โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

ธปท. ชี้เศรษฐกิจไทย ส่งออก-ลงทุนฟื้นเล็กน้อย แต่กำลังซื้อยังหด

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนพฤศจิกายน 2568 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยมีแรงสนับสนุนหลักจากการขยายตัวของภาคส่งออกและการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน อย่างไรก็ตาม การบริโภคภาคเอกชนยังคงชะลอตัว สะท้อนความเปราะบางของกำลังซื้อในประเทศ

ธปท.ระบุว่า แม้ความต้องการภายในประเทศโดยรวมจะปรับดีขึ้นจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น แต่การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนกลับลดลง จากการใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้าที่ชะลอตัว ซึ่งไปหักล้างกับการใช้จ่ายในหมวดสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการที่ขยายตัว

นางชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า การบริโภคมีแนวโน้มปรับดีขึ้นในเดือนธันวาคม จากปัจจัยฤดูกาลและการใช้จ่ายช่วงเทศกาลปลายปี ซึ่งอาจช่วยพยุงกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระยะสั้น

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวม ธปท.คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัวราว 2.2% ก่อนจะชะลอลงเหลือ 1.5% ในปี 2569 หลังจากปี 2567 เติบโต 2.5% โดยเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคนับตั้งแต่ช่วงหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19

ในปี 2568 เศรษฐกิจไทยยังเผชิญแรงกดดันหลายด้าน ทั้งมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ระดับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองก่อนการเลือกตั้งในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2569

ขณะเดียวกัน ค่าเงินบาทยังแข็งค่ามากกว่าระดับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ โดยผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. ระบุว่า ธนาคารกลางมีมาตรการดูแลความผันผวนของค่าเงินอย่างใกล้ชิด โดยนับตั้งแต่ต้นปี ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นราว 9% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เงินบาทเป็นสกุลเงินที่แข็งค่ามากเป็นอันดับสองในเอเชีย

การแข็งค่าของเงินบาทกลายเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงสำคัญต่อความสามารถในการแข่งขันของภาคส่งออกและการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทย ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน ภาคส่งออกซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจ ขยายตัว 5.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การนำเข้าพุ่งขึ้นถึง 17.3% ส่งผลให้ประเทศไทยขาดดุลการค้า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนเดียวกัน

ภาพรวมดังกล่าวสะท้อนว่า แม้เศรษฐกิจไทยจะเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวจากภาคต่างประเทศและการลงทุน แต่ฐานการบริโภคภายในประเทศยังอ่อนแรง และยังคงต้องเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกและความไม่แน่นอนเชิงโครงสร้างในอนาคต

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...