบครัวมีกินมีใช้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี จึงเดินทางไปทำงานที่อิสราเอล และอยากให้ครอบครัวของเราเป็นเหมือนครอบครัวของคนอื่น เพราะอาร์มโตมาเป็นจากครอบครัวเด็กกำพร้า อาร์มอยากให้ลูกมีทุกอย่างที่ตัวเองเคยไม่มี อาร์มเป็นคนอารมณ์ดีร่าเริงยิ่งอยู่กับเพื่อนยิ่งสนุกสนาน

ก่อนที่จะรู้ข่าวว่าอาร์มผูกคอตายนั้น 1 วัน ก่อนหน้าเวลาประมาณ 16.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ตนโทรไปหาบอกว่าทำไมวันนี้ไม่เห็นโทรมา ปกติจะเห็นโทรมาตอนเที่ยง แต่อาร์มก็ตอบกลับมาว่าวันนี้เหนื่อย นอนหลับจึงไม่ได้โทรกลับ หลังจากพูดคุยกันเสร็จก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย โทรไปก็ไม่รับ โทรไปถามเพื่อนร่วมงานให้ช่วยบอกอาร์มช่วยรับโทรศัพท์ด้วย แต่เพื่อนร่วมงานก็บอกว่าออกมาทำงาน อาร์มนอนหลับอยู่ที่ห้อง เวลา 22.00 น. โทรไปใหม่เพื่อนเขาก็บอกว่าอาร์มยังไม่เลิกงาน ต่อมา 23.00 น. เพื่อนร่วมงานก็โทรกลับมาบอกว่าอาร์มเสียชีวิตแล้ว ตอนนั้นตกใจทำอะไรไม่ถูก

ตนกับอาร์มไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน เรื่องทะเลาะรุนแรงเลย เราแค่ทะเลาะเรื่องเล็กๆ แต่ก็กลับมาคุยกันเหมือนเดิม ข่าวลือที่บอกว่าตนเป็นทะเลาะกับอาร์ม และทำให้อาร์มคิดสั้น ยืนยันได้ไม่จริง ส่วนตัวก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมอาร์มถึงคิดสั้นแบบนั้น

“อนาคตเราสองคนวางแผนไว้ว่าปีหน้าเราจะมีพิธีแต่งงานกัน แต่งงานเสร็จก็จะกลับไปทำงานที่ต่างประเทศอีกสัก 2 ปี เก็บเงินให้ได้สักก้อนแล้วกลับมาใช้ชีวิตอย่างครอบครัวแบบมีความสุขด้วยกัน หากดวงวิญญาณของสามีรับรู้อยากจะบอกว่ามีอะไรในใจทำไมไม่พูดไม่บอกให้ฟัง”

นายสุริยา ศรีสุขา อายุ 55 ปี พ่อตา เล่าว่า ตอนรู้ข่าวกำลังนอนหลับได้ยินเสียงมีคนมาเรียกที่หู เสียงคุ้นๆ คล้ายกับเสียงอาร์ม ร้องเรียกบอกว่าพ่อ ตนก็สะดุ้งตื่น แล้วลูกสาวเขาบอกว่าอาร์มผูกคอตายแล้ว ส่วนตัวพ่อคิดว่าสาเหตุอาจจะมีความขัดแย้งในที่ทำงาน และตนไม่คิดว่าลูกเขยจะคิดสั้นเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่อาร์มผูกคอเสียชีวิตนั้น เนื่องจากทะเลาะกับภรรยาแล้วน้อยใจ จึงใช้เชือกผูกคอพ่อคิดว่าไง นายสุริยา บอกว่า ตนในฐานะพ่อไม่เชื่อแน่นอน เพราะว่าลูกสาวคนนี้อยู่กับตนตลอด สำหรับลูกเขยคนนี้วาดฝันอนาคตไว้ว่า หากกลับมาจากต่างประเทศก็จะเปิดร้านขายของชำ ออกรถสักคัน ล่าสุดเขาก็เพิ่งโชคดีถูกหวยไทยได้รางวัล 2 หมื่นบาท

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...