โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

กรมประมง เผย 1 เดือน รับซื้อ #ปลาหมอคางดำ 2.29 ล้าน กก. เน้นย้ำ จับจริง ซื้อจริง

อีจัน

อัพเดต 24 มิ.ย. เวลา 13.33 น. • เผยแพร่ 24 มิ.ย. เวลา 06.32 น. • อีจัน

นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง ในฐานะโฆษกกรมประมง เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอัครา พรหมเผ่า ผลักดันให้รัฐบาลจัดงบประมาณ งบกลางเร่งด่วน เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ สำนักงบประมาณได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณ จำนวน 97,817,400 บาท ให้แก่กรมประมง เพื่อให้เร่งแก้ไขปัญหา ภายใต้ 2 มาตรการหลัก ดังนี้

มาตรการที่ 1 การควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำทุกแห่งที่พบการแพร่ระบาด จำนวน 92,004,056 บาท และมาตรการที่ 2 การนำปลาหมอคางดำที่กำจัดออกจากระบบนิเวศไปใช้ประโยชน์ จำนวน 5,813,344 บาท โดยกรมประมงได้ดำเนินการรับซื้อปลาหมอคางดำตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568 ผ่านจุดรับซื้อในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ระยอง กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี นครปฐม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราช และสงขลา แบ่งเป็น ราคารับซื้อปลาหมอคางดำ 15 บาท/กิโลกรัม (จ่ายให้กับชาวประมงหรือผู้จับปลามาขาย) และราคาค่าขนส่งและค่าบริหารจัดการรวบรวม 5 บาท/กิโลกรัม (จ่ายให้กับผู้รวบรวมหรือแพปลาที่เข้าร่วมโครงการฯ)

ปัจจุบันกรมประมงได้รับซื้อปลาหมอคางดำจากบ่อเพาะเลี้ยงของเกษตรกรและจากธรรมชาติ และได้จัดส่งให้กรมพัฒนาที่ดินและการยางแห่งประเทศไทยนำไปผลิตเป็นปุ๋ยหมักชีวภาพ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อในภาคเกษตร รวมแล้วกว่า 2,298,422 กิโลกรัม จากเป้าหมาย 3,000,000 กิโลกรัม (ข้อมูล ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2568) และนอกจากการรับซื้อปลาหมอคางดำเพื่อนำไปผลิตเป็นปุ๋ยหมักชีวภาพแล้ว กรมประมงได้ดำเนินการสนับสนุนปัจจัยในการกำจัดปลาหมอคางดำออกจากบ่อเพาะเลี้ยง อาทิ กากชา ปลาผู้ล่า และเครื่องมือประมงต่าง ๆ ที่ใช้ในการกำจัดปลาหมอคางดำ เพื่อช่วยเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงเตรียมบ่อ ภายหลังจากนำปลาจากบ่อมาขาย รวมถึงยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อทำความเข้าใจและแนะนำวิธีการเตรียมบ่อเพื่อเพาะเลี้ยง ตลอดจนการให้ข้อมูลและนวัตกรรมต่าง ๆ ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทางเลือก รวมถึงรณรงค์ให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ด้วยการเปิดจุดรับซื้อปลาหมอคางดำแล้ว กรมประมง โดยสำนักงานประมงจังหวัดที่พบการแพร่ระบาดยังได้ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนในพื้นที่ทำกิจกรรมลงแขกลงคลองอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนปัจจัย อาทิ เครื่องมือการทำประมงให้ชุมชน เพื่อเป็นอุปกรณ์ในการจับปลาหมอคางดำออกจากแหล่งน้ำธรรมชาติต่อไป

ท้ายนี้ นอกจากมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดและการกำจัดปลาหมอคางดำออกจากแหล่งน้ำที่กรมประมงดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่องแล้ว ปัจจุบันยังมีมาตรการทางกฎหมาย เพื่อการป้องกันการรุกรานของสัตว์น้ำต่างถิ่น โดยกรมประมงได้มีการบังคับใช้กฎหมายภายใต้มาตรา 64 และมาตรา 65 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีปลาหมอคางดำเป็น 1 ใน 13 ชนิดพันธุ์สัตว์น้ำต่างถิ่นที่ห้ามนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่าน เพาะเลี้ยง หรือมีไว้ในครอบครอง เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีกรมประมง อนึ่ง มาตรา 144 ได้กำหนดโทษไว้ว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 65 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดนำสัตว์น้ำไปปล่อยในที่จับสัตว์น้ำ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ซึ่งกรมประมง ได้ดำเนินการตั้งชุดเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในแต่ละพื้นที่ มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์และเร่งรัดให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่มีปลาหมอคางดำอยู่ในบ่อเร่งกำจัดออกจากบ่อ รวมถึงตรวจสอบที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำหรือมีเหตุให้สงสัยว่ามีการจำหน่ายปลาหมอคางดำให้กับโครงการของราชการ แบบมีการวนจำหน่ายซ้ำ และหากตรวจพบว่ามีการกระทำผิดตามกฎหมาย ก็จะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีทันที

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...