โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

JSP เผยราคายาทั่วโลกพุ่ง10.4%เอเชียแปซิฟิกคว้าแชมป์พุ่ง12.3%

Wealthy Thai

อัพเดต 19 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว

นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (JSP) เปิดเผยว่า ราคายาและค่ารักษาพยาบาลโดยรวมในหลายประเทศในปี 2025 ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการสำรวจของฝ่ายวิจัยพบว่า ราคายาทั่วโลกปรับขึ้นจากปี 2024 ประมาณ 10.4% โดยราคายาในสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นประมาณ 4.5% - 5.0% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นที่ต่ำกว่า 10% เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายควบคุมราคาในสหรัฐฯ ขณะที่ราคายาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ราคายาเพิ่มขึ้น อยู่ที่ 12.3% ซึ่งถือเป็นภูมิภาคที่มีแนวโน้มค่าใช้จ่ายทางการแพทย์โดยรวมเพิ่มขึ้นสูงสุดในโลก
สำหรับปัจจัยหลักที่ทำให้ราคายาปรับตัวสูงขึ้นในปี 2025 ประกอบด้วย

1. ยามีการใช้นวัตกรรมที่สูงขึ้นส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงตาม โดยเฉพาะยาที่ใช้รักษาโรคเรื้อรังและโรคหายาก เช่น มะเร็ง, โรคภูมิต้านตนเอง, และการบำบัดด้วยยีนบำบัด/เซลล์บำบัด เป็นยาที่มีความซับซ้อนในการวิจัยและพัฒนาสูงมาก ทำให้มีราคาเริ่มต้นในการเปิดตัว (Launch Price) ที่สูงมาก
2. ปัญหาเงินเฟ้อและต้นทุนการดำเนินงาน อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการผลิตยา เช่น ราคาวัตถุดิบ การขนส่ง และพลังงาน รวมถึงค่าแรงในภาคบริการสุขภาพ ส่งผลต่อต้นทุนด้านบุคลากรทางการแพทย์ (พยาบาล, เภสัชกร, นักวิจัย) ที่เพิ่มสูงขึ้นจากความต้องการที่สูงขึ้นและการขาดแคลนแรงงาน ก็ส่งผลต่อค่าบริการทางการแพทย์และราคายาด้วย
3. ต้นทุนการวิจัยและพัฒนา (R&D)ความซับซ้อนของการวิจัยแม้ว่าผลตอบแทนการลงทุนจากการวิจัยและพัฒนาจะดีขึ้น แต่ ต้นทุน R&D เฉลี่ยต่อยาใหม่หนึ่งตัว ยังคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากกระบวนการวิจัยทางคลินิกมีความซับซ้อนและมีข้อกำหนดด้านกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น
นอกจากนี้ JSP ยังประเมินว่าราคายาจะมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องจากนี้ไปอย่างน้อยปีละ 10% จากปัจจัยนี้ส่งผลให้เทรนด์การดูแลสุขภาพก่อนป่วยจึงได้รับความนิยมจากทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานที่เริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพอย่างจริงจัง รวมถึงเทรนด์การกินอาหารเป็นยา (Food as Medicine) ด้วยการเลือกกินอาหารเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันและจัดการโรค โดยเน้นอาหารจากธรรมชาติ สมุนไพร และอาหารฟังก์ชันที่มีประโยชน์เฉพาะทาง เช่น ผัก ผลไม้ ปลาทะเล โยเกิร์ต และอาหารออร์แกนิค เพื่อบำรุงสุขภาพกายและจิตใจ กลายเป็นเมกะเทรนด์ที่ขยายออกไปสู่ผู้คนทั่วโลก ซึ่งเทรนด์นี้เป็นปัจจัยหนุนสำคัญให้เกิดการขยายตัวของตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารสกัดจากพืชและสมุนไพร เนื่องจากช่วยให้การได้รับสารอาหารครบตามปริมาณที่ร่างกายต้องการได้สะดวกรวดเร็ว และเป็นทางเลือกสำหรับวัยทำงานที่มีเวลาจำกัด ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันก่อนป่วย
ทั้งนี้เทรนด์ดังกล่าวยังสนับสนุนให้ยอดขายในส่วนของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของ JSP ภายใต้แบรนด์ “สุภาพโอสถ” มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยยอดขายในปีนี้คาดว่าจะทำได้ที่ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 845.9 ล้านบาท และคาดว่าในอนาคตยอดขายจะยังเติบโตตามเทรนด์ที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นเพราะไม่อยากเจ็บป่วยอีกทั้งยังหลีกเลี่ยงราคายารักษาโรคที่มีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...